รู้แล้วห้ามทิ้ง! ประโยชน์ของ "เมล็ดมะขาม" เสริมภูมิคุ้มกัน ยับยั้งมะเร็ง ป้องกันเบาหวาน
มะขาม เป็นผลไม้พื้นบ้านของเมืองไทย มีรสเปรี้ยว รสกลาง รสหวานต่างกันไปตามสายพันธุ์ นิยมนำผลมารับประทานได้ทั้งผลดิบผลสุก และใบใช้ปรุงอาหารให้มีรสเปรี้ยวอร่อย ต้นให้ร่มเงา ส่วนเมล็ดนั้นมีการศึกษาพบว่า ช่วยเสริมภูมิต้านทานต่อสู้กับเชื้อไวรัส และสามารถยับยั้งการเกิดเซลล์เนื้องอกมะเร็งได้
ขอบคุณข้อมูลจาก: มติชน, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มะขาม เป็นผลไม้พื้นบ้านของเมืองไทย มีรสเปรี้ยว รสกลาง รสหวานต่างกันไปตามสายพันธุ์ นิยมนำผลมารับประทานได้ทั้งผลดิบผลสุก และใบใช้ปรุงอาหารให้มีรสเปรี้ยวอร่อย ต้นให้ร่มเงา ส่วนเมล็ดนั้นมีการศึกษาพบว่า ช่วยเสริมภูมิต้านทานต่อสู้กับเชื้อไวรัส และสามารถยับยั้งการเกิดเซลล์เนื้องอกมะเร็งได้
ประโยชน์ของเมล็ดมะขาม
เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านเชื้อโรค
รศ.ดร.พร้อมจิต ศรลัมภ์ อาจารย์ประจำสำนักงานข้อมูลสุมนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหดิล กล่าวว่า ในงานวิจัยของต่างประเทศหลายชิ้นที่ได้วิจัยเกี่ยวกับเมล็ดมะขาม พบว่าในเนื้อเมล็ดมะขามมีไขมันและโพลีแซคคาไลด์ ซึ่งโพลีแซคคาไลด์นี้มีฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยมันจะไปกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายสูงขึ้น เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะเชื้อไวรัสป้องกันโรคเบาหวาน
สารโพลีแซคคาไลด์ ในเม็ดมะขามยังเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ไม่ก่อให้เกิดโรคเบาหวานเหมือนน้ำตาลโมเลกุลคู่อย่างกลูโคส โดยจากการทดลองพบว่า เมล็ดมะขามสามารถรักษาภาวะเบาหวานของหนูทดลองได้ ส่วนเปลือกเมล็ดมะขามที่มีสีน้ำตาล มีสารแทนนินที่ไม่ละลายน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 35 สามารถนำมาพัฒนาเป็นยารักษาโรคได้มีสารต้านอนุมูลอิสระ
มีศึกษาพบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบฟีนอลลิกอยู่ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระสามารถลดความเสี่ยงต่อโรค เช่น มะเร็ง เบาหวาน เป็นต้น รวมทั้งช่วยชะลอกระบวนการบางขั้นตอนที่ทำให้แก่ ซึ่งปกติร่างกายสามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้เอง แต่หากร่างกายได้รับสารอนุมูลอิสระมากเกินไป จะกำจัดไม่ทันก็อาจสร้างความเสียหายต่อเซลล์และเนื้อเยื่อได้มีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่น
มีการศึกษาพบว่าสารสกัดเปลือกหุ้มเม็ดมะขามมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นที่ดีกว่าวิตามินอี 3.14 เท่า ยับยั้งอนุมูลอิสระได้ร้อยละ 50 เท่ากับ 53.42 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร แสดงให้เห็นว่าสารต้านอนุมูลอิสระในเปลือกหุ้มเม็ดมะขามมีปริมาณสูงมาก ใกล้เคียงสารสกัดจากเม็ดองุ่นไม่เป็นพิษต่อร่างกาย
ในงานวิจัยของต่างประเทศเคยทดสอบ เพื่อหาว่าเมล็ดมะขามมีพิษต่อร่างกายหรือไม่ ซึ่งได้ทดสอบทั้งพิษแบบเฉียบพลัน และพิษระยะยาว 3-4 เดือน แต่ก็ไม่พบว่าเมล็ดมะขามทำให้เกิดพิษในร่างกาย ดังนั้น จึงสามารถทานเมล็ดมะขามได้เหมือนอาหารอย่างหนึ่งดังนั้นแล้วทานมะขามอย่าทิ้งเมล็ดกันนะคะ สามารถนำไปคั่วกระเทาะเมล็ดออกทานได้เลย หรือจะนำเมล็ดในที่กระเทาะแล้วนั้นแช่ในน้ำเกลือให้นิ่มแล้วทาน อีกวิธีหนึ่งคือการนำไปสกัดเป็นผงชงทานได้ อย่างไรก็ตาม ควรทานอาหารอย่างอื่นที่มีประโยชน์ควบคู่กันไปด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: มติชน, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่