10 ข้อ ประกันรถ ของคนที่ขับรถทุกวัน ขอย้ำว่าต้องรู้ อย่าเสียประโยชน์

10 ข้อ ประกันรถ ของคนที่ขับรถทุกวัน ขอย้ำว่าต้องรู้ อย่าเสียประโยชน์

การขับรถ การใช้รถบนท้องถนน ประกันรถ เราจำเป็นที่จะต้องรู้อะไรหลายๆอย่าง เวลาที่เกิดเหตุหรืออะไรขึ้นมา เราควรที่จะมีความพร้อม ควรที่จะไม่ประมาท และในบางครั้งที่มีเหตุเกิดขึ้นเรามักจะเรียกประกัน แต่ถ้าหากเราไม่มีใบขับขี่จะต้องทำอย่างไร

หลายคนอาจจะยังไม่เคยเข้าใจในรายละเอียด ซึ่งในวันนี้เราจะมาบอกข้อมูลชี้แจงกันชัดๆให้ทราบกันถึงใบขับขี่ ว่ามีความจำเป็นมากแค่ไหน ใบขับขี่จำเป็นจะต้องมีในกรณีเดียว เมื่อเราเกิดเหตุ ทางเจ้าของประกันจะต้องเป็นคนซ่อมรถด้วยตัวเอง นอกนั้นไม่จำเป็นจะต้องใช้ อาจจะยังมองไม่เห็นภาพสักเท่าไหร่ เรามีรายละเอียดเป็นข้อๆให้ทำความเข้าใจกัน

1 สำหรับคนที่มีรถใช้ประกันชั้น 1 ถ้าหากว่าขับรถไปชนหรือว่าทรัพย์สินของคนอื่นเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม อาการจะเป็นคนรับผิดชอบแทนคู่กรณีแทนทุกกรณีที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์นั้น ไม่ว่าจะเป็นการชนรั้วบ้าน ขอบถนน กระถางต้นไม้ ไม่ว่าตัวท่านเองจะมีใบขับขี่หรือไม่ก็ตาม ทางประกันจะทำหน้าที่เป็นคนจ่ายทั้งหมด แต่ความแตกต่างสำหรับผู้ที่มีใบขับขี่และไม่มีใบขับขี่นั่นก็คือ

ในกรณีที่คุณไม่มีใบขับขี่ ทางด้านประกันจะทำการซ่อมรถให้คุณเท่านั้น จะไม่ซ่อมรถให้คู่กรณี ถ้าขับรถไปชนท้ายรถคนอื่น แล้วเรามีใบขับขี่ ทางด้านประกันจะทำการซ่อมรถให้ทั้ง 2 คัน

แต่ถ้าหากเป็นประกันชั้น 2 และประกันชั้น 3 เมื่ออาทิตย์ท่านขับรถไปชนอะไรก็แล้วแต่แล้วไม่มีใบประกันรถยนต์ ก็รับผิดชอบหมด ยกเว้นแต่ประกันชั้น 2 ในกรณีที่รถหายหรือว่าเกิดเหตุที่เกี่ยวข้องกับไฟ

2 เ ม ากับประกันภัย ไม่ต้องกังวลใดๆครับ เงื่อนไข ของประกันภัย จะไม่รับผิดชอบให้ท่านต่อเมื่อท่าน เ ม า ในระดับแอลกอออล์เกิน 150 เพราะฉนั้นท่าท่าน เ ม า ไม่มากสิ่งที่ระวังคือตำรวจ พยายามหลีกเลี่ยงการขึ้นโรงพัก การเป่าอลกอฮอล์ เมื่อเกิดเหตุ แรงขนาดเข้าโรงบาล อย่าให้พยาบาลเจาะโลหิตท่าน ถ้าไม่มีหลักฐานการตรวจประกันต้องจ่ายสถานเดียว จำไว้ถ้าท่าน ไม่ เ ม า จนเกินลิมิตประกันจ่ายคุณแน่แต่ระวังข้อหา เ ม า แล้วขับก็พอ (ผมเคย เ ม า แล้วโดนเป่า ออกมาได้ 187 เรียกว่าขับรถไม่ได้แล้วครับ) ใบขับขี่ไม่ต้องซีเรียส โดนจับก็แค่ปรับ

