Home »
สาระ ความรู้
»
“บัตรคนจน” ลงทะเบียนรับเงินค่าน้ำ-ค่าไฟ บัตรคนละที่อยู่ก็ลงได้
“บัตรคนจน” ลงทะเบียนรับเงินค่าน้ำ-ค่าไฟ บัตรคนละที่อยู่ก็ลงได้
“บัตรคนจน” ลงทะเบียนรับเงินค่าน้ำ-ค่าไฟ บัตรคนละที่อยู่ก็ลงได้
ตามที่รัฐบาลได้ออก 4 มาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ(บัตรคนจน)
ซึ่งมีหนึ่งมาตรการสำคัญ นั่นคือ การช่วยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230
บาท/เดือน/ครัวเรือน และ ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน
โดยเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562
และจะเริ่มจ่ายเงินเข้าบัตรครั้งแรก ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ทั้งนี้
สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่จะมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว จะต้องทำการลงทะเบียนก่อน โดยมีเงื่อนไขตามนี้
1. ค่าไฟฟ้า วงเงินไม่เกิน 230 บาท/เดือน/ครัวเรือน
**สำหรับประชาชนผู้ถือบัตร ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และนนทบุรี : สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่
– เดินทางไปลงทะเบียนด้วยตนเองที่สำนักงานเขตต่าง ๆ ของ การไฟฟ้านครหลวง
– แอปพลิเคชัน MEA Smart Life
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การไฟฟ้านครหลวง โทร. 1130
**สำหรับประชาชนผู้ถือบัตร ในพื้นที่ต่างจังหวัด : สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ผ่านช่องทางดังนี้
– สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในพื้นที่ทุกแห่ง
– PEA Shop และ PEA Mobile Shop ในพื้นที่ทุกแห่ง
– ตัวแทนเก็บเงินค่าไฟฟ้า
– PEA Call Center โทร. 1129
– แอปพลิเคชัน PEA Smart plus
ถ้าหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร. 1129
เงื่อนไขในการรับสิทธิ์ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า
– เป็นผู้มีสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
– ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์กับ กฟน. หรือ กฟภ. เรียบร้อย (ลงทะเบียนก่อนหรือหลังชำระค่าไฟฟ้าก็ได้ แต่ต้องอยู่ภายในเดือนเดียวกัน)
– มียอดค่าไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน
– เป็นยอดค่าไฟฟ้าในระหว่างเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562
– ชำระค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. เรียบร้อยแล้ว
จึงได้เงินคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายหลัง โดยจะคืนเงินผ่านบัตร
ในวันที่ 18 ของทุกเดือน เริ่มครั้งแรก วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562
อย่างไรก็ตาม ชื่อของผู้ลงทะเบียนไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของมิเตอร์
หมายความว่า หากเช่าบ้านอยู่ก็สามารถรับสิทธิ์ได้เช่นกัน
เพียงแต่รายชื่อต้องไม่ซ้ำกับผู้รับสิทธิ์ตามมาตรการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50
หน่วย/เดือน
สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้สิทธิ์มาตรการค่าไฟฟ้าฟรี ไม่เกิน
50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิ์ฟรีตามมาตรการเดิม
แต่หากเดือนใดมีการใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน แต่ใช้ไม่เกิน 230
บาท/ครัวเรือน/เดือน จะได้รับสิทธิ์ตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2. ค่าน้ำประปา วงเงินไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน
**สำหรับประชาชนผู้ถือบัตร ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และนนทบุรี : สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์กับการประปานครหลวง (กปน.) ได้ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 31 มกราคม 2562 ผ่านช่องทางดังนี้
– สำนักงานประปาสาขา 18 แห่ง
– ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
– เคาน์เตอร์รับชำระเงิน กปน. สำนักงานใหญ่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การประปานครหลวง โทร. 1125
**สำหรับประชาชนผู้ถือบัตร ในพื้นที่ต่างจังหวัด : สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์กับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ผ่านช่องทางดังนี้
– สำนักงาน กปภ. ทั่วประเทศ ทั้งสำนักงานใหญ่ สำนักงาน เขต 1-10 และ กปภ. สาขา 234 แห่งทั่วประเทศ
เงื่อนไขในการรับสิทธิ์ช่วยเหลือค่าน้ำประปา
– เป็นผู้มีสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
– ผู้มีรายได้น้อยต้องเตรียมบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และหมายเลขทะเบียนผู้ใช้น้ำ มาลงทะเบียนรับสิทธิ์
– ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ กับ กปน. หรือ กปภ. เพียงครั้งเดียว (ลงทะเบียน 1 บัตร ต่อ 1 หมายเลขทะเบียนผู้ใช้น้ำ)
– ยอดค่าน้ำที่ได้รับสิทธิ์ คือยอดค่าน้ำที่ใช้ในเดือนธันวาคม 2561 –
กันยายน 2562 หรือยอดที่ระบุในใบแจ้งค่าน้ำเดือนมกราคม – ตุลาคม 2562
– มียอดเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้นไม่เกิน 100 บาท / 1 ทะเบียนผู้ใช้น้ำ
หากเดือนไหนมียอดเกิน 100 บาท จะไม่สามารถรับสิทธิ์ดังกล่าวในเดือนนั้น
และต้องชำระเองเต็มจำนวน
– สิทธิ์นี้ไม่ครอบคลุมสำหรับผู้ใช้น้ำในหอพักหรือคอนโดมิเนียม
– ชำระค่าน้ำตามปกติผ่านช่องทางต่าง ๆ ของ กปน. หรือ กปภ.
และจะได้รับการโอนเงินคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามยอดชำระจริงในกลางเดือนถัดไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :money.kapook.com , Tiwa Khotkham