วันที่ 06 มกราคม พ.ศ. 2560 ปีที่ 26 ฉบับที่ 9536 ข่าวสดรายวัน
หึ่งทุจริตสอบนายสิบตำรวจบช.น. นำเข้าที่ประชุมวันนี้ ส่อสั่งโมฆะทั้ง 1 พันตำแหน่ง เชื่อมีทุจริต 80 ราย จากผู้ต้องสงสัย 418 ราย ในสนามสอบที่รามคำแหง หัวหมาก ชี้พิรุธมีทั้งน.ศ.แพทย์ ทันตะ วิศวะร่วมสอบ คาดเข้ามาเป็นมือปืนเฉลยคำตอบ ได้ค่าจ้าง 2-3 หมื่น โดยมีข้าราชการ กทม.อยู่เบื้องหลัง เรียกเก็บคนเข้าสอบหัวละ 5 แสน
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รายงานข่าวเปิดเผยว่า พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ผกก.ศฝร.บช.น. ได้เรียกตัวนักศึกษา ชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง จำนวน 4 ราย มาสอบปากคำในฐานะพยาน หลังจากพบการทุจริตในการสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ในส่วนของ บช.น. ที่เพิ่งสอบข้อเขียนไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการรับสมัครและสอบคัดเลือกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดรับสมัครบุคคลภายนอก อายุระหว่าง 18-27 ปี วุฒิการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือ ปวช. หรือเทียบเท่า สอบคัดเลือกบุคคลภายนอกเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ โดยเปิดการสอบพร้อมกันทุกภาค ในส่วนของ บช.น.ปีนี้เปิดตำแหน่ง 1,000 อัตรา และเปิดรับสมัครผ่านเฉพาะทางอินเตอร์เน็ตไปเมื่อ วันที่ 4-23 พ.ย. 2559 มีผู้สมัครเข้าสอบทั้งหมด 13,285 คน และสอบข้อเขียนเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ใช้สนามสอบ 2 แห่ง คือ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก และวิทยาเขตบางนา
หลังการสอบข้อเขียนเสร็จสิ้น มีผู้สอบผ่านรอบแรกทั้งหมด 1,800 คน ก่อนที่คณะกรรมการจะเรียกตัวผู้สอบผ่านข้อเขียนมาสอบสัมภาษณ์ และทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายจนเสร็จสิ้นไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติของคณะกรรมการ เพื่อคัดเลือกผู้ที่สอบผ่านในรอบสุดท้าย
ต่อมาคณะกรรมการได้นำกระดาษข้อสอบทั้งหมดมาตรวจสอบครั้งสุดท้าย ก่อนไปพบความผิดปกติในกระดาษ คำตอบ ซึ่งแต่ละชุดคำตอบมีทั้งหมด 150 ข้อ ปรากฏว่าในรายของผู้ที่ได้คะแนนต่ำสุดคือ 13 คะแนน แต่ในกระดาษโจทย์และกระดาษทดเลขเขียนคำตอบเฉลยไว้ถูกหมดทุกข้อ และยังพบอีกด้วยว่าเขียนคำตอบในข้อที่ถูกลักษณะที่ใหญ่ผิดปกติ ซึ่งบุคคลรอบข้างสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แม้จะอยู่ในระยะไกล
สำหรับความผิดปกติดังกล่าวทั้งหมดจะพบอยู่ที่สนามสอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก เบื้องต้นพบกลุ่มผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 418 ราย และได้ตรวจสอบรายชื่อจนเชื่อว่าน่ามีการกระทำทุจริตไปแล้วทั้งหมด 80 ราย พร้อมกันนี้จากการตรวจสอบภูมิหลังของผู้ที่เข้าสอบ ยังพบด้วยว่าปัจจุบันยังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง มีทั้งคณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทย์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งไม่ตรงกับรายละเอียดที่กรอกไว้ในใบสมัคร โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำไปแล้วเกือบ 15 ราย
เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าการทุจริตดังกล่าวมีข้าราชการของ กทม.รายหนึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ให้กลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ทำเฉลยข้อสอบ หรือที่เรียกว่า "มือปืน" เนื่องจากข้อสอบที่ใช้เป็นความรู้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จึงง่ายต่อผู้ที่รับหน้าที่ทำเฉลย ส่วนค่าจ้างก็จะได้ค่าจ้างคนละ 2-3 หมื่นบาท ส่วนตัว ผู้จ้างวานไปเรียกค่าดำเนินการจากผู้ที่ต้องการสอบเข้าถึงหัวละ 5 แสนบาท
ส่วนวิธีการกลุ่มผู้ที่ทุจริตก็จะอาศัยช่องว่างของการกรอกใบสมัคร เนื่องจากเป็นการสมัครแบบออนไลน์ ที่จะตรวจสอบหลักฐานทางการศึกษาหลังจากผู้สอบเข้ารายงานตัวครั้งสุดท้ายแล้วเท่านั้น ส่วนเลขที่นั่งสอบก็อาศัยช่องว่างเมื่อผู้สมัครไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมการสอบกับธนาคาร เมื่อจ่ายเงินแล้วก็จะได้เลขที่นั่งสอบใกล้ๆ กัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางกลุ่มผู้จ้างวานได้เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด รวมทั้งก่อนจะเริ่มการสอบ 3 วันผู้จ้างวานก็จะนัดผู้ที่ทำหน้าที่เฉลยข้อสอบ และผู้ที่จะลอกข้อสอบให้มาพบกัน เพื่อนัดแนะวิธีการกันให้เข้าใจก่อนที่จะเข้าสนามสอบ ซึ่งวิธีการ ทุจริตดังกล่าวเป็นวิธีการธรรมดา รูปแบบเดิมๆ ที่ยากต่อการตรวจสอบ หลังจากที่ผ่านมาพบการทุจริตรูปแบบต่างๆ ในหลายๆ สนามสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการทุจริตที่พบภายในวันที่ 6 ม.ค.นี้จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการสอบคัดเลือกของ บช.น. ซึ่งมีพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.เป็นประธาน เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นให้การสอบคัดเลือกครั้งนี้เป็นโมฆะ รวมทั้งจะดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง ทั้งตัวผู้จ้างวาน และผู้ที่ร่วมทุจริตทั้งหมด
หึ่งทุจริตสอบนายสิบตำรวจบช.น. นำเข้าที่ประชุมวันนี้ ส่อสั่งโมฆะทั้ง 1 พันตำแหน่ง เชื่อมีทุจริต 80 ราย จากผู้ต้องสงสัย 418 ราย ในสนามสอบที่รามคำแหง หัวหมาก ชี้พิรุธมีทั้งน.ศ.แพทย์ ทันตะ วิศวะร่วมสอบ คาดเข้ามาเป็นมือปืนเฉลยคำตอบ ได้ค่าจ้าง 2-3 หมื่น โดยมีข้าราชการ กทม.อยู่เบื้องหลัง เรียกเก็บคนเข้าสอบหัวละ 5 แสน
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รายงานข่าวเปิดเผยว่า พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ผกก.ศฝร.บช.น. ได้เรียกตัวนักศึกษา ชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง จำนวน 4 ราย มาสอบปากคำในฐานะพยาน หลังจากพบการทุจริตในการสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ในส่วนของ บช.น. ที่เพิ่งสอบข้อเขียนไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการรับสมัครและสอบคัดเลือกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดรับสมัครบุคคลภายนอก อายุระหว่าง 18-27 ปี วุฒิการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือ ปวช. หรือเทียบเท่า สอบคัดเลือกบุคคลภายนอกเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ โดยเปิดการสอบพร้อมกันทุกภาค ในส่วนของ บช.น.ปีนี้เปิดตำแหน่ง 1,000 อัตรา และเปิดรับสมัครผ่านเฉพาะทางอินเตอร์เน็ตไปเมื่อ วันที่ 4-23 พ.ย. 2559 มีผู้สมัครเข้าสอบทั้งหมด 13,285 คน และสอบข้อเขียนเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ใช้สนามสอบ 2 แห่ง คือ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก และวิทยาเขตบางนา
