แม้ผู้หญิงเราจะไม่ได้ตั้งใจพูดมันออกมา แต่จะบอกว่าพอผู้ชายได้ยิน มันช่างเป็นอะไรที่ทิ่มแทงอารมณ์และบาดความรู้สึกของเขาสุดๆ ค่ะ
1."ถามจริงเถอะ ชอบผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่"
อันนี้เป็นคำถามสุดปรามาศที่มำร้ายจิตใจผู้ชายทั้งแท่งได้ เพราะมันเป็นความไม่มั่นใจในตัวผู้ชายถึงการแสดงออกในที่แจ้งว่าเขาเป็น ผู้ชายทั้งแท่งจริงๆ หรือมีแนวโน้มว่าตัวและกายจะเป็นชายแต่ใจเกินหญิงกันแน่ ผู้ชายหลายคนอันต้องเป็นเดือดเป็นรอน เมื่อเจอคำถามถึงเรื่องรสนิยมทางเพศแบบนี้ แต่ทราบหรือไม่ว่าผู้ชายหลายคนก็ชอบที่จะทำตัวคลุมเครือแบบนี้ ทั้งที่รสนิยมทางเพศของเขาหาได้เป็นอื่น เหตุก็เพราะเขาจะได้ฉวยโอกาสความคลุมเครือไม่แน่ใจของผู้หญิงได้มีความสุข กับการอยู่ในวงล้อมของผู้หญิงแบบที่พวกเราไม่มีเหตุต้องระแวงเขา
2."แฟนเก่าฉันไม่เคยทำกับฉันแบบนี้"
ผู้ชายจะโดนด่าโดนขอดอย่างไรก็ไม่ว่า ที่สำคัญห้ามเอาคนอื่นมาเปรียบเปรยกับแฟนเก่าของคุณเป็นเด็ดขาด เพราะนอกจากมันจะทำให้เขารู้สึกโมโหกับการเอาเขาไปเปรียบกับคนรักเก่าที่ บ้านเกิดของคุณแล้ว เขายังรู้สึกว่าคุณไม่ให้เกรียรติเขาอีกต่างหาก ที่สำคัญเขาอาจจะตอกกลับมาว่า "ถ้ามันดีจริงแล้วเลิกกับมันมาทำไม" อันนี้อาจทำให้คุณหน้าชาเพราะความปากไวใจเร็วไปหน่อยก็ได้
3."คุณกำลังคิดอะไรอยู่"
แน่นอน อาการสอดรู้สอดเห็นของสาวๆ เป็นเรื่องปกติ ในขณะที่ผู้ชายจะชอบใช้ความคิดเป็นส่วนตัว แต่หากคุณๆ โพล่งประโยคคำถามนี้ขึ้นมามันหมายถึงความไม่ชอบมาพากลอันชวนน่าสงสัยว่าเขา อาจกำลังคิดแผนไม่ซื่อหรือมีท่าทีเจ้าเล่ห็เพทุบาย การถายแบบนี้อาจสร้างความอึดอัดคับข้องใจถึงสภาพความไม่ไว้วางใจกันและกัน แต่เรื่องแบบนี้ ผู้หญองเรามีเซ้นส์ค่ะเพราะเวลารู้สึกว่าผู้ชายเริ่มคิดเรื่องไม่ชอบมาพากล ทีไร มันมักมีเรื่องที่ชวนเป็นเรื่องเกิดขึ้นตามมาทุกที
4."คุณว่าผู้หญิงคนนั้นน่ารักไหม"
