วัวธนู!!!"หลวงตาเผือด วัดมะกอก" คุ้มครอง เฝ้าบ้าน ค้าขาย ได้ทุกอย่าง เห็นผลจริงสมคำร่ำลือ..ของอาถรรพ์ที่มีจริง!!

วัวธนูเนื้อนวะพิเศษ หลวงตาเผือด วัดมะกอก ตลิ่งชัน สร้างปี พ.ศ.2545 ปลุกเสกเดี่ยว 3 เดือนเต็ม เนื้อนวะโลหะพิเศษ ผสมชนวนที่หลวงตาเผือดได้มอบและปลุกเสกให้เป็นกรณีพิเศษ ใต้ท้องอุดมวลสารและตอกโค๊ตไว้บริเวณโหนก อุปเท่ห์การใช้มีดังนี้
1.ใช้ทางเมตตามหานิยม ทำดังนี้
- ให้เอาน้ำ 3 บ่อ ใส่ขันแล้วเอาวัวธนูแช่น้ำ มีดอกไม้ ธูปเทียน และหญ้า 7 ยอด บูชา และให้นำน้ำนั้นทาหน้า ทาตัว หรืออาบ
-ใช้ทางค้าขาย ทำมาค้าขึ้น เอาวัวธนูแช่น้ำ แล้วเอาน้ำมาพรมของที่จะขาย เดินทางไปต่างถิ่นต่างที่ เอาน้ำทาตัว ทาหน้า ไปค้าขายได้กำไรแล
2. ใช้ป้องกันศัตรู คุณไสย ถูกทำเสน่ห์ และป้องกันโรคสัตว์ วัว ควาย ทำดังนี้
- คนเป็นบ้า ถูกคุณไสย ถูกทำเสน่ห์ เอาวัวธนูแช่น้ำ แล้วนำน้ำมาอาบ ดื่ม ทาตัว ทาหน้า หายแล
- สัตว์เลี้ยง วัว ควาย ฯลฯ เป็นโรค เอาวัวธนูแช่น้ำ เอาน้ำมาล้างหญ้า หรือใส่ในอาหารให้กิน
- ป้องกันภูตผี ปีศาจร้าย และโจรขโมย ให้เอาขี้ผึ้งมาพอกติดที่ตัววัวธนู แล้วนำขี้ผึ้งนั้นมาปั้นเป็นก้อน 4 ก้อน เอาไปติดเสา 4 มุม ของบ้านเรือน จะป้องกันภูตผีปีศาจ โจรขโมยไม่สามารถทำร้ายได้
ประวัติหลวงตาเผือด
หลวงตาจอมขมังเวทย์
ได้พบหลวงตาเผือดครั้งแรกก็ถูกใจ เพราะท่านเป็นพระลูกทุ่ง ตรงไปตรงมา ไม่ตุกติก ค่อนข้างสันโดษ พูดจาน้ำเสียงดุ ๆ ถามอะไรตรง ๆ ไม่มีพิธีรีตองให้วุ่นวาย อยากได้อะไรก็บอก จะให้ช่วยอะไรก็บอก ถ้าไม่บอกให้ช่วยก็จะไม่ช่อย ไม่ขอก็ไม่ให้ ให้ท่านดูท่านก็ดูให้แล้วก็เฉย ผู้เขียนเทียวไปหาทุกวันพุธซึ่งเป็นวันที่ไม่ได้เปิดร้าน เพราะยิ่งสนิทกับหลวงตาเผือดมากก็ยิ่งถูกใจ ท่านชอบพูดอะไรตรง ๆ ข้องใจอะไร อยากรู้อะไรก็จะถามตรง ๆ เมื่อรู้ว่าผู้เขียนมีความรู้เรื่องไสยศาสตร์อยู่บ้าง ท่านก็ยิ่งถูกใจและได้แลกเปลี่ยนวิชาบางอย่างที่ท่านไม่รู้จากผู้เขียนไป อย่างยันต์โสฬสสายวัดสุทัศน์ฯ ยันต์มหาระงับของหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ และท่านก็ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมาให้ ยกเว้น ยางู เพราะมีข้อห้ามที่ผู้เขียนไม่สามารถทำได้ ท่านก็บ่นเสียดายอีกหน่อยคงจะสูญ หลวงตาเผือดค่อนข้างจะหวงวิชาไม่ยอมให้ใครง่าย ๆ
ถูกงูกัดมา หลวงตาเผือดช่วยที
