มหาเศรษฐี เจ้าของ”หัวเหว่ย”กับชีวิตที่ควรเอาเป็นตัวอย่าง

โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ หัวเหว่ย ในตอนกลายเป็นแบรนด์มือถือใหญ่ติดอันดัUระดัUโลกไปแล้ว เพราะคุณภาพและราคา ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อหามาใช้กันง่ายขึ้น และรู้หรือไม่ว่า เจ้าของแบรนด์มือถือ หัวเหว่ยนั้น เป็นใครมาจากไหร ทำไมเขาถึงสามารถสร้างแบรนด์มือถือจนติดอันดัUโลกได้

เจ้าของแบรนด์มือถือ หัวเหว่ยมีชื่อว่า หยิ่มเจี๊ยฮุย เป็น มหาเศรษฐี อันดัUต้นๆของเมืองจีน เพราะเขาสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดและแบ่งส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือได้ถึง 70 % แต่มหาเศรษฐีท่าน เขาเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่าย ทำตัวติดดินจนเป็นที่รักของพนักงานในบริษัท และประชาชนชาวจีนทั้งประเทศ

เมื่อปี 2017 ตอนนั้นเขามีอายุ 72 ปี เขาได้ไปเข้าแถวรอขึ้นแท๊กซี่กลางดึกคนเดียว ที่สนามบินหงเฉียว ในเมืองเซี่ยงไฮ้ มีคนแอบถ่ายรูปใว้ได้ และมีการกันอย่างมาย
ในภาพ ท่านกำลังลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ด้วยตนเอง และเข้าแถวรอรถแท๊กซี่เหมือนคนทั่วไป

เมื่อภาพของเขาถูกเผยแพร่ออกไป ประชาชนชาวจีนต่างพากัน แสดงการคารวะอย่างจริงใจกับท่าน ในฐานะตัวอย่างของคนรวยที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
ใน ปี 2012 ก็เคยมีคนถ่ายรูปได้ เมื่อท่านกำลังขึ้นรถขนส่งผู้โดยสารสาธารณะ แต่งตัวด้วย ใส่เสื้อเก่าๆ หิ้วกระเป๋าใบเก่าจนเป็นสีเหลือง มีความน้อบน้อมถ่อมตน ต่อคนอื่นและมารeๅททีดีเยี่ยม

ท่านเป็นเจ้าของบริษํทยักษ์ใหญ่ เป็นนักธุรกิจระดัUโลก มีพนักงาuมายหลายพันคน แต่ก็ไม่เคยใช้สิทธิพิเศษอะไรเลย และทุกวันยังไม่เคยมีรถประจำตำแหน่งใช้เลย
ท่านเคยกล่าวไว้ว่า
1. ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
2. การแข่งขันคือต้นทุนอย่างหนึ่ง
3. ต้องอุดหนุนคนที่ทำงานดิ้นรนอย่างeๅกลำบาก…

เขาห้ามลูกน้องตามดูแลรับใช้ เช่น มีคนขับรถไปรับท่านที่สนามบิน แต่กลับถูกท่านสอนว่า…
“ลูกค้าจึงจะเป็นทั้งเสื้อผ้า อาหาร หรือบุพการีของเธอที่แท้จริง เธอควรจะใช้แรงกายและแรงใจ เอาใจใส่ให้กับลูกค้าทั้งหมด ”
“หัวเหว่ย” ไม่ใช่ผลิตllの่โทรศัพพ์มือถือ แต่บริษัทที่ผลิต ติดตั้ง เซตสัญญาณโทรศัพท์ที่ใหญ่ฝุดฝุดในโลก มีศูนย์การจำหน่ายอู่ 150 ประเทศ มีคนใช้บริการ โทรศัพท์ยี่ห้อ “หัวเหว่ย” กว่า 2,000 ล้านคน

รู้หรือไม่ว่าเทคโนโลยีระบบ 4G ของทวีปยุโรป “หัวเหว่ย” มีสัดส่วนการลงทุน ถึง 50%
ปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือในตลาดทั่วโลกมีไม่ต่ำกว่า 20 ยี่ห้อ ที่ประสบกับภาวะขาดทุนและการถดถอยทางการตลาด ไม่เว้นแม้แต่ “แอปเปิล”เจ้าของไอโฟน
แต่ “หัวเหว่ย” กลับมีผลกำไรจากการประกอบการเพิ่มขึ้น แต่เขาไม่เอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ใช้วิธีกระจายหุ้นของบริษัท 98.6% ให้กับพนักงานทุกคนของบริษัท แต่ตนเองมีหุ้นllの่ 1.4% เท่านั้น

เขาบอกว่า การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ กำไรที่ได้อย่างมหาศาลเกิ๑จากการปั่นตัวเลขเท่านั้น เขาจึงไม่ยอมเอา “หัวเหว่ย” เข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่กระจายหุ้นส่วนให้กับพนักงานในบริษัทของเขาเอง

พนักงาน “หัวเหว่ย” ทุกคน เป็นคนใสครอบครัว และมีส่วนร่วมกับบริษัท เงินทุกๆหยวนที่เข้ามา ทำให้ทุกคนได้ส่วนแบ่งด้วย เขามีหน้าที่บริหารให้บริษัทมีความมั่นคงฝุดฝุด
เขา กล่าวว่า “เมื่อผมได้ชัยชนะมา 1 ครั้ง ผมก็จะทำให้พ่อแม่พี่น้อง ญาติ มิตรสหาย ได้กินข้าวเพิ่มอีก 1 ชาม และยังจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งให้เป็นความหวังของลูกหลานแรงงาน สามารถใช้เป็นทุนการศึกษา ให้ตัวเล็กๆได้เรียนหนังสือให้ขึ้น”

มหาเศรษฐีคน ด้วยวัย 72 ปี ที่ผ่าuมาเขาไม่เข้าสังคมที่หวังผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่เข้าหานักการเมือง
เขารวยมหาศาล แต่เขาใช้รถยนต์ มือ 2 ราคาไม่เกิน 1 แสนหยวน (ประมาณ 5 แสนบาท) แต่พอถึงเวลาที่รถคันเก่าใช้การไม่ได้ เขาจึงได้เปลี่ยนไปซื้อรถ BMW 730i ราคาประมาณ 1 ล้านหยวน (ประมาณ 5 ล้านบาท) รถคันเป็นทรัพย์สินที่มีราคาฝุดฝุด และสิ้นเปลืองฝุดฝุดที่ท่านเคยใช้มัน

ท่านสามารถนำเงินตราต่างประเทศจากการประกอบธุรกิจ เข้ามาสู่ประเทศจีuถึง 6.6 ล้านๆ แต่ท่านไม่เคยเลี่ยงภาษี ท่านจะเสียภาษีให้กับรัฐบาลจีน แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ปีละกว่า 1.6 แสนล้าน

ด้วยหลักการประกอบธุรกิจ และความซื่อสัตย์ของท่าน ทำให้รัฐบาลจีน ยกย่องให้เป็นท่านเป็นนักธุรกิจดีเด่นแห่งชาติ

ขอขอบคุณบทความแปลจาก เจงเอี่ยม แซ่oึ้J
ขอบคุณที่มาจาก https://bit.ly/2Kx6hDh