3 โดนชนแล้วหนีท่านที่มีประกันชั้น 1 หรือ 2–3 พลัส หากโดนชนแล้วหนีท่านต้องจำทะเบียนรถคันนั้นให้ได้ แล้วเตรียมใบขับขี่ ถ้าไม่มี ให้หาคนมีใบขับขี่เอาไว้แล้วไปแจ้งความที่ สน ท้องที่นั้น นำใบแจ้งความมาแล้วโทรแจ้งประกัน ประกันจะส่งพนักงาน เครมมาเครมให้ ถ้าท่านไม่ทราบเลขทะเบียนของคนที่ชนท่าน สำหรับ ประกันชั้น 1 ให้แจ้งเป็นชนโน่นชนนี่ไม่มีคู่กรณี ตามสภาพเเผลที่น่าจะเป็น สำหรับ 2-3 พลัส

4 เลขทะเบียน เลขเครื่อง สีรถ ภาษีขาด อธิบายสั้นๆง่ายๆว่าประกันยึดถือเลขตัวถังรถเป็นหลัก ไม่ว่าป้ายไม่ตรง เลขเครื่องไม่ตรง สีไม่ตรง ภาษีขาดต่อ ไม่เกี่ยวข้อง กับประกันภัย ไม่ต้องซีเรียส ไม่ต้องกลัวประกันไม่จ่าย หากเลขตัวรถท่านตรงเป็นอัน แฮปปี้ ยกเว้นกรณีที่ประกันหาเลข ตัวถังรถท่านไม่เจอ ประกันอาจขูดเลขเครื่องของท่านแทน

5 ใบขับขี่โดนยึด หมดอายุ หายหากใบขับขี่โดนยึดให้แสดงใบสั่งแทน ประกันยึดถือแค่ว่าจะไม่คุ้มครองผู้ที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาติ เท่านั้น หากหมดอายุก็แสดงไปใช้ได้ไม่มีปัญหา หากโดนยึดก็แสดงใบสั่ง หากหายถ้ามีสำเนาก็แสดงสำเนาหรือหากไม่มีในวันนั้นในวันที่เอารถเข้าซ่อมก็เตรียมไปด้วยไม่งั้นอดซ่อม และหากหายและไม่มีสำเนาก็ไปทำมาซะแต่ตอนเกิดเหตุต้องแจ้งว่ามีไว้ก่อน ไม่ได้เอามาหรืออะไรก็ว่าไป มีเวลาเรื่อยๆจนกว่าท่านเอารถเข้าซ่อม

6 เวลาเกิดเหตุกลางถนนหากตกลงกันได้ว่าใครผิดใครถูก คนผิดยอมรับผิด ให้เคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุทันที อย่าไปจอดเกะกะชาวบ้าน ไม่จำเป็นต้องรอประกันมาถึง หากไม่รู้ใครผิดให้ตำรวจตัดสินแล้วย้ายรถออกได้ หรือไม่มีตำรวจหากบังเอิญพกสีสเปร์มา ให้พ่นตำแหน่งที่ล้อทั้ง 2 คัน และบริเวณหน้า+ท้าย+ข้างของรถทั้ง 2 คัน ไม่จำเป็นต้องไปโรงพักหากคุยกันได้ ยกเว้นการชนที่มีคู่กรณีมากกว่า 2 คัน ถึงต้องไปโรงพัก และคนที่ผิดต้องโดนปรับข้อหาขับรถโดยประมาท

