เกิดเป็นประเด็นบนโลกออนไลน์
เรื่อง
ที่นั่งบนรถไฟระหว่างผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วยืนกับคณะนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ซื้อเหมามาจำนวน
60 ที่นั่ง ตกลงใครผิด ใครถูก! ดราม่าตั๋วรถไฟ
ซึ่งต่อมามีการลบเนื้อหาและภาพในกระทู้ดังกล่าวออกไปแล้ว
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ Maejo University ได้ออกหนังสือชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า
1. นักศึกษาที่เดินทางเข้าร่วมงานประเพณี 4 จอบแห่งชาติครั้งที่ 34 ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบไปด้วยนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร จำนวน 47 คน คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 25 คน คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ จำนวน 15 คน รวมทั้งสิ้น 87 คน ซึ่งเดินทางโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 61 คน
2. นักศึกษาเดินทางไปโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ ในวันที่ 20 ธันวาคม 2559 จำนวน 61 คน ด้วยรถขบวนที่ 52 เวลา 15.30 น. ถึงสถานีรถไฟอยุธยา เวลา 03.38 น ของวันที่ 21 ธันวาคม 2559 และเดินทางต่อไปจังหวัดอุบลราชธานี โดยขึ้นรถไฟจากสถานีอยุธยา จำนวน 61 คน ด้วยรถขบวนที่ 135 ของวันที่ 21 ธันวาคม 2559 เวลา 08.26 น. ถึงสถานีรถไฟอุบลราชธานี เวลา 18.00 น.
3. นักศึกษาเดินทางกลับโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจากสถานีรถไฟอุบลราชธานี ในวันที่ 27 ธันวาคม 2559 จำนวน 15 คน ด้วยรถขบวนที่ 142 เวลา 17.35 น. ถึงสถานีรถไฟอยุธยา เวลา 03.12 น ของวันที่ 28 ธันวาคม 2559 และเดินทางต่อไปจังหวัดเชียงใหม่ โดยขึ้นรถไฟจากสถานีอยุธยาจำนวน 15 คน ด้วยรถขบวนที่ 51 ของวันที่ 28 ธันวาคม 2559 เวลา 23.36 น. ถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ เวลา 12.10 น. ของวันที่ 29 ธันวาคม 2559
4. เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคม 2559 โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ จำนวน 15 คน ประกอบไปด้วยนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร จำนวน 10 คน และนักศึกษาคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ จำนวน 5 คน ได้ขึ้นรถไฟ ขบวน 52 ขาขึ้นจากสถานีรถไฟอยุธยา เวลา 23.36 น. ไปยังตู้ที่ 4 โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟ ได้แจ้งผู้โดยสารที่โดยสารมาก่อนว่าถ้าผู้ใดเป็นตั๋วยืนขอให้ลุกให้กับนักศึกษาที่ซื้อตั๋วนั่ง เลขที่นั่งตั้งแต่ 01 - 61 นั่งภายในรถไฟตู้ที่ 4 หลังจากแจ้งแล้วมีผู้โดยสารก็ลุกจากที่นั่งเพื่อให้นักศึกษาได้เข้ามาประจำเลขที่นั่งดังกล่าว โดยผู้นำนักศึกษาได้พูดกับเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟว่า "ขอนั่งเป็นกลุ่มเพื่อง่ายต่อการตรวจตราสิ่งของที่นำมาแข่งขันประมาณ 34 ที่นั่ง" เช่น ธง ป้ายสถาบัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน รวมทั้งสัมภาระต่างๆ "ส่วนที่นั่งที่เหลืออีก 27 ที่นั้น ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟให้ผู้โดยสารคนอื่นสามารถเข้ามานั่งร่วมกับนักศึกษาแม่โจ้ได้"
5. หลังจากที่นักศึกษาจัดเก็บสัมภาระเข้าประจำที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ก็มีผู้โดยสารคนอื่นเข้ามาร่วมนั่งในตั๋วโดยสารของนักศึกษา อีก 27 คน จนเต็มตู้หมดทุกที่นั่ง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว นักศึกษาก็นั่งและวางสัมภาระเท่าที่จำเป็น โดยแบ่งที่นั่งที่เหลือให้กับบุคคลอื่นโดยไม่เกิดปัญหาใดๆ ตลอดการเดินทาง
