5 นิสัยแย่ๆ ที่ทำให้ต่อมไทรอยด์มีปัญหา ใครที่กำลังทำแบบนี้อยู่ให้เลิกทำเลย
ข้อมูลนี้ออกโดยสมาคมต่อมไทรอยด์ของประเทศอเมริกัน เปิดเผยว่ากว่า 12% ของชาวอเมริกันจะมีความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ต่อมไทรอยด์ผิดปกติเป็นภาวะร้ายแรงที่มีผลต่อสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิตทั้งหมด ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน การเผาผลาญอาหารและหน่วยความจำบกพร่อง โชคดีที่ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการดำเนินชีวิตอย่างมีแบบแผน
1 ความเครียดมากเกินไป
ตามการศึกษาวิจัยได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Behavioral Brain Research บอกไว้ว่า เมื่อมีความเครียดมากเกินไป จะส่งผลให้ต่อมไทรอยด์มีอาการต่างๆ เช่น การด้อยค่าหน่วยความจำระยะยาว
EverydayHealth.com อธิบายว่าเหตุผลนี้ทำให้การทำงานของต่อมไทรอยด์และการหลั่งฮอร์โมนหยุดชะงัก ก่อให้เกิดปัญหาในต่อมไทรอยด์เป็นผลมาจากความเครียด ฟังดูแล้วอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่การรักษาระดับความเครียดมีความสำคัญยิ่งที่จะไม่ทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
2 การสูบบุหรี่
ตามผลการศึกษาปี 1995 การสูบบุหรี่เพิ่มความรุนแรงให้กับปัญหาของต่อมไทรอยด์ เป็นผลมาจากสารพิษในควันบุหรี่ ที่เป็นไซยาไนด์เป็นสารเคมีที่ไปรบกวนต่อมไทรอยด์ ทำให้การทำงานผิดปกติ อีกทั้งยังไปยับยั้งต่อมสังเคราะห์ฮอร์โมนที่เชื่อมกับหน่วยรับความรู้สึก อีกทั้งยังจะสร้างปัญหาให้กับสุขภาพตับอีกเช่นกัน การหยุดนิสัยนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุณสามารถลองทางเลือกธรรมชาติบางอย่าง เช่น การใช้ใบหญ้าหวานเพื่อลดความอยากให้กับคุณ
3 การบริโภคถั่วเหลือง
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนใหญ่ยอมรับว่า ถั่วเหลืองไม่ควรอยู่รวมในมื้ออาหารของผู้ที่ทุกข์ทรมานจากต่อมไทรอยด์ ตามที่ Dr. Mercola กล่าวไว้ถั่วเหลืองมีส่วนประกอบที่มีผลต่อต้านต่อมไทรอยด์บางอย่าง เช่น กอยโตรเจน ( goitrogen) ซึ่งกีดขวางต่อมฮอร์โมน และเมตาบอลิซึม ไอโอดีน แค่นี้ยังไม่พอถั่วเหลืองยังลดประสิทธิผลในการรักษาต่อมไทรอยด์อีกด้วยเช่นกัน
4 กว่าการบริโภคผักดิบตระกูลกะหล่ำ
จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยรัฐออริกอนพบว่าการบริโภคของผักบางชนิด เช่น กะหล่ำปลีและผักกาด สร้างความรบกวนต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ผักเหล่านี้อัดแน่นไปด้วยกลูโคซิโนเลต (glucosinolates) ซึ่งเมื่อบริโภคเข้าไปมันจะถูกแปลงเป็น goitrin สารที่มีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
5 ไม่ได้ทำตามคำแนะนำของแพทย์
การดำเนินชีวิตที่วุ่นวายมักจะทำให้เราไม่มีเวลาที่จะดูแลสุขภาพและเข้ารับการปรึกษาหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เว้นแต่เมื่อต่อมไทรอยด์ของเราเกิดความผิดปกติขึ้นมาซึ่งมันสามารถจะนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนของสุขภาพที่รุนแรง ได้มีการบันทึกไว้ว่าสารมารถรักษาอาการเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องใช้ยา อาจขอคำปรึกษาจากนักโภชนาการเพื่อตรวจสอบสภาพความเจ็บป่วยแบบเป็นส่วนตัวและให้คำแนะนำที่มีประโยชน์เพื่อนำกลับมาปรังปรุงสุขภาพให้ดีขึ้น