บ้านเดิมของหลวงตาเผือดอยู่ใกล้ ๆ วัดมะกอก ท่านจึงเป็นพระที่คนพื้นที่รู้จักและได้พึ่งพาอาศัยกัน ไม่ว่าคนหรือสัตว์ถูกงูพิษกัด ถ้ามาถึงวัดได้โดยยังไม่ตายก็หายได้ทุกราย บางรายไม่สามารถมาได้ ญาติก็จะมาตามให้หลวงตาไปทำการรักษา หลวงตาก็จะสงเคราะห์ให้โดยไม่อิดออด ไม่ต้องมีดอกไม้ธูปเทียน เงินกำนัล หรือใส่ซองให้ท่าน แต่ต้องไปซื้อเหล้าขาวหนึ่งเป็กมาด้วยทุกครั้ง วิธีรักษาของท่านก็ง่าย ๆ พิสดารไม่เหมือนใครเขา แค่เอื้อมมือไปข้างหลังหยิบใบไม้ใบอะไรก็ได้ โดยบริกรรมพระเวทย์ไปและกลั้นใจหยิบและดึงใบไม้ออกมาใส่ปากเคี้ยวไปบริกรรมพระเวทย์ไป แล้วจึงเอาใบไม้ที่เคี้ยวใส่ลงไปในเหล้าโรง และให้ผู้ถูกงูกัดดื่มหล้าโรงผสมใบไม้นั้น (แพทย์สมัยใหม่ห้ามดื่มเหล้าเด็ดขาด เพราะพิษงูจะแล่นขึ้นสู่หัวใจได้เร็วขึ้นและจะตายได้) ส่วนที่เป็นกากใบไม้ก็นำมาปิดที่ปากแผล หากเป็นงูพิษใบไม้จะดูดพิษงูออกมา สังเกตได้จากบริเวณที่ถูกกัดจะมีอาการเต้นตุบ ๆ ของปากแผลเหมือนมีอะไรดูดเป็นจังหวะ ทิ้งไว้สักพักปากแผลที่บวมแดงก็จะค่อย ๆ หายบวม เมื่อแผลหยุดเต้น พิษก็หมดพอดี เอากากใบไม้ไปทิ้งได้ แผลก็จะหายเร็วไม่เป็นแผลเป็น ไม่พุพอง ถ้าไปหาหมอฉีดเซรุ่ม แผลอาจจะกรายเน่าเพราะรักษาพิษงูหายแต่พิษที่อยู่ที่ปากแผลไม่หาย และจะต้องใช้เวลาหลายวัน แต่ของหลวงตาเผือดเมื่อเอากากใบไม้ทิ้งก็กลับบ้านได้ ไม่ต้องมาหาอีก ใช้เวลารักษาแค่ 10-15 นาทีเท่านั้น ซึ่งน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง เคยถามหลวงตาเผือดว่าเคยรักษาใครแล้วตายบ้างไหม ท่านก็บอกว่าถ้ารักษาแล้วมีคนตายเมื่อไรก็จะเลิกรักษาให้ใครต่อใครอีก และจะคืนวิชาให้ครูให้หมด เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าจะมีใครทำได้อีก
 

น้ำลายวิเศษ
ช่วงก่อนเข้าเข้าหน้าฝนอากาศจะร้อนอบอ้าวมาก คนก็จะมีเหงื่อออกมาก มีการหมักหมมมาก ช่วงนี้หลวงตาเผือดจะเหนื่อยมากเพราะจะมีคนมาให้รักษางูสวัด เริมกับหลวงตามาก บางคนไม่คุ้นเคยเพราะได้รับทราบโดยการบอกต่อ ๆ กันมา ก็จะมาหาหลวงตาและให้หลวงตาช่วยดูให้ว่าเป็นงูสวัด เจ็บปวดมากและกำลังลามขึ้นเรื่อยๆ หลวงตาก็จะดูให้และบอกว่าใช่เป็นงูสวัดจริง ๆ บางคนแพ้ก็จะอักเสบ ปวดแสบปวดร้อน ถ้าไม่แพ้ก็ไม่ปวด แล้วท่านก็จะเฉย ๆ พูดคุยถึงเรื่องอื่น ๆ โดยไม่รักษาให้ จนคนป่วยออกปากให้ช่วยรักษา ท่านถึงจะรักษาให้ ผู้เขียนเคยถามหลวงตาในเรื่องนี้ หลวงตาเผือดท่านก็ว่า ก็เขาไม่ได้ให้ช่วยรักษา จะไป ส เรื่องของเขาทำไม ครูบาอาจารย์ท่านห้ามไว้ ถือว่าไม่มีเวรไม่มีกรรมแก่กัน