6. การซื้อตั๋วโดยสารรถไฟทั้งหมด 61 ใบ ชั้นที่ 3 นั้น ตามระเบียบของการรถไฟแห่งประเทศไทย กำหนดให้ ถ้าการเดินทางเป็นหมู่คณะในรูปแบบของนักเรียน - นักศึกษา นั้น การเดินทางไปและกลับจำนวนผู้โดยสารต้องเท่ากันทั้งขาไปและขากลับ โดยขบวนรถไฟจะต้องเป็นประเภทเดียวกันด้วย เช่น ขาไปรถด่วน ขากลับต้องรถด่วนด้วยเช่นกัน โดยราคาค่าโดยสารจะได้ราคาพิเศษเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายของมหาวิทยาลัยแม่โจ้
7. ประเด็นการซื้อตั๋วรถไฟทั้งหมด 61 ใบนั้นจำเป็นต้องซื้อตั๋วทุกขบวนให้พอดีกับจำนวนนักศึกษาที่จะเดินทางไป ส่วนการเดินทางกลับนั้นไม่สามารถคาดการได้ว่าจะกลับมากน้อยเพียงใด แต่ในฐานะที่ต้องดูแลและรับผิดชอบนักศึกษาทั้งหมดจำเป็นต้องเตรียมการซื้อตั๋วให้ครบทุกคนเพื่อจะได้มีที่นั่งให้นักศึกษาได้เดินทางกลับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ครบทุกคน และประการสำคัญช่วงปลายเดือนธันวาคมเป็นช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ผู้โดยสารขาขึ้นจะมีผู้โดยสารเต็มทุกขบวนซึ่งทำให้ต้องตัดสินใจซื้อตั๋วโดยสารให้พอดีกับนักศึกษาที่จะเดินทางกลับ
8. ประเด็นในความเข้าใจผิดและนำมาตั้งกระทู้ของเจ้าของกระทู้ สมาชิกหมายเลข 2787984 นั้น ข้อความของกระทู้นำมาซึ่งความเข้าใจผิด เกลียดชัง และเสื่อมเสียชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย โดยมีการเอยอ้างชื่อมหาวิทยาลัย และการถ่ายภาพที่ติดตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยแม่โจ้บนเสื้อนักศึกษา ทางสโมสรนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตรขอให้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ ตามแต่ท่านเห็นสมควร
9. เวลา 13.03 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2559 เจ้าของกระทู้ได้ลบข้อความในโพสไว้ชั่วคราว คงเหลือแต่หัวข้อของกระทู้ และข้อความแสดงความคิดเห็นเท่านั้น
10. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทางสโมสรนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตรรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยความเข้าใจผิดของสมาชิกหมายเลข 2787984 ซึ่งมิได้เข้ามาสอบถามหรือพูดคุยกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับทางนักศึกษาเลย ทางสโมสรนักศึกษาฯ และผู้ร่วมเดินทางกลับด้วยรถไฟทุกคนพร้อมที่จะเป็นพยานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทุกคน ไม่มีนักศึกษาคนไหนสร้างความเสื่อมเสียให้เกิดกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้อันเป็นที่รักยิ่ง ทุกคนตั้งใจที่จะทำหน้าที่ที่ดีที่สุดในการสร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จนประสบความสำเร็จสร้างชื่อเสียง นำถ้วยพระราชทานกลับมาสู่แผ่นดินแม่โจ้ให้ลูกแม่โจ้ทุกคนได้ร่วมภาคภูมิใจ
ขอแสดงความนับถือ
นายพิพัฒน์ หงษ์สำโรง
นายกสโมสรนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร
อาจารย์ ดร.กอบลาภ อารีศรีสม
อาจารย์ที่ปรึกษาสโมสรนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร
ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ทุกคน มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง และความดีงามจะคุ้มครองให้เราผ่านอุปสรรคปัญหาทุกอย่างไปได้ด้วยดี
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ Maejo University ได้ออกหนังสือชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า
