นิวส์ดอทคอม
ได้รายงานข่าว ถึง 6
ประเทศอยู่ภายใต้ประกาศเตือนกลโกงของกระทรวงกิจการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย
ประกอบด้วย อินโดนีเซีย, ไทย, จีน, สิงคโปร์, ฟิจิ และ อินเดีย
ซึ่งแต่ละชาติจะมีกลโกง เพื่อเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
ซึ่งกลโกงที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือกลโกงเอทีเอ็มหรือบัตรเคดิต
รวมถึงต้มตุ๋นอื่นๆอย่างเช่นขายสินค้าปลอม
สำหรับประเทศไทย สื่อรายนี้ได้รายงานว่า กลโกงที่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียเจอบ่อยที่สุดก็คือกลโกงตอนเช่าเจ็ตสกี ฉ้อโกงบัตรเครดิตและเอทีเอ็ม และหลอกขายเครื่องประดับเพชรพลอยในราคาสูงเกินจริง โดยการเช่าเจ็ตสกีดูจะอันตรายที่สุด เนื่องจากเหยื่อต้องเผชิญหน้ากับแก๊งต้มตุ๋นโดยตรง โดยสมาชิกแก๊งจะอ้างวว่าเจ็ตสกีที่เหยื่อนำมาคืนนั้นได้รับความเสียหาย และเรียกค่าชดเชยจำนวนมาก ซึ่งในบางกรณีสมาชิกแก๊งได้ใช้มีดข่มขู่คุกคามด้วย
สำหรับประเทศไทย สื่อรายนี้ได้รายงานว่า กลโกงที่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียเจอบ่อยที่สุดก็คือกลโกงตอนเช่าเจ็ตสกี ฉ้อโกงบัตรเครดิตและเอทีเอ็ม และหลอกขายเครื่องประดับเพชรพลอยในราคาสูงเกินจริง โดยการเช่าเจ็ตสกีดูจะอันตรายที่สุด เนื่องจากเหยื่อต้องเผชิญหน้ากับแก๊งต้มตุ๋นโดยตรง โดยสมาชิกแก๊งจะอ้างวว่าเจ็ตสกีที่เหยื่อนำมาคืนนั้นได้รับความเสียหาย และเรียกค่าชดเชยจำนวนมาก ซึ่งในบางกรณีสมาชิกแก๊งได้ใช้มีดข่มขู่คุกคามด้วย
กระทรวงกิจการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย
ได้รับรายงานจากนักท่องเที่ยวออสเตรเลียจำนวนมากเกี่ยวกับการถูกคุกคามและขู่ใช้ความรุนแรงจากผู้ให้บริการเช่าเจ็ตสกีตามชายหาดต่างๆในภูเก็ต,
พัทยา, เกาะสมุยและเกาะพะงัน
พร้อมให้คะแนะนำว่านักท่องเที่ยวควรถ่ายรูปเจ็ตสกีเอาไว้ก่อนที่จะเช่า
เพื่อช่วยคลี่คลายข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนั้นในประเทศไทย
ยังมีเหตุฉ้อโกงเกี่ยวกับการหลอกขายเครื่องประดับเพชรพลอยในราคาสูงกว่าความเป็นจริง