ไปดูกันเลยว่า "10 บ้านอยู่แล้วจน"เป็นยังไงแล้วจะมีวิธีแก้ไขกันยังไง ลองไปดูกันเลยดังนี้ แบบที่
1.คือบ้านที่มีลักษณะมืดทึบหรือถูกบดบังแสง ตำราฮวงจุ้ยมองบ้านประเภทนี้ไปในแบบของศาสตร์ที่มองไม่เห็น ด้วยเหตุผลแล้วบ้านมืด ๆ ทึบ ๆ อับ ๆดูแล้วเหมือนถ้ำ เมื่อนึกถึงถ้ำย่อมลึกลับไม่มีใครอยากเข้าไปสุงสิง ไม่อยากติดต่อหรือแม้แต่การทำธุรกิจหรือธุรกรรมที่ถือว่า "ไม่มีสง่าราศีและความน่าเชื่อถือ" วิธีแก้ก็คือทำให้บ้านสว่าง ๆเข้าไว้ ถ้ามีอะไรบังเช่นต้นไม้ พุ่มไม้ หรือวัสดุอะไรก็ให้เอาออกซะ กลางคืนก็หมั่นเปิดแสงสว่างเอาไว้ให้มาก ๆ เพราะถ้าปล่อยให้มืด ๆ อย่างนั้นยากจนแน่ เพราะบ้านคุณจะชุมไปด้วยหัวขโมย
2.บ้านที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ในบ้านและใกล้ชิดตัวบ้านมากเกินไป บ้านแบบนี้ไม่จนก็ต้องจน เพราะรากไม้จะชอนไชไปทำลายโครงสร้าง ที่นี้ก็ลองนึกดูเอาละกันว่าถ้าโครงสร้างบ้านเสียรูปเสียรอยต้องใช้เงินแก้เท่าไหร่ อีกทั้งกิ่งก้านสาขาเมื่อโดนลม โดนฝนก็พาลจะหล่นลงมาทำให้หลังคาทะลุ งานนี้คงต้องซ่อมกันไม่รู้จบ แบบนี้ "ไม่จนจะทนไหวเหรอ" ทางแก้ก็คือถ้าตัดได้ก็ตัด ตัดไม่ได้ก็ต้องหมั่นคอยแต่ง เรื่องนี้ไม่ใช่แค่หลักฮวงจุ้ย แต่มันก็เป็นเหตุเป็นผลทำให้ "จน" ได้
3.บริเวณบ้านหรือใกล้บ้านสกปรก ในทางฮวงจุ้ยว่า "ขาดพลังชี่" แต่แน่นอนว่าบ้านแบบนี้เห็นแต่ไกล ทั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์และภาพไม่ค่อยจะถูกตาถูกใจ คนอื่นก็ไม่อยากเข้าใกล้ บ้านแบบนี้ใครอยากจะเข้าไปทำธุรกิจธุรกรรมด้วย ทางแก้ก็ไม่ยากแค่เก็บกวาดให้สะอาดเรียบร้อย อะไรที่รกหูรกตา ก็จัดการให้เป็นที่เป็นทาง
4.บ้านถูกบดบังทัศนียภาพบริเวณหน้าบ้าน เช่นเรื่องของสะพาน หรือเส้นทางรถไฟฟ้าตัดผ่าน บ้านในลักษณะนี้จะถูกบดบังหน้าบ้านไปโดยปริยายส่งผลต่อความงามสง่าของบ้าน ที่สำคัญก็จะไปตรงกับข้อ 1 คือกลายเป็นบ้านมืด ในทางฮวงจุ้ยว่าไม่ดีแต่ในทางเหตุและผลแล้ว บ้านแบบนี้คงไม่สงบแน่เพราะทั้งสะพาน ทั้งเส้นทางคมนาคมล้วนจ๊อกแจ๊กจอแจทำให้คนที่อาศัยสูญเสียซึ่งสมาธิ คิดแบบง่าย ๆว่าถ้าไม่มีสมาธิแล้วจะทำอะไรก็คงจะลำบาก โดยเฉพาะเรื่องทำมาหากิน ดังนั้นบ้านแบบนี้ถือว่าอยู่แล้วจนประเภทหนึ่ง ส่วนทางแก้นั้นเมื่อต้องอยู่ตรงนั้นแล้วแก้ยาก ทางที่ดีก็ควรดูทำเลบ้านให้ดีก่อน แต่เมื่อต้องอยู่แล้วทางแก้ก็คือ เปิดไฟหรือทำอะไรให้บ้านสว่าง ถ้าติดกระจกลดเสียงหรือสะท้อนให้บ้านมีความสว่างมากขึ้นก็ลดหรือช่วยให้บ้านดีขึ้นได้