วิธีรักษางูสวัดของหลวงตาเผือดก็ง่าย ๆ ท่านจะเสกน้ำมนต์ (ไม่ใช่คาถาชินบัญชรนะครับ) แล้วพ่นไปที่บริเวณที่เป็นงูสวัด หากผู้หญิงที่เป็นในบริเวณร่มผ้าก็ไม่ต้องเปิดแผลดู หลวงตาจะพ่นทับที่ผ้าเลย หากเป็นไม่มากพ่นครั้งเดียวก็หาย ถ้าเป็นมาก ไม่เกิน 3 วัน ถ้าบ้านอยู่ไกลไปมาไม่สะดวก หลวงตาจะให้น้ำมนต์เอากลับไปทาเอง มีอยู่ครั้งหนึ่งมีนายทหารเรือและแพทย์เจ้าของไข้มาด้วย เพราะอยากทราบว่าหลวงตาทำอย่างไรคนไข้ของท่านจึงหายได้เร็วนัก (หมอปัจจุบันต้องใช้เวลารักษาหลายวัน) หลวงตาเผือดก็ยิ้ม ๆ ไม่ว่าอะไร ผู้เขียนจึงแกล้งพูดเล่น ๆ ไปว่า สงสัยน้ำลายของหลวงตาเผือดเป็นน้ำลายวิเศษ มีเซรุ่มรักษางูสวัดได้ ทุกคนเลยหัวเราะกันใหญ่
ปลัดขิกเมตตาค้าขาย
ยามว่างหลวงตาเผือดจะเหลาปลัดขิกที่ทำจากไม้เขยตายที่ท่านปลูกไว้ข้าง ๆ กุฏิ ท่านจะเหลาจนเป็นเอกลักษณ์ของท่านเหมือนกันทุกตัว และลงอักขระยันต์ครบสมบูรณ์ ยกเว้นบางตัวที่ทำไว้เฉพาะกิจก็มีบ้างแต่น้อย ส่วนใหญ่จะใส่ตะกรุดเอาไว้ด้วย เวลาเขย่าจะเกิดเสียงดัง หากมีตะกรุดจะเป็นมหาอุดด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมียันตที่ใช้ในทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด กันอาถรรพณ์ กันสัตว์ร้ายกัด กันงู ปลัดขิกของหลวงตาเผือดใช้ได้สารพัดทั้งเมตตา ค้าขาย โชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุด กันสัตว์ร้ายและสามารถรักษางูสวัดในระยะแรก ๆ ได้อีกด้วย หลวงตาเผือดจะทำเอง ลงอักขระเอง เสกเอง คาถาหลาย ๆ บทใช้เฉพาะร่วมกับอักขระที่ลง และมีอานุภาพต่างกัน ปลัดขิกของหลวงตาเผือดจึงใช้ได้หลายอย่าง (ไม่ใช่คาถาหรือยันต์ไม่กี่ตัวก็ใช้ได้ทุกอย่าง) หลวงตาเผือดจะทำเองจนแน่ใจแล้วจึงมอบให้ศิษย์ ต่อไป หากมีคนเหลาปลัดขิกมาถวายท่าน ท่านจะพยายามเหลาจนเหมือนของที่ท่านทำให้มากที่สุด ต้องระวังเพราะปลัดขิกของหลวงตาเผือดมีการทำปลอมและลอกเลียนแบบตั้งแต่สมัยท่านยังมีชีวิตอยู่แล้ว ต้องดูให้ละเอียดโดยเฉพาะลายมือ จำให้แม่น ๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอก
มาหาใคร มาทำไม
ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่เข้าใจผิด คิดว่าหลวงตาเผือด นราสโภ วัดมะกอกเก่งทางคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาดอันตรายต่าง ๆ หรือยิงไม่ออกนั้นเป็นอานุภาพบางส่วนของวัตถุมงคลของท่าน เพราะเวลาคนไปหาใหม่ ๆ หลวงตาไม่รู้จัก ท่านมักจะถามคนนั้นว่า มาหาใคร มาทำไม มีอะไร น้ำเสียงของท่านก็ดุ ๆ หน้าก็ไม่ยิ้ม บางคนกลัวจนพูดไม่ถูก บางคนกลับไปเลยก็มี
 

กูไม่ใช่ตัวประหลาด