ประโยคคำถามที่ถามถึงสาวตาโตแก้วป่อง ใส่มินิสเกิร์ต ผมยาวสลวยที่กำลังเดินผ่านคุณทั้งคู่ หากคุณผู้บอกว่า ไม่น่ารักเลย เราก็จะหาว่าเขาโกหก หรือถ้าเขาบอกว่า น่ารัก เราก็จะตะบึงตะบอนงอลเขา จะตอบว่า Yes หรือ No ก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูก อารมณ์คนถามทังนั้นแหละ ซึ้งผู้ชายก็ทราบดีและฉงนสงสัยว่าผู้หญิงจะถามให้เป็นเรื่องทำไม แต่ผู้ชายหลายคนก็เอาตัวรอดด้วยการตอบว่า "ก็น่ารักอยู่ แต่แต่คนที่ผมกุมมือเดินอยู่เนี่ยออกจะน่ารักมากมายกว่าเป็นไหนๆ แล้วจะมองคนอื่นไปทำไมล่ะ" เพียงเท่านี้ ผู้หญิงเรามีอันต้องหน้าแดงและแสดงออกถึงความแฮปปี้สุดๆ กับคำหวาน (ที่จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้)ของผู้ชายค่ะ
5."เราเลิกกันดีมั้ย"
สำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลาย ประโยคชวนเลิกราแบบนี้มักเป็นประโยคไม้ตายที่ต้องทำให้เหล่าผู้ชายต้อง แดดิ้นกลัวสิ้นความสัมพันธ์เวลาที่ผู้หญิงขอร้องให้ผู้ชายประพฤติหรือ ปฏิบัติตัวอยู่ในกรอบที่พวกเราต้องการแล้วพวกเขาไม่ทำตาม ไม่อ่อนที่พวกเราอุตส่าห์ออดอ้อนเขาด้วยลีลาผู้ดีวจีไพเราะ เราก็มักหันมาหาไม้แข็งด้วยวิธีอื่นๆ และถ้าไม้แข็งก็ใช้ไม่ได้ผล เราก็จบลงด้วยการฟาดพวกเขาด้วยไม้หน้าสามแบบท้าชวนเลิกกันให้จบๆ เหตุไปเลย ผู้ชายแรกๆ ก็กลัวอยู่บ้างแต่พอเราใช้บ่อยๆ เขาก็จะเริ่มรู้สึกว่า ที่แท้ปากกับใจของเราไม่ตรงกัน เพราะมันเป็นแค่คำขู่ท้าชวนเลิกแต่ผู้ชายรับคำท้าจริงๆ ก็ร้องห่มร้องหายกระจองอแงหาว่าเขาไม่รัก ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายปากบอนชวนเขาหักสวาทตัดสัมพันธ์ก่อน
1."ถามจริงเถอะ ชอบผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่"
อันนี้เป็นคำถามสุดปรามาศที่มำร้ายจิตใจผู้ชายทั้งแท่งได้ เพราะมันเป็นความไม่มั่นใจในตัวผู้ชายถึงการแสดงออกในที่แจ้งว่าเขาเป็น ผู้ชายทั้งแท่งจริงๆ หรือมีแนวโน้มว่าตัวและกายจะเป็นชายแต่ใจเกินหญิงกันแน่ ผู้ชายหลายคนอันต้องเป็นเดือดเป็นรอน เมื่อเจอคำถามถึงเรื่องรสนิยมทางเพศแบบนี้ แต่ทราบหรือไม่ว่าผู้ชายหลายคนก็ชอบที่จะทำตัวคลุมเครือแบบนี้ ทั้งที่รสนิยมทางเพศของเขาหาได้เป็นอื่น เหตุก็เพราะเขาจะได้ฉวยโอกาสความคลุมเครือไม่แน่ใจของผู้หญิงได้มีความสุข กับการอยู่ในวงล้อมของผู้หญิงแบบที่พวกเราไม่มีเหตุต้องระแวงเขา
2."แฟนเก่าฉันไม่เคยทำกับฉันแบบนี้"
