สามประโยคของพ่อกับบะหมี่สองชาม
ตอนเด็กข้าพเจ้าเป็นคนเห็นแก่ตัวมาก เจออะไรดีๆ ก็จะอยากเอามาเป็นของตัวเองให้ได้ โดยไม่ใสใจว่า คนอื่นเขาคิดอย่างไร นานเข้าเพื่อนๆ ก็หายไปทีละคน สองคน ลดลงไปเรื่อย ๆ ข้าพเจ้ากลัดกลุ้มและ หงุดหงิดใจมาก นอกจากเห็นแก่ตัวแล้ว ข้าพเจ้ายังเป็นคนชอบวิพากษ์ วิจารณ์คนลับหลังมีอยู่คืนหนึ่ง คุณพ่อทำบะหมี่สองชาม ชามหนึ่งมีไข่ไก่ฟองหนึ่งบนบะหมี่ อีกชามดูไม่มีอะไร มีแต่บะหมี่ คุณพ่อ ถามข้าพเจ้าว่า จะทานชามไหน ตอนนั้นไข่ไก่ เป็นของหายากมาก ต้องตรุษจีนหรือวันเกิด ถึงมีโอกาสได้ทาน ซึ่งแน่นอน ข้าพเจ้าก็เลือกทานชามที่มีไข่ ตอนที่ทานอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น
เห็นคุณพ่อทานถึงก้นชามแล้ว ในก้นชามถึงกับมีไข่สองฟอง ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจ ที่ตนใจร้อนไม่ได้คิดให้ดี คุณพ่อเห็นท่า ก็ยิ้มแล้วพูดกับข้าพเจ้าว่า ลูกเอ๋ยเจ้าจงจำไว้ที่ตาเห็นนั้น อาจไม่ใช่ ของแท้คิดจะเอาเปรียบคนอื่น กลับขาดทุนใหญ่หลวงได้นะลูก ประโยคที่ 1
ในคืนที่สอง คุณพ่อก็ทำบะหมี่อีกสองชาม ดูแล้วเหมือนของคืนก่อนไม่มีผิด ชามหนึ่งมีไข่โปะอยู่ฟองหนึ่ง อีกชามหนึ่งคล้ายมีแต่มะหมี่ คุณพ่อให้ข้าพเจ้าเลือก ข้าพเจ้าเสียรู้ไปทีแล้ว วันนี้ข้าพเจ้าจึงเลือก เอาชามที่ไม่มีไข่
คุณพ่อมองข้าพเจ้า โดยไม่ได้ปริปาก ข้าพเจ้าจับตะเกียบรีบโกยบะหมีเข้าปาก ด้วยคิดจะทานไข่ ในก้นชามไวๆ แต่หารู้ไม่ว่า ในชามนั้น นอกจากบะหมี่และซุบแล้วไม่มีอะไรเลย
และแล้วคุณพ่อกับกล่าวกับข้าพเจ้าว่า ลูกเอ๋ย เจ้าจงจำไว้ให้ดีนะลูก อย่าให้ความสำคัญหรือ เชื่อในประสบการณ์มากเกินไป เพราะการดำรงชีวิตมีการพลิกเพลงหลอกเราได้ แต่ลูกก็ไม่ต้องท้อแท้ไม่ต้องเสียใจ ถือว่าเป็นการลิ้มลองเป็นประสบการณ์ ก็แล้วกันนะลูก ภูมิปัญญาเหล่านี้หาอ่านจาก ตำราไม่ได้นะ ประโยคที่ 2
ในคืนที่สาม คุณพ่อก็ทำมะหมี่สองชามอีก ดูเป็นแบบเดียวกัน ชามหนึ่งมีไข่ฟองหนึ่ง อีกชามไม่มีไข่ คราวนี้ข้าพเจ้าไม่หุนหันเหมือนสองคืนที่ผ่านมา ให้คุณพ่อเลือกก่อน ข้าพเจ้าพูดกับคุณพ่อด้วยความเคารพว่า คุณพ่อครับ ท่านเป็นผู้ใหญ่ท่านเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลครอบครัว เรามามากแล้ว คุณพ่อเลือกก่อนเถอะครับ
คุณพ่อเลือกเอาชามที่มีไข่หนึ่งฟอง ส่วนข้าพเจ้าก็ทานชามที่ไม่เห็นมีไข่ แต่ผิดคาดในก้นชามมีไข่อยู่สองฟอง คุณพ่อเงยหน้าขึ้นพูดกับข้าพเจ้า ด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน และ เนิบๆ ว่าลูกต้องจำไว้ให้ดีนะ เมื่อลูกคิดและทำเพื่อคนอื่นแล้ว ความโชคดี ก็บังเกิดกับเราได้นะ ประโยคที่ 3
คำพูดของคุณพ่อ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกละอายใจในตัวเองเป็นอย่างมาก นับแต่นั้นมา ข้าพเจ้าก็จดจำสามประโยค ที่คุณพ่อไว้มิรู้ลืม ยึดเป็นหลักในการดำรงชีวิต ไม่ว่าเป็นการวางตัวหรือปฏิบัติหน้าที่ ก็มักจะคำนึงถึงประโยชน์ของคนอื่นก่อนผลก็เป็นอย่างที่คุณพ่อได้สอนสั่งไว้จริงๆ
ทำให้ความโชคดีมาเยือนอย่างคาดไม่ถึง หน้าที่การงานของตัวเองเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ งานบางอย่างก็ไปแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว
ที่มา verrysmilejung