7 ช่วงล่างกระแทกพัง แมกซ์ดุ้ง ยางบูม และ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ประกันชั้น 1 ต้องจ่ายให้ท่านทุกกรณีแต่ต้องมีใบขับขี่ หากท่านมีอุปกรณ์ตกแต่งราคาแพงต้องการคุ้มครองกรณีสูญหายให้ท่านเตรียมใบเสร็จจากที่ร้านที่ท่านติดตั้ง เช่น แมกซ์ เครื่องเสียง แล้วโทรสอบถามเงื่อนไขการประกันภัย ให้ประกันเพิ่มสลักหลังคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งนั้นๆ ประกันจะคิดเบี้ยท่านเพิ่มแต่ไม่มาก แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องหายก็ไม่ต้อง เพราะหากแค่เสียหายก็ยังเหลือซากให้เห็นอยู่แล้ว ยางที่ถูกกระแทกแรง ประกันจะจ่ายครึ่งเดียวครับ พวกยางแพงๆขอบ 19-20 ก็จัดไปส่วนที่เป็น 2-3 พลัส อดครับ เว้นแต่ความเสียหายนั้นสืบเนื่องมากจากการชนกับของรถที่มีทะเบียน เช่น รถท่านโดนปาดหน้าจนเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ ตกคลอง กระแทกฟุตบาต แบบนี้ประกันก็ต้องวซ่อมให้ท่านครับไม่ใช่แค่แผลที่เกิดจากการปะทะระหว่างรถกับรถ

8 ประกันชั้น1เคลมสีรถแล้วจะเปลี่ยนสีสามารถทำได้ครับโดยให้แจ้งประกันว่าจะเปลี่ยนสี ประกันยึดหลักการว่า เกิดเหตุจริง ซ่อมจริง หากคุณจะเปลี่ยนสีก็ไม่ใช่ปัญหา

9 เคลมอะไหล่แล้วต้องการปลี่ยนเป็นอะไหล่แต่ง สามารถทำได้ครับ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย กันชน สเกิร์ต โดยการเพิ่มเงิน ส่วนต่าง ถ้าอู่นั้นโอเคกับท่าน หรือมีอู่ที่ใช้ประจำก็ให้อู่ทำใบเสนอราคาแล้วนำรถไปที่บริษัทเพื่อคุมราคา (ตกลงราคา) แล้วก็จัดซ่อมเอง ทีนี้จะเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนโลด เสร็จแล้วประกันจะโอนเงินค่าซ่อมคืนให้กับท่าน

10 ในทุกๆครั้งที่เราได้รับใบแจ้งความเสียหาย หรือว่าได้รับใบเคลม ตัวท่านเองจะต้องทำการตรวจสอบความเสียหายให้ตรงกับตามใบแจ้งมา ให้ตรงตามจำนวนชิ้นให้แน่นอนก่อนที่จะเซ็น หากผิดให้ทำการแย้งและแก้ไขในรายการโดยทันที ไม่อย่างนั้นส่วนที่ไม่ได้ลงตามใบท่านอาจจะต้องเป็นคนจัดการเองทั้งหมด

ในกรณีที่มีเเผลเก่าหรือเเผลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น ทางประกันจะทำการวงเล็บว่าเป็นเเผลเก่า นั่นแปลว่าประกันจะทำการจัดการให้ครึ่งราคา ประกันจะไม่รับผิดชอบเต็มจำนวนท่านจะต้องร่วมจ่ายด้วย

เมื่อรู้กันแบบนี้แล้ว คนที่ใช้รถใช้ถนน คนขับขี่รถทุกคนควรที่จะต้องรู้และทำความเข้าใจ เกี่ยวกับประกันรถยนต์ให้เป็นอย่างดี เพราะจะได้ไม่เสียสิทธิ์ที่ประโยชน์ของตนเองที่ควรที่จะได้รับ

เรียบเรียงโดย : Postsod

ขอขอบคุณ : Jirarat Nuanmai