เรามีพฤติกรรมการใช้ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต อย่างไร ถูกต้องหรือไม่ โดยในวันนี้ ทีมงาน techmoblog มีวิธีการดูแลแบตเตอรี่ให้เสื่อมช้าลง ด้วยการ “ห้ามทำ” พฤติกรรมแบบนี้ กับ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ของเรา จะมีข้อห้ามอะไรบ้าง มาชมกันเลยดีกว่าครับ
การชาร์จแบตเตอรี่ ถือว่า เป็นปัจจัยหลักที่จะบ่งบอกได้ว่า แบตเตอรี่จะใช้ได้ยาวนาน หรือเสื่อมเร็วขึ้นกว่าเดิม สำหรับแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน นั้น ควรจะปล่อยให้พลังงานแบตเตอรี่ เหลือเกิน 50% จะดีที่สุด ยิ่งเราปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือ 0% บ่อยๆ ยิ่งทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วมากขึ้นเท่านั้น และที่สำคัญ อย่าพยายามชาร์จจนเต็ม 100% เพราะนั่นก็คือเป็นสาเหตุที่ทำให้
แบตเตอรี่ค่อยๆ เสื่อมอายุลง ฉะนั้น ถ้าหากแบตเตอรี่ลดลงถึงระดับ 40% ก็ควรจะหยิบสายออกมาชาร์จกันได้แล้ว และควรจะชาร์จให้อยู่ที่ระดับ 90% นะครับ อย่าเสียบชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน หรือถ้าต้องการชาร์จให้เต็ม 100% ควรจะทำแค่เดือนละหนก็พอครับ
เมื่อชาร์จแบตเต็มแล้วก็ควรรีบถอดที่ชาร์จออก: เนื่องจากสถานะการชาร์จแบตเต็มนั้นก็เหมือนกับกล้ามเนื้อของเราที่กำลังตึงเครียดอยู่ การที่เราถอดที่ชาร์จออกจะช่วยทำให้แบตเตอรี่ “ผ่อนคลาย” และไม่มีแรงดันสูง
ควรชาร์จแบตบ่อยๆ: มีหลายคนมักจะรอจนกว่าแบตใกล้จะหมดแล้วจึงจะนำไปชาร์จ แต่การวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า เราควรจะปล่อยให้พลังงานแบตเตอรี่เหลือเกิน 50% จะดีที่สุด แต่เนื่องจากทุกคนไม่สามารถทำตามได้ ที่ดีที่สุดก็คือมีเวลาก็หยิบสายออกมาชาร์จกันได้แล้วและควรจะชาร์จให้อยู่ที่ระดับ 90%
อย่าปล่อยให้มือถือร้อนเกินไป: ถ้าคุณรู้สึกว่ามือถือของคุณร้อนมาก เวลาชาร์จแบตให้ถอดเคสออกจะดีกว่า เพื่อให้มือถือสามารถระบายความร้อนได้และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้มือถือไปโดนแสงแดดนะคะ
การชาร์จแบตนี้มันมีผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่โดยตรง ถ้าคุณพบว่าแบตเตอรี่ของมือถือคุณหมดเร็วมาก คุณต้องเริ่มใส่ใจและลองทำตามวิธีการดูแลแบตเตอรี่ที่เรามาฝากแล้วล่ะ จะได้ทำให้แบตเตอรี่ของคุณเสื่อมช้าลงและใช้ได้นานๆ
อย่าลืมกดแชร์ข้อมูลนี้ให้เพื่อนๆของคุณด้วยล่ะ...
การชาร์จแบตเตอรี่ ถือว่า เป็นปัจจัยหลักที่จะบ่งบอกได้ว่า แบตเตอรี่จะใช้ได้ยาวนาน หรือเสื่อมเร็วขึ้นกว่าเดิม สำหรับแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน นั้น ควรจะปล่อยให้พลังงานแบตเตอรี่ เหลือเกิน 50% จะดีที่สุด ยิ่งเราปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือ 0% บ่อยๆ ยิ่งทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วมากขึ้นเท่านั้น และที่สำคัญ อย่าพยายามชาร์จจนเต็ม 100% เพราะนั่นก็คือเป็นสาเหตุที่ทำให้
แบตเตอรี่ค่อยๆ เสื่อมอายุลง ฉะนั้น ถ้าหากแบตเตอรี่ลดลงถึงระดับ 40% ก็ควรจะหยิบสายออกมาชาร์จกันได้แล้ว และควรจะชาร์จให้อยู่ที่ระดับ 90% นะครับ อย่าเสียบชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน หรือถ้าต้องการชาร์จให้เต็ม 100% ควรจะทำแค่เดือนละหนก็พอครับ
เมื่อชาร์จแบตเต็มแล้วก็ควรรีบถอดที่ชาร์จออก: เนื่องจากสถานะการชาร์จแบตเต็มนั้นก็เหมือนกับกล้ามเนื้อของเราที่กำลังตึงเครียดอยู่ การที่เราถอดที่ชาร์จออกจะช่วยทำให้แบตเตอรี่ “ผ่อนคลาย” และไม่มีแรงดันสูง
ควรชาร์จแบตบ่อยๆ: มีหลายคนมักจะรอจนกว่าแบตใกล้จะหมดแล้วจึงจะนำไปชาร์จ แต่การวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า เราควรจะปล่อยให้พลังงานแบตเตอรี่เหลือเกิน 50% จะดีที่สุด แต่เนื่องจากทุกคนไม่สามารถทำตามได้ ที่ดีที่สุดก็คือมีเวลาก็หยิบสายออกมาชาร์จกันได้แล้วและควรจะชาร์จให้อยู่ที่ระดับ 90%
อย่าปล่อยให้มือถือร้อนเกินไป: ถ้าคุณรู้สึกว่ามือถือของคุณร้อนมาก เวลาชาร์จแบตให้ถอดเคสออกจะดีกว่า เพื่อให้มือถือสามารถระบายความร้อนได้และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้มือถือไปโดนแสงแดดนะคะ
การชาร์จแบตนี้มันมีผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่โดยตรง ถ้าคุณพบว่าแบตเตอรี่ของมือถือคุณหมดเร็วมาก คุณต้องเริ่มใส่ใจและลองทำตามวิธีการดูแลแบตเตอรี่ที่เรามาฝากแล้วล่ะ จะได้ทำให้แบตเตอรี่ของคุณเสื่อมช้าลงและใช้ได้นานๆ
อย่าลืมกดแชร์ข้อมูลนี้ให้เพื่อนๆของคุณด้วยล่ะ...