ในวันนี้ผมอยากจะแบ่งบุญให้กับคุณผู้อ่าน ได้นำไปแบ่งปันให้ผู้อื่นกัน หรือถ้าหากใครมีเวลาว่างหรือสะดวกก็สามารถทำตามคำแนะนำนี้ได้เลย ใครไม่มีเวลาว่างแค่แชร์คุณก็ได้บุญแล้ว
สำหรับแอดมินนั้นเคยได้ทำการบริจาคร่างกายและดวงตาตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมในสมัยนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตามโรงเรียนต่างๆเพื่อขอรับบริจาค เ ลื อ ด และมีการเปิดรับสมัครผู้บริจาคร่างกายและดวงตาด้วย ผมจึงได้มีโอกาสลงทะเบียนเพื่อร่วมบริจาค
แต่สำหรับทุกวันนี้บอกเลยว่าไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่มาหาตามหน่วยงานของท่านๆ หรือเดินทางไปสมัครแต่อย่างใด เพราะเดี๋ยวนี้มีระบบลงทะเบียนยื่นบริจาคออนไลน์กันแล้ว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้…
การบริจาคร่างกาย
เพื่อการศึกษา ผู้บริจาคเป็นผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ ยอมสละร่างกายของตนเอง ให้ผู้ที่ไม่เคยได้รู้จักมาก่อนได้ศึกษาโดยเพียงแต่มุ่งหวังว่า ผู้ที่ศึกษาร่างของตนจะนำความรู้ที่ได้รับนั้นไปช่วยมวลมนุษย์ชาติต่อไป ผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาได้สร้างกุศลทานครั้งสุดท้ายของชีวิตที่ยิ่ง ใหญ่ที่สุด โดยได้แต่หวังว่า ผู้อยู่เบื้องหลังจะไม่ต้องทนทุกข์จากอาการเจ็บป่วย ตนเองมิได้หวังสิ่งตอบแทนใดใด นอกจากได้เป็นผู้ “ให้” เท่านั้น
ร่างกายของผู้บริจาค สามารถสร้างประโยชน์เพื่อการศึกษา การวิจัย และการรักษาทางการแพทย์ ได้ดังนี้
– เพื่อการศึกษาของนิสิตแพทย์ และแพทย์ประจำบ้าน
– เพื่อการฝึกอบรมหัตถการต่างๆ และงานวิจัยทางการแพทย์
– เพื่อการศึกษาของนักศึกษาด้านการแพทย์และสาธารณสุขอื่นๆ
– เพื่อเก็บเนื้อเยื่อบางส่วนสำหรับการรักษาทางการแพทย์
– เพื่อให้แพทย์เฉพาะทางฝึกผ่าตัด
– เพื่อเก็บโครงกระดูกเพื่อการศึกษาตลอดไป
ขั้นตอนการบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษา
ผู้มีความประสงค์อุทิศร่างกายสามารถยื่นความจำนงได้ 3 วิธี คือ
1. ยื่นความจำนงผ่านช่องทางออนไลน์ที่ chulalongkornhospital
2. ยื่นความจำนงโดยตรงที่ ศาลาทินฑัต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยกรอกข้อความลงในแบบฟอร์มของโรงพยาลบาล 1 ฉบับ เจ้าหน้าที่จะออกบัตรประจำตัวผู้อุทิศร่างกายให้ไว้เป็นหลักฐาน
3. ยื่นความจำนงทางไปรษณีย์ โดยกรอกข้อความลงในแบบฟอร์ม แล้วส่งมาทางไปรษณีย์ 1 ฉบับ เจ้าหน้าที่จะส่งบัตรประจำตัวผู้อุทิศร่างกายให้ภายหลังเมื่อผู้อุทิศร่างกายถึงแก่กรรม ทายาท มีสิทธิ์คัดค้านไม่มอบผู้เสียให้กับโรงพยาบาลได้โดยต้องแจ้งการคัดค้านไม่มอบกับโรงพยาบาลฯภายใน 24 ชั่วโมง
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมการอุทิศร่างกายได้ที่
ศาลาทินทัต โทรศัพท์ 02 256 4397 , 02 256 4281 ต่อ 0 หรือ 4 หรือ 7
ฝ่ายกายวิภาคศาสตร์ ศูนย์ฝึกผ่าตัด โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
โทรศัพท์ 02 256 4281 ต่อ 1405 , 02 256 4737
การบริจาคดวงตา
เป็นการแสดงความจำนงตั้งแต่ยังมีชีวิต เพื่อมอบดวงตาของตนเองภายหลังจากเสียชีวิตแล้ว ซึ่งทางศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยจะได้นำไปเปลี่ยนให้กับผู้ป่วย เพื่อให้สามารถกลับมามองเห็นได้เป็นปกติอีกครั้ง
ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รอการเปลี่ยนกระจกตาอยู่จำนวนมากถึง 11,027 ราย แต่ในปี พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยได้รับการบริจาคดวงตาจากผู้เสียชีวิตเพียง 847 ราย และมีผู้ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาเพียง 763 ราย เท่านั้น
ขั้นตอนการบริจาคดวงตา
1. ผู้ที่สนใจบริจาคดวงตาสามารถแสดงความจำนงในการบริจาคดวงตาได้คนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ เป็นต้นไป โดยสามารถแสดงความจำนงได้ที่ eyebank.redcross
2.เมื่อบริจาคดวงตาแล้วจะได้รับบัตรประจำตัวผู้บริจาคดวงตา ควรพกบัตรผู้บริจาคติดตัวไว้และแจ้งให้ญาติรับทราบว่าได้ทำเรื่องบริจาคดวงตาไว้ในระหว่างมีชีวิต
3. ในกรณีบริจาคอวัยวะแทนญาติ กรุณาโทรแจ้งศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยทันทีที่ผู้บริจาคเสียชีวิต ที่หมายเลข 081 902 5938, 081 836 4927 ตลอด 24 ชั่วโมง
ภายหลังเสีย..ดวงตาจะเริ่มเสื่อมสภาพ ดังนั้นเพื่อให้ดวงตาที่มีสภาพดีที่สุด ญาติของผู้แสดงความจำนงในการบริจาคควรโทรแจ้งศูนย์ดวงตาทันทีหลังผู้บริจาคเสียชีวิต เพื่อให้ศูนย์ดวงตาได้จัดเก็บดวงตาโดยเร็วที่สุด ซึ่งควรจัดเก็บให้เรียบร้อยภายใน 6-8 ชั่วโมง
ข้อควรปฏิบัติภายหลังการอุทิศดวงตา
1. แจ้งสมาชิกในครอบครัวหรือญาติใกล้ชิดให้รับทราบ
2. เก็บบัตรอุทิศดวงตาไว้กับตัวหรือในที่หาง่าย
3. ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาควรปรึกษาจักษุแพทย์
ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย
อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฒโน) ชั้น 7 ถนนอังรีดูนังต์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ 0-2252-8131-9 , 0-2258-8181-9, 0-2256-4039 และ 0-2256-4040 ต่อศูนย์ดวงตา ตลอด 24 ชั่วโมง
หากเพื่อนๆต้องการ บริจาคสามารถติดต่อไปที่เว็บไซค์ได้เลยครับ
https://www.redcross.or.th/