5.บ้านที่อยู่ต่ำและสูงกว่าถนนมากเกินไป เรื่องนี้แน่นอนว่ามีผลในทางฮวงจุ้ยที่ว่า โชคลาภจะไม่มา แต่ในหลักของเหตุและผลแล้ว ถ้าบ้านต่ำเกินไป ฝนตกน้ำจากถนนก็จะไหลเข้าบ้าน และสารพัดสิ่งสกปรกก็จะตามมา บ้านคุณก็จะกลายเป็นบ้านเก็บน้ำรอการระบายไปซะงั้น นอกจากนี้เวลามีแขกเหรื่อมาเยือนก็จะพาลสะดุดหน้าทิ่ม ส่วนบ้านที่สูงเกินไปก็นั่นแหละใครหละจะอยากเข้าไปเยือน เพราะมันดูเหมือนจะโด่งๆ ไม่งาม และก็อีกเช่นกันบ้านในสองลักษณะนี้แค่เห็นก็ไม่น่าที่จะเข้าไปร่วมสังฆกรรมใด ๆ รวมถึงธุรกิจการค้าการขายด้วย ทางแก้ก็คือหากต่ำเกินไปก็ถมให้สูงขึ้น ส่วนถ้าสูงเกินไปจะตัดบางส่วนของชั้นล่างเอาไปเป็นใต้ถุนบ้างก็ได้นะ
เมื่อครึ่งทางของ"บ้านอยู่แล้วจน" ส่วนใหญ่จะว่ากันถึง "สภาพแวดล้อมนอกบ้าน" คราวนี้ อีก 5 ประการของบ้านลักษณะนี้ที่เกิดอยู่ในตัวบ้านเป็นไง ไปดูกันเลย
6.รั้วบ้านเตี้ย ขโมยไม่ต้องออกแรงอะไรมาก แบบนี้ปกป้องอะไรเราไม่ได้เลย ในทางฮวงจุ้ยว่ากันไปเรื่องของการไหลเข้าออกของโชคลาภ แต่เรื่องของบ้านรั้วเตี้ยมีผลให้อยู่แล้วจนก็คงเรื่องโจรขโมย หรือให้ไกลกว่านั้นคือ รั้วเตี้ย ๆบังอะไรเราไม่ได้ ใครผ่านไปผ่านมาก็เห็นว่าเราทำอะไร หรือรั้วเตี้ย ๆ ไม่สามารถปิดบังเรื่องราวที่เป็นส่วนตัวอะไรได้เลย ถ้าทำธุรกิจคู่แข่งของคุณก็ส่งสปายมามองๆ ความลับทางธุรกิจได้ง่ายๆ นี่แหละสาเหตุแห่งความเป็น "บ้านอยู่แล้วจน"
7.บ้านที่เปิดประตูเข้ามาก็เจอห้องน้ำ เคยมีสุภาษิตกล่าวไว้ว่ามีลูกสาวเหมือนมีห้องน้ำอยู่หน้าบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าบ้านทั่ว ๆไปก็ไม่ควรจะมีห้องน้ำไว้ต้อนรับแขก เพราะ "ห้องน้ำ"เป็นที่ ๆเป็นส่วนตัวสุด ๆ และควรจะอยู่ในตำแหน่งอันควรปกปิด (ไม่ต้องบอกนะว่าควรปกปิดอะไรทั้งความเป็นส่วนตัว และเรื่องของกลิ่น" ดังนั้นเปิดประตูบ้านเข้ามาเจอห้องน้ำเลย ในทางฮวงจุ้ยก็ว่าไม่เหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนในทางเหตุและผล ห้องน้ำเต็มไปด้วยความชื้นและแบคทีเรีย การเอามาไว้หน้าบ้านต้อนรับแขก ก็เหมือนเอาแบคทีเรียมาโชว์นั่นแหละ ส่วนทางแก้นั่นหรือ ลงทุนซักหน่อยก็ย้ายห้องน้ำไปไว้ในที่ๆ เหมาะสมสิ ...
8.ประตูและหน้าต่างมีเยอะเกินไป ในทางฮวงจุ้ยว่าโชคลาภเงินทองไหลออกแต่ในทางเหตุและผล นี่มันเป็นช่องทางอันสดใสของบรรดาโจรและมิจฉาชีพ ประตูเยอะ หน้าต่างเยอะดูแลไม่หมด ก็จะมีคนที่ไม่พึงประสงค์ใช้ช่องทางเข้ามานำพาลาภของคุณออกไปจากบ้านเอาได้ง่ายๆ วิธีแก้ก็ง่ายนิดเดียวแค่ฉาบปูนปิดไปซะบ้าง ส่วนจะรู้ได้ไงว่าเยอะไม่เยอะก็ให้ดูความเหมาะสมตาม ขนาดของบ้านเป็นหลัก บ้านคุณ ๆ ย่อมดูรู้อยู่แล้วว่าควรมีประตูหน้าต่างเท่าไหร่จึงจะเรียกว่าเหมาะสม
9.เปิดประตูบ้านแล้วเจอบันได อันนี้ในทางฮวงจุ้ยถือว่าไม่ดี แต่ในทางเหตุและผลแล้วเวลาเราขึ้นลงบันไดมันก็จะมีฝุ่นมีละออง หรือบันไดเองถ้ามาจะเอ๋ตรงประตูบ้านก็จะทำให้บ้านมืด มีบันไดตรงหน้าประตูบ้าน ใครไปใครมาก็จะดูไม่งาม เพราะคุณลงมาพบกับแขกที่มาหาก็จะเตะเอาฝุ่นละอองมาไว้ตรงหน้าเขา เหมือนไม่ให้เกียรติ หรือเปิดบ้านมาเจอบันไดมันก็ไม่ใช่อะไรที่น่ามองมากนัก ใครเล่าจะอยากแวะมาเยี่ยมมาเยียนหรือทำธุรกิจธุรกรรมด้วยเล่า ทางแก้ก็แค่เอาบันไดไปไว้ตรงอื่นที่ไม่ใช่ตรงหน้าประตูบ้านก็น่าจะทำได้ไม่ยากละมั้ง
10.ประตูทางเข้าบ้านแคบและรก อันนี้ก็ไม่ต่างจากบริเวณบ้านรกสกปรก เรื่องนี้ไม่ว่าจะในบริเวณบ้าน หรือนอกตัวบ้านก็เหมือนกัน ในทางฮวงจุ้ยว่ารกแคบ ขวางโชคลาภ แต่ในทางเหตุและผลว่ารก สกปรก แคบ แค่เห็นก็ไม่อยากจะเข้าไปแล้ว เมื่อไม่มีคนอยากเข้า ไปทำธุรกิจธุรกรรมอะไรก็คงไม่เหมาะนัก นี่แหละที่มาแห่งความจน ทางแก้ก็ขยายทางเข้าตรงประตูเสียให้ดูดี อย่าให้รกสกปรกและแคบเกินไปนัก
นี่คือ 10 ประการบ้านอยู่แล้วจน ที่มาพร้อมๆ กับวิธีแก้แบบคร่าวๆ ซึ่งก็บอกแล้วว่าคร่าวๆ ส่วนถ้าจะลึกลงไปในรายละเอียดถามผู้รู้ดูอีกทีก็จะดีไม่น้อย เรื่องราวแบบนี้แค่แนะนำตามเหตุและผล กับ เรื่องของวิธีแก้แบบง่ายๆ ถ้าใครเชื่อจิ้งจกทักแบบลึกซึ้งลงไปกว่านี้ ก็ต้องผู้ชำนาญการแล้วหละ ...