หลังการสอบข้อเขียนเสร็จสิ้น มีผู้สอบผ่านรอบแรกทั้งหมด 1,800 คน ก่อนที่คณะกรรมการจะเรียกตัวผู้สอบผ่านข้อเขียนมาสอบสัมภาษณ์ และทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายจนเสร็จสิ้นไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติของคณะกรรมการ เพื่อคัดเลือกผู้ที่สอบผ่านในรอบสุดท้าย
ต่อมาคณะกรรมการได้นำกระดาษข้อสอบทั้งหมดมาตรวจสอบครั้งสุดท้าย ก่อนไปพบความผิดปกติในกระดาษ คำตอบ ซึ่งแต่ละชุดคำตอบมีทั้งหมด 150 ข้อ ปรากฏว่าในรายของผู้ที่ได้คะแนนต่ำสุดคือ 13 คะแนน แต่ในกระดาษโจทย์และกระดาษทดเลขเขียนคำตอบเฉลยไว้ถูกหมดทุกข้อ และยังพบอีกด้วยว่าเขียนคำตอบในข้อที่ถูกลักษณะที่ใหญ่ผิดปกติ ซึ่งบุคคลรอบข้างสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แม้จะอยู่ในระยะไกล
สำหรับความผิดปกติดังกล่าวทั้งหมดจะพบอยู่ที่สนามสอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก เบื้องต้นพบกลุ่มผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 418 ราย และได้ตรวจสอบรายชื่อจนเชื่อว่าน่ามีการกระทำทุจริตไปแล้วทั้งหมด 80 ราย พร้อมกันนี้จากการตรวจสอบภูมิหลังของผู้ที่เข้าสอบ ยังพบด้วยว่าปัจจุบันยังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง มีทั้งคณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทย์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งไม่ตรงกับรายละเอียดที่กรอกไว้ในใบสมัคร โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำไปแล้วเกือบ 15 ราย
เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าการทุจริตดังกล่าวมีข้าราชการของ กทม.รายหนึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ให้กลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ทำเฉลยข้อสอบ หรือที่เรียกว่า "มือปืน" เนื่องจากข้อสอบที่ใช้เป็นความรู้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จึงง่ายต่อผู้ที่รับหน้าที่ทำเฉลย ส่วนค่าจ้างก็จะได้ค่าจ้างคนละ 2-3 หมื่นบาท ส่วนตัว ผู้จ้างวานไปเรียกค่าดำเนินการจากผู้ที่ต้องการสอบเข้าถึงหัวละ 5 แสนบาท
ส่วนวิธีการกลุ่มผู้ที่ทุจริตก็จะอาศัยช่องว่างของการกรอกใบสมัคร เนื่องจากเป็นการสมัครแบบออนไลน์ ที่จะตรวจสอบหลักฐานทางการศึกษาหลังจากผู้สอบเข้ารายงานตัวครั้งสุดท้ายแล้วเท่านั้น ส่วนเลขที่นั่งสอบก็อาศัยช่องว่างเมื่อผู้สมัครไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมการสอบกับธนาคาร เมื่อจ่ายเงินแล้วก็จะได้เลขที่นั่งสอบใกล้ๆ กัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางกลุ่มผู้จ้างวานได้เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด รวมทั้งก่อนจะเริ่มการสอบ 3 วันผู้จ้างวานก็จะนัดผู้ที่ทำหน้าที่เฉลยข้อสอบ และผู้ที่จะลอกข้อสอบให้มาพบกัน เพื่อนัดแนะวิธีการกันให้เข้าใจก่อนที่จะเข้าสนามสอบ ซึ่งวิธีการ ทุจริตดังกล่าวเป็นวิธีการธรรมดา รูปแบบเดิมๆ ที่ยากต่อการตรวจสอบ หลังจากที่ผ่านมาพบการทุจริตรูปแบบต่างๆ ในหลายๆ สนามสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการทุจริตที่พบภายในวันที่ 6 ม.ค.นี้จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการสอบคัดเลือกของ บช.น. ซึ่งมีพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.เป็นประธาน เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นให้การสอบคัดเลือกครั้งนี้เป็นโมฆะ รวมทั้งจะดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง ทั้งตัวผู้จ้างวาน และผู้ที่ร่วมทุจริตทั้งหมด
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก ข่าวสด เเละรูปภาพจาก jobthaidd