อ่านซะ ความจริงเรื่องขายข้าวออนไลน์ สคบ. มาตอบเอง

สรุป ข้อเท็จจริงกรณีการโพสต์ขายข้าวสารผ่านเฟซบุ๊ก (การขายแบบออนไลน์)

- พฤติกรรมการขายผ่านเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรม (การขายแบบออนไลน์) ที่ปรากฎตามข้อเท็จจริงในขณะนี้ จากการตรวจสอบพบว่า องค์ประกอบในการกระทำการขายหรือโพสต์ข้อมูลยังไม่ครบตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งมีบัญญัติไว้ตาม พรบ. ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ ๒๕๔๕

- ณ ตอนนี้ จดทะเบียนขายตรง หรือตลาดแบบตรง ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และต้องมาจดเฉพาะส่วนกลาง (ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ) เท่านั้น กฎหมายยังไม่ให้อำนาจส่วนอื่นใดรับจดทะเบียน การประกอบธุรกิจขายตรง หรือการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง

- กฏหมายมีเจตนาต้องการที่จะกำกับดูแล ส่งเสริม กับบุคคลหรือใครก็ตามที่ต้องการจะทำในลักษณะที่เป็นการประกอบธุรกิจอย่างจริงจัง ไม่ใช่มีเจตนาที่จะกำกับให้บุคคลที่ทำบ้างเป็นครั้งบางคราว แค่เพียงระยะเวลาสั้นๆ เป็นการเฉพาะกิจ ดังนั้น ร้านค้าใดที่เข้าข่ายนิยามบ้างต้องมาดูรายละเอียดถึงพฤติกรรมอีกทีว่าการที่เค้าโพสต์เป็นเพียงแค่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ในตัวของสินค้าเท่านั้น ไม่มีช่องทางให้คนทั่วไปซื้อสินค้าผ่านเฟซบุ๊กได้ หรือผู้โพสต์ไม่ได้บอกรายละเอียดอย่างเพียงพอที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ หรือหากผู้บริโภคต้องการซื้อสินค้าต้องไปตกลงกันอีกที ถ้าข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้ก็ไม่เข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ตาม พรบ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ ๒๕๔๕

- ความจริงการขายแบบตลาดแบบตรงหรือที่เรียกสั้นๆ ว่าการขายแบบออนไลน์ ผู้ขายต้องให้ข้อมูลผู้บริโภค หรือคนที่เห็นสื่อนั้นๆ สามารถตัดสินใจสั่งซื้อได้เลยโดยที่ไม่ต้องไปหาข้อมูลอื่นๆ อีก เพื่อประกอบการตัดสินใจในการที่จะซื้อหรือไม่ซื้อ ถ้าหากผู้ขายให้ข้อมูลผู้บริโภคไม่ครบถ้วนและทำให้ไม่สามารถตัดสินใจซื้อได้ หรือทั้งสองฝ่ายยังคงต้องไปตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขการซื้อขาย ถือว่าสัญญายังไม่เกิดบนสื่อ ณ ขณะนั้น สัญญาไปเกิดขึ้นหลังจากไปที่ตกลงกันอีกที แบบนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการตลาดแบบตรงตาม พรบ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ ๒๕๔๕

- การโพสต์ขายข้าวสารของชาวนาจริงๆ ก็ไม่มีลักษณะและเจตนาที่จะประกอบธุรกิจอย่างจริงจัง เป็นเพียงแค่การหาช่องทางระบายข้าวแบบเป็นครั้งคราว ถือไม่ได้ว่าเป็นการประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายจะต้องเข้าไปกำกับดูแล หรือจะต้องจดทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนด เพราะการประกอบธุรกิจเป็นการมุ่งหวังผลกำไรเป็นตัวตั้งและต้องกระทำการนั้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำแบบชั่วครั้งชั่วคราวคงเป็นไปไม่ได้ในทางธุรกิจ

หากเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง คำนิยามตามมาตรา ๓ "ตลาดแบบตรง" คือ การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขาย สินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภค ซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางและมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการ จากผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงนั้น

มาตรา ๒๗  ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง เว้นแต่จะได้จดทะเบีบนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงตาม พรบ.นี้

บทลงโทษตาม มาตรา ๔๗ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๐ หรือมาตรา ๒๗ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑ แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน ๑ หมื่นบาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน




ที่มา : สคบ. กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง