ดีเอสไอได้ภาพชัด “ธัมมชโย” เดินในวัด! ธรรมกายอ่วมเจอ 158 คดี

ดีเอสไอยันเอง ขอหมายค้นอีก ธรรมกายอ่วม! พรวดถึง 158 คดี ตร.บุกบ้านโฆษก
ดีเอสไอเผยมีภาพพระธัมมชโยเดินอยู่ภายในวัดโดยมีคนประคองเตรียมยื่นเรื่องต่อศาลอธิบายสาเหตุไม่เข้าค้นตามหมาย ระบุกลัวเกิดปะทะกับคนในวัด เตรียมพิจารณาขอหมายค้นอีกครั้ง ด้านตร.ลุยบุกค้นบ้านโฆษก หลังศาลอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอดวงแตก บังคับโดรนถ่ายภาพภายใน แต่ดันตกใส่หัวแตก ศรีวราห์ประชุมเครียด สำนักพุทธฯแจ้งสอบสวนข่าวมีพระต่างด้าวอยู่ในวัด แต่ตรวจแล้วกลับไม่พบ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผกก.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา ฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวถึงการดำเนินการกับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะเป็นผู้ให้สัมภาษณ์เพียงผู้เดียว ทีมโฆษกทราบแต่เพียงว่ามีการดำเนินคดีต่างๆ กว่า 100 คดี ในหลายข้อหา กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงตามนั้น เป็นการดำเนินคดีทั่วไป ใครทำผิดในส่วนไหนก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอนที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ดูอยู่แล้ว

“ส่วนการดำเนินการตามหมายค้นวัดพระธรรมกาย ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรนั้น ก็เป็นไปตามที่ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ ส่วนจะขอหมายค้นเพิ่มหรือไม่นั้นต้องดูในรายละเอียดและขั้นตอน ต้องดูตามสถานการณ์วันต่อวัน ตน ไม่อยากพูดอะไรมาก ต้องแล้วแต่ ผบ.ตร. เพราะต้องการทำให้การให้ข่าวเป็นเอกภาพ การดำเนินตามกฎหมายก็ต้องจับ เพราะคดีมีอายุความอยู่แล้ว” รองโฆษก ตร. กล่าว

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเชื่อใจเจ้าหน้าที่ว่ามีหน้าที่บังคับ การให้เป็นไปตามกฎหมาย ที่ต้องพยายามอย่างเต็มที่ จะถามว่าจะจับได้สักคดีหรือไม่ จะจบได้สักคดีหรือถึงครึ่งหรือไม่นั้น ตนตอบไม่ถูก เพราะเป็นการถามไว้กระแหนะกระแหนกัน เพราะเจ้าหน้าที่ก็ต้องพยายามทำให้ได้ทุกคดี ต้องติดตามเอาตัวมาลงโทษ และต้องป้องกันไม่ให้มีคดีก็เป็นหน้าที่

เมื่อถามว่าหากไม่เข้าตรวจค้นตามหมายค้นที่กำหนดเวลาวันที่ 16 ธ.ค.นี้ เป็นวันสุดท้าย จะมีโอกาสขอหมายค้นได้ใหม่อีกรอบหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่มีการรายงานอะไร ซึ่งตนบอกไปแล้วว่าไม่ต้องมารายงานยกเว้นมีอุปสรรคให้มาบอกจะได้ช่วยแก้ ถ้าไม่มีให้ทำไป เพราะเป็นอำนาจของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตัดสินใจ การเมืองไม่ควรลงไปล้วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ เรียกประชุมคณะทำงานที่สภ.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุม ธานี โดยใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จในเวลา 01.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค. โดยได้ตรวจสำนวนที่จะดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างภายในวัดพระธรรมกายในเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ มีอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้รับอนุญาต 61 อาคาร มีคดีบุกรุกโดยการนำสายไฟฟ้า บุกรุกในที่สาธารณะ 7 จุด 7 คดี ทั้งนี้จากการตรวจสอบ ประตู 5-6 ถนนเลียบคลองแอน 2-3 พบว่าทางวัดพระธรรมกายนำประตูเหล็กและผ้าสแลนสีเขียวมาปิดขวางทางฝั่งตะวันออก ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์เห็นการกระทำเช่นนี้มีความผิดซึ่งถนนเลียบคลองแอน 2-3 ฝั่งตะวันออก เป็นทางสาธารณะ ห้ามให้บุคคลใดนำสิ่งของมากั้น หรือปิดไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและจะแจ้งความดำเนินคดีกับทางวัดพระธรรมกายต่อไป

สำหรับบรรยากาศที่วัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ช่วงเช้า ที่บริเวณประตูที่ 7 ฝั่งถนนบางขันธ์-หนองเสือ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกาย ยังคงไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปลงทะเบียนและเข้ามาภายในวัด ขณะที่วัดพระธรรมกายยังคงปิดประตูขาออกให้ใช้เพียงประตูเดียวท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ขณะที่ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายยังเดินทางเข้าออกกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านคัดกรองคนที่จะเดินทางมา ปรากฏว่าตั้งแต่ช่วงเช้าศิษยานุศิษย์ ใช้บริการรถแท็กซี่เข้าออกวัดพระธรรมกายแทนรถตู้ ด้านหน้าวัดมีพระสงฆ์จำนวนกว่า 1,000 รูปนั่งสวดมนต์อยู่