ที่มา thaiquote
1.คือบ้านที่มีลักษณะมืดทึบหรือถูกบดบังแสง ตำราฮวงจุ้ยมองบ้านประเภทนี้ไปในแบบของศาสตร์ที่มองไม่เห็น ด้วยเหตุผลแล้วบ้านมืด ๆ ทึบ ๆ อับ ๆดูแล้วเหมือนถ้ำ เมื่อนึกถึงถ้ำย่อมลึกลับไม่มีใครอยากเข้าไปสุงสิง ไม่อยากติดต่อหรือแม้แต่การทำธุรกิจหรือธุรกรรมที่ถือว่า "ไม่มีสง่าราศีและความน่าเชื่อถือ" วิธีแก้ก็คือทำให้บ้านสว่าง ๆเข้าไว้ ถ้ามีอะไรบังเช่นต้นไม้ พุ่มไม้ หรือวัสดุอะไรก็ให้เอาออกซะ กลางคืนก็หมั่นเปิดแสงสว่างเอาไว้ให้มาก ๆ เพราะถ้าปล่อยให้มืด ๆ อย่างนั้นยากจนแน่ เพราะบ้านคุณจะชุมไปด้วยหัวขโมย
2.บ้านที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ในบ้านและใกล้ชิดตัวบ้านมากเกินไป บ้านแบบนี้ไม่จนก็ต้องจน เพราะรากไม้จะชอนไชไปทำลายโครงสร้าง ที่นี้ก็ลองนึกดูเอาละกันว่าถ้าโครงสร้างบ้านเสียรูปเสียรอยต้องใช้เงินแก้เท่าไหร่ อีกทั้งกิ่งก้านสาขาเมื่อโดนลม โดนฝนก็พาลจะหล่นลงมาทำให้หลังคาทะลุ งานนี้คงต้องซ่อมกันไม่รู้จบ แบบนี้ "ไม่จนจะทนไหวเหรอ" ทางแก้ก็คือถ้าตัดได้ก็ตัด ตัดไม่ได้ก็ต้องหมั่นคอยแต่ง เรื่องนี้ไม่ใช่แค่หลักฮวงจุ้ย แต่มันก็เป็นเหตุเป็นผลทำให้ "จน" ได้
3.บริเวณบ้านหรือใกล้บ้านสกปรก ในทางฮวงจุ้ยว่า "ขาดพลังชี่" แต่แน่นอนว่าบ้านแบบนี้เห็นแต่ไกล ทั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์และภาพไม่ค่อยจะถูกตาถูกใจ คนอื่นก็ไม่อยากเข้าใกล้ บ้านแบบนี้ใครอยากจะเข้าไปทำธุรกิจธุรกรรมด้วย ทางแก้ก็ไม่ยากแค่เก็บกวาดให้สะอาดเรียบร้อย อะไรที่รกหูรกตา ก็จัดการให้เป็นที่เป็นทาง
4.บ้านถูกบดบังทัศนียภาพบริเวณหน้าบ้าน เช่นเรื่องของสะพาน หรือเส้นทางรถไฟฟ้าตัดผ่าน บ้านในลักษณะนี้จะถูกบดบังหน้าบ้านไปโดยปริยายส่งผลต่อความงามสง่าของบ้าน ที่สำคัญก็จะไปตรงกับข้อ 1 คือกลายเป็นบ้านมืด ในทางฮวงจุ้ยว่าไม่ดีแต่ในทางเหตุและผลแล้ว บ้านแบบนี้คงไม่สงบแน่เพราะทั้งสะพาน ทั้งเส้นทางคมนาคมล้วนจ๊อกแจ๊กจอแจทำให้คนที่อาศัยสูญเสียซึ่งสมาธิ คิดแบบง่าย ๆว่าถ้าไม่มีสมาธิแล้วจะทำอะไรก็คงจะลำบาก โดยเฉพาะเรื่องทำมาหากิน ดังนั้นบ้านแบบนี้ถือว่าอยู่แล้วจนประเภทหนึ่ง ส่วนทางแก้นั้นเมื่อต้องอยู่ตรงนั้นแล้วแก้ยาก ทางที่ดีก็ควรดูทำเลบ้านให้ดีก่อน แต่เมื่อต้องอยู่แล้วทางแก้ก็คือ เปิดไฟหรือทำอะไรให้บ้านสว่าง ถ้าติดกระจกลดเสียงหรือสะท้อนให้บ้านมีความสว่างมากขึ้นก็ลดหรือช่วยให้บ้านดีขึ้นได้