ตามที่มีกระแสข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ สมาชิกพันทิปหมายเลข 2787984 ได้ตั้งกระทู้ "ถามว่าเหตุการณ์แบบนี้ ใครผิด ใครถูกครับ / นักศึกษามหาลัยแห่งหนึ่งซื้อตั๋วรถไฟหลายใบ แต่มาใช้จริงน้อยกว่าจำนวนตั๋วที่ซื้อ" ใน
WWW.PANTIP.COM โดยเกี่ยวข้องกับนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร
และนักศึกษาคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ซึ่งเดินทางไปร่วมงานประเพณี 4 จอบแห่งชาติ ครั้งที่ 34 ณ
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างวันที่ 20 - 29
ธันวาคม 2559 จึงขอสรุปเหตุการณ์และชี้แจงกรณีที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. นักศึกษาที่เดินทางเข้าร่วมงานประเพณี 4 จอบแห่งชาติครั้งที่ 34 ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบไปด้วยนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร จำนวน 47 คน คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 25 คน คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ จำนวน 15 คน รวมทั้งสิ้น 87 คน ซึ่งเดินทางโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 61 คน
2. นักศึกษาเดินทางไปโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ ในวันที่ 20 ธันวาคม 2559 จำนวน 61 คน ด้วยรถขบวนที่ 52 เวลา 15.30 น. ถึงสถานีรถไฟอยุธยา เวลา 03.38 น ของวันที่ 21 ธันวาคม 2559 และเดินทางต่อไปจังหวัดอุบลราชธานี โดยขึ้นรถไฟจากสถานีอยุธยา จำนวน 61 คน ด้วยรถขบวนที่ 135 ของวันที่ 21 ธันวาคม 2559 เวลา 08.26 น. ถึงสถานีรถไฟอุบลราชธานี เวลา 18.00 น.
3. นักศึกษาเดินทางกลับโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจากสถานีรถไฟอุบลราชธานี ในวันที่ 27 ธันวาคม 2559 จำนวน 15 คน ด้วยรถขบวนที่ 142 เวลา 17.35 น. ถึงสถานีรถไฟอยุธยา เวลา 03.12 น ของวันที่ 28 ธันวาคม 2559 และเดินทางต่อไปจังหวัดเชียงใหม่ โดยขึ้นรถไฟจากสถานีอยุธยาจำนวน 15 คน ด้วยรถขบวนที่ 51 ของวันที่ 28 ธันวาคม 2559 เวลา 23.36 น. ถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ เวลา 12.10 น. ของวันที่ 29 ธันวาคม 2559
4. เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคม 2559 โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ จำนวน 15 คน ประกอบไปด้วยนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร จำนวน 10 คน และนักศึกษาคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ จำนวน 5 คน ได้ขึ้นรถไฟ ขบวน 52 ขาขึ้นจากสถานีรถไฟอยุธยา เวลา 23.36 น. ไปยังตู้ที่ 4 โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟ ได้แจ้งผู้โดยสารที่โดยสารมาก่อนว่าถ้าผู้ใดเป็นตั๋วยืนขอให้ลุกให้กับนักศึกษาที่ซื้อตั๋วนั่ง เลขที่นั่งตั้งแต่ 01 - 61 นั่งภายในรถไฟตู้ที่ 4 หลังจากแจ้งแล้วมีผู้โดยสารก็ลุกจากที่นั่งเพื่อให้นักศึกษาได้เข้ามาประจำเลขที่นั่งดังกล่าว โดยผู้นำนักศึกษาได้พูดกับเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟว่า "ขอนั่งเป็นกลุ่มเพื่อง่ายต่อการตรวจตราสิ่งของที่นำมาแข่งขันประมาณ 34 ที่นั่ง" เช่น ธง ป้ายสถาบัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน รวมทั้งสัมภาระต่างๆ "ส่วนที่นั่งที่เหลืออีก 27 ที่นั้น ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟให้ผู้โดยสารคนอื่นสามารถเข้ามานั่งร่วมกับนักศึกษาแม่โจ้ได้"