ผมเคยเจอและหัวเราะจนทนไม่ไหวต้องถามหลวงตาเผือดว่า หลวงตาทำไมถึงได้ดุอย่างนั้น หลวงตาก็มองหน้าแล้วบอกว่า เสียงกูก็อย่างนี้แหละ กูถามมัน มันจะได้บอกกูถูกว่าจะเอาอะไร หรือจะให้กูทำอะไรให้ ไม่งั้นพอคนมาหากู ๆ ไม่พูดกับมันแล้วจะรู้เรื่องอะไร มันมาผิดที่หรือเปล่า มาหาพระมาหาเจ้า ดอกไม้สักดอกก็ไม่มี แล้วก็จะรู้ได้ยังไงว่ามันตั้งใจมาหากูหรือเปล่า หรือว่ามันจะเอาอะไร จะให้ช่วยอะไร กูไม่ใช่ตัวประหลาดนะ มาดู ๆ แล้วก็ไปหลวงตาเผือดใจดี
โดยปกติลูกศิษย์ของหลวงตาเผือดจะรู้ว่าท่านใจดี มีอะไรก็บอกท่าน ไม่ต้องมีพิธีรีตอง ไม่ต้องพูดไพเราะอะไร ไม่ต้องพนมมือไหว้ไปพูดไป อยากได้วัตถุมงคลก็บอกท่าน จะให้ช่วยอะไร ถ้าท่านช่วยได้ท่านก็จะช่วย ไม่มีเงินเช่าวัตถุมงคล หากท่านเห็นว่าไม่เคยได้รับวัตถุมงคลรุ่นนั้นมาก่อน ท่านก็จะให้ฟรี ๆ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเอ่ยปากขอ หากไป 3 คน 5 คน แต่ขอคนเดียวท่านก็จะให้แค่คนเดียว หากไปถวายของ ถวายสังฆทาน ท่านรับแล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี หลวงตาก็จะไม่มีวัตถุมงคลแจก ถ้าอยากได้ก็ต้องขอ
หลวงตาของศิษย์
หากหลวงตาเผือดรับของใครมา หรือใครนำภัตราหารเพลไปถวายท่านแล้วท่านฉันของนั้น หรือไปหาท่านบ่อย ๆ เอาของไปถวายบ่อย ๆ ท่านก็จะเกรงใจคน ๆ นั้น หากเขาขออะไรหลวงตาก็จะให้ ถึงแม้บางครั้งไม่มีหรือหมดไปแล้ว หลวงตาก็จะทำให้เป็นพิเศษ พอไปหาท่านอีกครั้งท่านก็จะให้ บางคนท่านดูว่าไม่ค่อยมีเงินแล้วนำเงินนำของมาถวายท่าน ๆ ก็จะดุ แล้วบอกว่ามาหาท่านเฉย ๆ ก็ได้ไม่ต้องซื้อของมาเปลืองตังค์ ของที่คนมาถวายท่าน ๆ ก็มักแจกจ่ายไปให้ทั้งลูกศิษย์ลูกหลานท่าน และเด็กนักเรียนที่โรงเรียนข้างวัด
สิ่งที่หลวงตาเผือดหวง
หลวงตาเผือดใจดี แต่ก็หวงวิชามาก ๆ มีคนมาขอเรียนนั่นเรียนนี่ ท่านก็มักจะหัวเราะ พอโดนตื๊อมาก ๆ ท่านก็ถามว่า พอรู้เรื่องอักขระเลขยันต์ไหม คาถาบทนั้น คาถาบทนี้รู้ไหม ชินบัญชรได้ไหม พอคนที่อยากเรียนก็จะบอกท่านว่ารู้ครับ ท่านก็จะบอกว่าใช้ได้ บทนี้แหละใช้ได้ บางคนถามว่ายันต์หน้าปลัดขิกว่าอย่างนี้หรือเปล่า ท่านก็บอกว่าใช้ได้
จะขออะไรต้องรู้ใจ
หลวงตาเผือดเป็นพระลูกทุ่งพูดตรง ๆ ไม่อ่อนหวาน ไม่เรื่องมาก ไม่มีพิธีรีตอง หากไปหาท่านแล้วเจอตอนที่ท่านนั่งดูมวยตู้อยู่ละก็ อย่าเพิ่งขออะไรเด็ดขาด ต้องคอยจนท่านดูจบแล้ว ค่อยบอกท่านว่าอยากได้อะไร หรือยิ่งถ้าหากมีความรู้เรื่องมวย เรื่องนักมวย คุยกับท่านได้ละก็ยิ่งคุยกันสนุก อยากได้อะไรพอมวยจบก็บอกท่าน ของบางอย่างที่หวง ๆ ยังให้ แม้กระทั่งลายสักยันต์บางยันต์ที่ท่านหวงยังให้เลย



ที่มา. morradokmongkol
        ตาล ไทยธรณี

เรียบเรียงโดย

ศักดิ์ศรี บุญรังศรี : สำนักข่าวทีนิวส์