5.บ้านที่อยู่ต่ำและสูงกว่าถนนมากเกินไป เรื่องนี้แน่นอนว่ามีผลในทางฮวงจุ้ยที่ว่า โชคลาภจะไม่มา แต่ในหลักของเหตุและผลแล้ว ถ้าบ้านต่ำเกินไป ฝนตกน้ำจากถนนก็จะไหลเข้าบ้าน และสารพัดสิ่งสกปรกก็จะตามมา บ้านคุณก็จะกลายเป็นบ้านเก็บน้ำรอการระบายไปซะงั้น นอกจากนี้เวลามีแขกเหรื่อมาเยือนก็จะพาลสะดุดหน้าทิ่ม ส่วนบ้านที่สูงเกินไปก็นั่นแหละใครหละจะอยากเข้าไปเยือน เพราะมันดูเหมือนจะโด่งๆ ไม่งาม และก็อีกเช่นกันบ้านในสองลักษณะนี้แค่เห็นก็ไม่น่าที่จะเข้าไปร่วมสังฆกรรมใด ๆ รวมถึงธุรกิจการค้าการขายด้วย ทางแก้ก็คือหากต่ำเกินไปก็ถมให้สูงขึ้น ส่วนถ้าสูงเกินไปจะตัดบางส่วนของชั้นล่างเอาไปเป็นใต้ถุนบ้างก็ได้นะ
เมื่อครึ่งทางของ"บ้านอยู่แล้วจน" ส่วนใหญ่จะว่ากันถึง "สภาพแวดล้อมนอกบ้าน" คราวนี้ อีก 5 ประการของบ้านลักษณะนี้ที่เกิดอยู่ในตัวบ้านเป็นไง ไปดูกันเลย
6.รั้วบ้านเตี้ย ขโมยไม่ต้องออกแรงอะไรมาก แบบนี้ปกป้องอะไรเราไม่ได้เลย ในทางฮวงจุ้ยว่ากันไปเรื่องของการไหลเข้าออกของโชคลาภ แต่เรื่องของบ้านรั้วเตี้ยมีผลให้อยู่แล้วจนก็คงเรื่องโจรขโมย หรือให้ไกลกว่านั้นคือ รั้วเตี้ย ๆบังอะไรเราไม่ได้ ใครผ่านไปผ่านมาก็เห็นว่าเราทำอะไร หรือรั้วเตี้ย ๆ ไม่สามารถปิดบังเรื่องราวที่เป็นส่วนตัวอะไรได้เลย ถ้าทำธุรกิจคู่แข่งของคุณก็ส่งสปายมามองๆ ความลับทางธุรกิจได้ง่ายๆ นี่แหละสาเหตุแห่งความเป็น "บ้านอยู่แล้วจน"
7.บ้านที่เปิดประตูเข้ามาก็เจอห้องน้ำ เคยมีสุภาษิตกล่าวไว้ว่ามีลูกสาวเหมือนมีห้องน้ำอยู่หน้าบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าบ้านทั่ว ๆไปก็ไม่ควรจะมีห้องน้ำไว้ต้อนรับแขก เพราะ "ห้องน้ำ"เป็นที่ ๆเป็นส่วนตัวสุด ๆ และควรจะอยู่ในตำแหน่งอันควรปกปิด (ไม่ต้องบอกนะว่าควรปกปิดอะไรทั้งความเป็นส่วนตัว และเรื่องของกลิ่น" ดังนั้นเปิดประตูบ้านเข้ามาเจอห้องน้ำเลย ในทางฮวงจุ้ยก็ว่าไม่เหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนในทางเหตุและผล ห้องน้ำเต็มไปด้วยความชื้นและแบคทีเรีย การเอามาไว้หน้าบ้านต้อนรับแขก ก็เหมือนเอาแบคทีเรียมาโชว์นั่นแหละ ส่วนทางแก้นั่นหรือ ลงทุนซักหน่อยก็ย้ายห้องน้ำไปไว้ในที่ๆ เหมาะสมสิ ...