5. หลังจากที่นักศึกษาจัดเก็บสัมภาระเข้าประจำที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ก็มีผู้โดยสารคนอื่นเข้ามาร่วมนั่งในตั๋วโดยสารของนักศึกษา อีก 27 คน จนเต็มตู้หมดทุกที่นั่ง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว นักศึกษาก็นั่งและวางสัมภาระเท่าที่จำเป็น โดยแบ่งที่นั่งที่เหลือให้กับบุคคลอื่นโดยไม่เกิดปัญหาใดๆ ตลอดการเดินทาง
6. การซื้อตั๋วโดยสารรถไฟทั้งหมด 61 ใบ ชั้นที่ 3 นั้น ตามระเบียบของการรถไฟแห่งประเทศไทย กำหนดให้ ถ้าการเดินทางเป็นหมู่คณะในรูปแบบของนักเรียน - นักศึกษา นั้น การเดินทางไปและกลับจำนวนผู้โดยสารต้องเท่ากันทั้งขาไปและขากลับ โดยขบวนรถไฟจะต้องเป็นประเภทเดียวกันด้วย เช่น ขาไปรถด่วน ขากลับต้องรถด่วนด้วยเช่นกัน โดยราคาค่าโดยสารจะได้ราคาพิเศษเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายของมหาวิทยาลัยแม่โจ้
7. ประเด็นการซื้อตั๋วรถไฟทั้งหมด 61 ใบนั้นจำเป็นต้องซื้อตั๋วทุกขบวนให้พอดีกับจำนวนนักศึกษาที่จะเดินทางไป ส่วนการเดินทางกลับนั้นไม่สามารถคาดการได้ว่าจะกลับมากน้อยเพียงใด แต่ในฐานะที่ต้องดูแลและรับผิดชอบนักศึกษาทั้งหมดจำเป็นต้องเตรียมการซื้อตั๋วให้ครบทุกคนเพื่อจะได้มีที่นั่งให้นักศึกษาได้เดินทางกลับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ครบทุกคน และประการสำคัญช่วงปลายเดือนธันวาคมเป็นช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ผู้โดยสารขาขึ้นจะมีผู้โดยสารเต็มทุกขบวนซึ่งทำให้ต้องตัดสินใจซื้อตั๋วโดยสารให้พอดีกับนักศึกษาที่จะเดินทางกลับ
8. ประเด็นในความเข้าใจผิดและนำมาตั้งกระทู้ของเจ้าของกระทู้ สมาชิกหมายเลข 2787984 นั้น ข้อความของกระทู้นำมาซึ่งความเข้าใจผิด เกลียดชัง และเสื่อมเสียชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย โดยมีการเอยอ้างชื่อมหาวิทยาลัย และการถ่ายภาพที่ติดตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยแม่โจ้บนเสื้อนักศึกษา ทางสโมสรนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตรขอให้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ ตามแต่ท่านเห็นสมควร
9. เวลา 13.03 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2559 เจ้าของกระทู้ได้ลบข้อความในโพสไว้ชั่วคราว คงเหลือแต่หัวข้อของกระทู้ และข้อความแสดงความคิดเห็นเท่านั้น
10. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทางสโมสรนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตรรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยความเข้าใจผิดของสมาชิกหมายเลข 2787984 ซึ่งมิได้เข้ามาสอบถามหรือพูดคุยกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับทางนักศึกษาเลย ทางสโมสรนักศึกษาฯ และผู้ร่วมเดินทางกลับด้วยรถไฟทุกคนพร้อมที่จะเป็นพยานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทุกคน ไม่มีนักศึกษาคนไหนสร้างความเสื่อมเสียให้เกิดกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้อันเป็นที่รักยิ่ง ทุกคนตั้งใจที่จะทำหน้าที่ที่ดีที่สุดในการสร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จนประสบความสำเร็จสร้างชื่อเสียง นำถ้วยพระราชทานกลับมาสู่แผ่นดินแม่โจ้ให้ลูกแม่โจ้ทุกคนได้ร่วมภาคภูมิใจ
ขอแสดงความนับถือ
นายพิพัฒน์ หงษ์สำโรง
นายกสโมสรนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร
อาจารย์ ดร.กอบลาภ อารีศรีสม
อาจารย์ที่ปรึกษาสโมสรนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร
ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ทุกคน มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง และความดีงามจะคุ้มครองให้เราผ่านอุปสรรคปัญหาทุกอย่างไปได้ด้วยดี
cr.Maejo University