ข้อมูลนี้ออกโดยสมาคมต่อมไทรอยด์ของประเทศอเมริกัน เปิดเผยว่ากว่า 12% ของชาวอเมริกันจะมีความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ต่อมไทรอยด์ผิดปกติเป็นภาวะร้ายแรงที่มีผลต่อสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิตทั้งหมด ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน การเผาผลาญอาหารและหน่วยความจำบกพร่อง โชคดีที่ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการดำเนินชีวิตอย่างมีแบบแผน
5 นิสัยที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของต่อมไทรอยด์คือ
1 ความเครียดมากเกินไป
ตามการศึกษาวิจัยได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Behavioral Brain Research บอกไว้ว่า เมื่อมีความเครียดมากเกินไป จะส่งผลให้ต่อมไทรอยด์มีอาการต่างๆ เช่น การด้อยค่าหน่วยความจำระยะยาว
EverydayHealth.com อธิบายว่าเหตุผลนี้ทำให้การทำงานของต่อมไทรอยด์และการหลั่งฮอร์โมนหยุดชะงัก ก่อให้เกิดปัญหาในต่อมไทรอยด์เป็นผลมาจากความเครียด ฟังดูแล้วอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่การรักษาระดับความเครียดมีความสำคัญยิ่งที่จะไม่ทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
2 การสูบบุหรี่
ตามผลการศึกษาปี 1995 การสูบบุหรี่เพิ่มความรุนแรงให้กับปัญหาของต่อมไทรอยด์ เป็นผลมาจากสารพิษในควันบุหรี่ ที่เป็นไซยาไนด์เป็นสารเคมีที่ไปรบกวนต่อมไทรอยด์ ทำให้การทำงานผิดปกติ อีกทั้งยังไปยับยั้งต่อมสังเคราะห์ฮอร์โมนที่เชื่อมกับหน่วยรับความรู้สึก อีกทั้งยังจะสร้างปัญหาให้กับสุขภาพตับอีกเช่นกัน การหยุดนิสัยนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุณสามารถลองทางเลือกธรรมชาติบางอย่าง เช่น การใช้ใบหญ้าหวานเพื่อลดความอยากให้กับคุณ
3 การบริโภคถั่วเหลือง
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนใหญ่ยอมรับว่า ถั่วเหลืองไม่ควรอยู่รวมในมื้ออาหารของผู้ที่ทุกข์ทรมานจากต่อมไทรอยด์ ตามที่ Dr. Mercola กล่าวไว้ถั่วเหลืองมีส่วนประกอบที่มีผลต่อต้านต่อมไทรอยด์บางอย่าง เช่น กอยโตรเจน ( goitrogen) ซึ่งกีดขวางต่อมฮอร์โมน และเมตาบอลิซึม ไอโอดีน แค่นี้ยังไม่พอถั่วเหลืองยังลดประสิทธิผลในการรักษาต่อมไทรอยด์อีกด้วยเช่นกัน
4 กว่าการบริโภคผักดิบตระกูลกะหล่ำ
จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยรัฐออริกอนพบว่าการบริโภคของผักบางชนิด เช่น กะหล่ำปลีและผักกาด สร้างความรบกวนต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ผักเหล่านี้อัดแน่นไปด้วยกลูโคซิโนเลต (glucosinolates) ซึ่งเมื่อบริโภคเข้าไปมันจะถูกแปลงเป็น goitrin สารที่มีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
5 ไม่ได้ทำตามคำแนะนำของแพทย์
การดำเนินชีวิตที่วุ่นวายมักจะทำให้เราไม่มีเวลาที่จะดูแลสุขภาพและเข้ารับการปรึกษาหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เว้นแต่เมื่อต่อมไทรอยด์ของเราเกิดความผิดปกติขึ้นมาซึ่งมันสามารถจะนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนของสุขภาพที่รุนแรง ได้มีการบันทึกไว้ว่าสารมารถรักษาอาการเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องใช้ยา อาจขอคำปรึกษาจากนักโภชนาการเพื่อตรวจสอบสภาพความเจ็บป่วยแบบเป็นส่วนตัวและให้คำแนะนำที่มีประโยชน์เพื่อนำกลับมาปรังปรุงสุขภาพให้ดีขึ้น