8.ประตูและหน้าต่างมีเยอะเกินไป ในทางฮวงจุ้ยว่าโชคลาภเงินทองไหลออกแต่ในทางเหตุและผล นี่มันเป็นช่องทางอันสดใสของบรรดาโจรและมิจฉาชีพ ประตูเยอะ หน้าต่างเยอะดูแลไม่หมด ก็จะมีคนที่ไม่พึงประสงค์ใช้ช่องทางเข้ามานำพาลาภของคุณออกไปจากบ้านเอาได้ง่ายๆ วิธีแก้ก็ง่ายนิดเดียวแค่ฉาบปูนปิดไปซะบ้าง ส่วนจะรู้ได้ไงว่าเยอะไม่เยอะก็ให้ดูความเหมาะสมตาม ขนาดของบ้านเป็นหลัก บ้านคุณ ๆ ย่อมดูรู้อยู่แล้วว่าควรมีประตูหน้าต่างเท่าไหร่จึงจะเรียกว่าเหมาะสม
9.เปิดประตูบ้านแล้วเจอบันได อันนี้ในทางฮวงจุ้ยถือว่าไม่ดี แต่ในทางเหตุและผลแล้วเวลาเราขึ้นลงบันไดมันก็จะมีฝุ่นมีละออง หรือบันไดเองถ้ามาจะเอ๋ตรงประตูบ้านก็จะทำให้บ้านมืด มีบันไดตรงหน้าประตูบ้าน ใครไปใครมาก็จะดูไม่งาม เพราะคุณลงมาพบกับแขกที่มาหาก็จะเตะเอาฝุ่นละอองมาไว้ตรงหน้าเขา เหมือนไม่ให้เกียรติ หรือเปิดบ้านมาเจอบันไดมันก็ไม่ใช่อะไรที่น่ามองมากนัก ใครเล่าจะอยากแวะมาเยี่ยมมาเยียนหรือทำธุรกิจธุรกรรมด้วยเล่า ทางแก้ก็แค่เอาบันไดไปไว้ตรงอื่นที่ไม่ใช่ตรงหน้าประตูบ้านก็น่าจะทำได้ไม่ยากละมั้ง
10.ประตูทางเข้าบ้านแคบและรก อันนี้ก็ไม่ต่างจากบริเวณบ้านรกสกปรก เรื่องนี้ไม่ว่าจะในบริเวณบ้าน หรือนอกตัวบ้านก็เหมือนกัน ในทางฮวงจุ้ยว่ารกแคบ ขวางโชคลาภ แต่ในทางเหตุและผลว่ารก สกปรก แคบ แค่เห็นก็ไม่อยากจะเข้าไปแล้ว เมื่อไม่มีคนอยากเข้า ไปทำธุรกิจธุรกรรมอะไรก็คงไม่เหมาะนัก นี่แหละที่มาแห่งความจน ทางแก้ก็ขยายทางเข้าตรงประตูเสียให้ดูดี อย่าให้รกสกปรกและแคบเกินไปนัก
นี่คือ 10 ประการบ้านอยู่แล้วจน ที่มาพร้อมๆ กับวิธีแก้แบบคร่าวๆ ซึ่งก็บอกแล้วว่าคร่าวๆ ส่วนถ้าจะลึกลงไปในรายละเอียดถามผู้รู้ดูอีกทีก็จะดีไม่น้อย เรื่องราวแบบนี้แค่แนะนำตามเหตุและผล กับ เรื่องของวิธีแก้แบบง่ายๆ ถ้าใครเชื่อจิ้งจกทักแบบลึกซึ้งลงไปกว่านี้ ก็ต้องผู้ชำนาญการแล้วหละ ...
ที่มา thaiquote