Home »
ข้อคิด
»
หนุ่มฝากข้อคิด มานะเรียน 8 ปี คว้าปริญญาเอกสมใจ สุดท้ายตกงาน ต้องมาขับรถส่งอาหาร
หนุ่มฝากข้อคิด มานะเรียน 8 ปี คว้าปริญญาเอกสมใจ สุดท้ายตกงาน ต้องมาขับรถส่งอาหาร
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 เว็บไซต์เวิลออฟบัซ
เผยเรื่องราวของหนุ่มชาวมาเลเซียรายหนึ่ง
ที่มาแชร์ประสบการณ์ท้อแท้ใจผ่านทาง เว็บไซต์ IIUM Confessions
ของมหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติมาเลเซีย (International Islamic University
Malaysia) โดยเขาเรียกมันว่า ภาวะซึมเศร้าหลังจบปริญญาเอก
หนุ่มรายนี้เล่าว่า เขาจบปริญญาเอกมาเมื่อปี 2560
ด้วยผลงานวิจัยเรื่องกระบวนการชีวภาพ แต่ภายหลังจากได้ใบปริญญามา
เขากลับไม่สามารถหางานทำได้ตลอด 2 ปีจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุผลคือ
Overqualified หรือการมีคุณสมบัติเกินความต้องการที่บริษัทกำหนด
หรือพูดง่าย ๆ คือ เก่งเกินไป ทางบริษัทจึงปฏิเสธไม่รับเข้าทำงาน
เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาจึงลองเอาคุณวุฒิสำคัญ เอาทั้งปริญญาเอก
รวมทั้งปริญญาโท ออกจากใบเรซูเม่สมัครงาน เหมือนจะแก้ไขปัญหาได้
แต่ปรากฏว่าไม่ได้เลย ทางบริษัทถามว่าที่ผ่านมา 8 ปี
เขาไม่มีประสบการณ์การทำงานหรืออะไรเลยเหรอ เพราะช่องข้อมูลมันว่างเปล่า
และเมื่อเขายอมบอกความจริงว่าจบปริญญาเอก ผลที่ออกมาก็เหมือนเดิม
บริษัทปฏิเสธเพราะคุณสมบัติเกิน
ในตอนนี้เขาจึงเป็นชายวัย 32 ปี ไม่มีงานไม่มีรายได้ที่แน่นอน
ต้องออกมาเดินเตะฝุ่น เขารู้สึกเสียใจต่อพ่อและแม่ของเขามาก
ในสุดเขาจึงตัดสินใจไปขับ GrabFood ส่งอาหาร
เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวและยังมีน้องอีก 3 คนที่กำลังเรียนอยู่
แม้จะเป็นงานที่เขาไม่พอใจนัก แต่ก็เลือกไม่ได้ พ่อครับ แม่ครับ ผมขอโทษ
เขา กล่าว
เมื่อหวนนึกถึงเวลา 8 ปี ที่เขาเสียไปกับการเรียนปริญญาเอก
เขายอมรับว่ารู้สึกเสียดายมาก ๆ
หากย้อนกลับไปได้จะเอาไปสร้างครอบครัวและทำงานที่มั่นคง
เขาไปถึงจุดที่รู้สึกอยากจะหัวเราะเยาะ เมื่อได้ยินคนพูดว่า
อยากศึกษาต่อปริญญาเอกเพราะชอบเรียน เพราะเมื่อก่อนเขาเป็นประเภทนั้นเลย
จนวันนี้ได้รู้แล้วว่าเขาคิดผิดมหันต์ ไม่คุ้มอย่างที่สุด
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องหนี้ทุนการศึกษา เมื่อเทียบกับสถานการณ์ของเขาตอนนี้
คิดไม่ออกเลยว่าจะจ่ายอย่างไรไหว
เขายังอยากฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ ๆ ในมาเลเซียว่า
ควรวางแผนชีวิตอย่างชาญฉลาด ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไป
ความรู้ไม่เพียงแต่จะพบได้เฉพาะในมหาวิทยาลัยเท่านั้น
ความรู้มีอยู่ทั่วไปแม้แต่บนท้องถนน คนจะเห็นว่าคุณทำงานหนัก
ก็ต่อเมื่อเขาได้รับประโยชน์จากมัน
ฉะนั้นความพยายามกว่าจะเรียนจบศึกษาของคุณ
อาจะถูกเก็บไว้อยู่ในหนังสือเล่มหนา ๆ ในห้องสมุดที่เต็มไปด้วยฝุ่น
และจะมีใครอ่านหรือเปล่าก็ไม่มีรู้
อย่างไรก็ดี แม้ชีวิตเขาจะเศร้า แต่เขาบอกไว้ว่าไม่ท้อ
ใครที่อ่านไม่ต้องเป็นห่วง และจะยืนหยัดสู้ชีวิตต่อไปเพื่อครอบครัว
และคนที่รักต่อไป
ที่มา.siamnews