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อยู่ระหว่างการรอประเมินสถานการณ์ ก่อนหมายค้นวัดพระธรรมกาย ในส่วนของดีเอสไอครบกำหนด ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ ซึ่งหากประเมินสถานการณ์แล้ว ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการตรวจค้นจับกุมพระธัมมชโย ก็จะทำบันทึกรายงานไปยังศาล ถึงเหตุผลการไม่สามารถเข้าตรวจค้นได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดการปะทะกับประชาชนที่อยู่ภายในวัดได้ โดยดีเอสไอจะเก็บข้อมูลบันทึกภาพถ่ายตลอดระยะเวลา เพื่อรายงานข้อมูลทั้งหมดให้ศาลทราบ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหมายค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถดำเนินการต่อได้ อีกทั้งยังมีการประสานงานในระดับหัวหน้าหน่วยงานอยู่แล้ว

รายงานข่าวจากชุดสืบสวนดีเอสไอล่าสุดยังพบความเคลื่อนไหวของพระธัมมชโยอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย โดยมีการบันทึกภาพขณะมีการประคองเดินที่กุฏิจากลูกศิษย์วัดคนสนิทใกล้ชิด และหลังจากมีการขอออกหมายค้น ก็มีความเคลื่อนไหวของพระธัมมชโยบ้าง แต่ยังไม่สามารถออกจากวัดได้ ส่วนช่องทางลับที่มีกระแสข่าวว่าเป็นทางหลบหนีออกจากวัด เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่มีแต่อย่างใด มีเพียงห้องลับภายในกุฎิ ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งภาพถ่ายและแผนปฏิบัติการทำงานของเจ้าหน้าที่มีการนำเสนอประกอบการขอหมายค้นในช่วงที่ ผ่านมา

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าประตูที่ 7 ฝั่งถนนบางขันธ์-หนองเสือ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุม ธานี เจ้าหน้าที่ดีเอสไอนำโดรน 2 ตัว ขึ้นบินสำรวจตรวจสอบบริเวณรอบวัดพระธรรมกาย ซึ่งขณะนำโดรนขึ้นบินก็สามารถขึ้นบินได้ตามปกติ ซึ่งต่อมาประมาณ 5 นาทีผ่านไปปรากฏว่าโดรนลำหนึ่งกลับร่วงลงมาจากฟ้าอย่างผิดปกติ โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งได้วิ่งเข้าไปเพื่อที่จะรับโดรนที่กำลังร่วงลงพื้น ส่งผลให้ใบพัดของโดรนฟันเข้าที่ศีรษะบาดเจ็บเลือดไหลบนใบหน้า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงนำโดรนอีกตัวลงแล้วรีบเดินทางออกจากพื้นที่หน้าประตูที่ 7 ของวัดพระธรรมกายโดยทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกฟภ.และกปภ. เพื่อให้ตัดน้ำ-ไฟวัดพระธรรมกาย แต่ล่าสุดปรากฏว่ายังไม่มีการตัดน้ำ-ไฟแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนจากสภ.คลองหลวง เข้าแสดงหมายขอเข้าตรวจค้นจากศาลจังหวัดธัญบุรี ขอตรวจค้นบ้านเลขที่ 24/1 ในซอยคลองหลวง 66 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย หลังศาลอาญา รัชดาฯ ได้ออกหมายจับ
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายตรวจค้น มีน.ท.สมชาย ธรรมนิทา พ่อของนายองอาจ รับทราบหมายค้นแล้วให้พนักงานสอบสวน 4 นาย เข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน โดยน.ท. สมชายกล่าวว่า เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น พร้อมกับบอกว่าตนไม่พบหน้าลูกชายมานาน 2 เดือนแล้ว

ทางด้านเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้นภายในบ้านประมาณ 30 นาที โดยไม่พบตัวนายองอาจ
เมื่อเวลา 18.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ เดินทางมาประชุมที่สภ.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย โดยทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางมาที่วัดพระธรรมกายร่วมกับพระครูมงคลกิจจารักษ์ (สันติชัย) เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เจ้าอาวาสวัดมงคลพุการาม เพื่อตรวจสอบพระต่างด้าว หลังจากรับแจ้งว่าเข้ามาแอบแฝงหลบซ่อนตัวอยู่ในวัดพระธรรมกาย ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบพระต่างด้าวตามที่ได้รับแจ้งจึงเดินทางกลับ ส่วนประตู 7 ถนนบางขันธ์-หนองเสือ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวัดยังเปิดประตูให้ประชาชนเข้า-ออกเพียงด้านเดียวและยังมี ผู้สื่อข่าวเฝ้าติดตามทำข่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการดำเนินคดีเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ที่สรุป 2 วัน ระหว่างวันที่ 14-15 ธ.ค. ดำเนินคดี 98 คดี ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. เจ้าหน้าที่เพิ่มคดีอีก 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต 10 คดีในพื้นที่ 2 พันไร่ 2.ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต 41 คดี ในพื้นที่ 196 ไร่ และ 130 ไร่ 3.ก่อสร้างกำแพงโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 คดี ในพื้นที่ 2,000 ไร่ และ 130 ไร่ 4.ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต (เสาวิทยุ ทาวเวอร์) 2 คดี 5.ขุดทำลายถนน บริเวณทางเชื่อมเลียบคลองแอน 1 คดี ซึ่งผิดพ.ร.บ.ป่าไม้และประมวลกฎหมายที่ดิน รวม 56 คดี โดยมีเทศบาลเมืองท่าโขลง องค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม เป็นผู้เสียหาย รวมทั้งสิ้น 158 คดี

ที่มา  https://www.khaosod.co.th