ผู้ชายจะโดนด่าโดนขอดอย่างไรก็ไม่ว่า ที่สำคัญห้ามเอาคนอื่นมาเปรียบเปรยกับแฟนเก่าของคุณเป็นเด็ดขาด เพราะนอกจากมันจะทำให้เขารู้สึกโมโหกับการเอาเขาไปเปรียบกับคนรักเก่าที่ บ้านเกิดของคุณแล้ว เขายังรู้สึกว่าคุณไม่ให้เกรียรติเขาอีกต่างหาก ที่สำคัญเขาอาจจะตอกกลับมาว่า "ถ้ามันดีจริงแล้วเลิกกับมันมาทำไม" อันนี้อาจทำให้คุณหน้าชาเพราะความปากไวใจเร็วไปหน่อยก็ได้
3."คุณกำลังคิดอะไรอยู่"
แน่นอน อาการสอดรู้สอดเห็นของสาวๆ เป็นเรื่องปกติ ในขณะที่ผู้ชายจะชอบใช้ความคิดเป็นส่วนตัว แต่หากคุณๆ โพล่งประโยคคำถามนี้ขึ้นมามันหมายถึงความไม่ชอบมาพากลอันชวนน่าสงสัยว่าเขา อาจกำลังคิดแผนไม่ซื่อหรือมีท่าทีเจ้าเล่ห็เพทุบาย การถายแบบนี้อาจสร้างความอึดอัดคับข้องใจถึงสภาพความไม่ไว้วางใจกันและกัน แต่เรื่องแบบนี้ ผู้หญองเรามีเซ้นส์ค่ะเพราะเวลารู้สึกว่าผู้ชายเริ่มคิดเรื่องไม่ชอบมาพากล ทีไร มันมักมีเรื่องที่ชวนเป็นเรื่องเกิดขึ้นตามมาทุกที
4."คุณว่าผู้หญิงคนนั้นน่ารักไหม"
ประโยคคำถามที่ถามถึงสาวตาโตแก้วป่อง ใส่มินิสเกิร์ต ผมยาวสลวยที่กำลังเดินผ่านคุณทั้งคู่ หากคุณผู้บอกว่า ไม่น่ารักเลย เราก็จะหาว่าเขาโกหก หรือถ้าเขาบอกว่า น่ารัก เราก็จะตะบึงตะบอนงอลเขา จะตอบว่า Yes หรือ No ก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูก อารมณ์คนถามทังนั้นแหละ ซึ้งผู้ชายก็ทราบดีและฉงนสงสัยว่าผู้หญิงจะถามให้เป็นเรื่องทำไม แต่ผู้ชายหลายคนก็เอาตัวรอดด้วยการตอบว่า "ก็น่ารักอยู่ แต่แต่คนที่ผมกุมมือเดินอยู่เนี่ยออกจะน่ารักมากมายกว่าเป็นไหนๆ แล้วจะมองคนอื่นไปทำไมล่ะ" เพียงเท่านี้ ผู้หญิงเรามีอันต้องหน้าแดงและแสดงออกถึงความแฮปปี้สุดๆ กับคำหวาน (ที่จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้)ของผู้ชายค่ะ
5."เราเลิกกันดีมั้ย"
สำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลาย ประโยคชวนเลิกราแบบนี้มักเป็นประโยคไม้ตายที่ต้องทำให้เหล่าผู้ชายต้อง แดดิ้นกลัวสิ้นความสัมพันธ์เวลาที่ผู้หญิงขอร้องให้ผู้ชายประพฤติหรือ ปฏิบัติตัวอยู่ในกรอบที่พวกเราต้องการแล้วพวกเขาไม่ทำตาม ไม่อ่อนที่พวกเราอุตส่าห์ออดอ้อนเขาด้วยลีลาผู้ดีวจีไพเราะ เราก็มักหันมาหาไม้แข็งด้วยวิธีอื่นๆ และถ้าไม้แข็งก็ใช้ไม่ได้ผล เราก็จบลงด้วยการฟาดพวกเขาด้วยไม้หน้าสามแบบท้าชวนเลิกกันให้จบๆ เหตุไปเลย ผู้ชายแรกๆ ก็กลัวอยู่บ้างแต่พอเราใช้บ่อยๆ เขาก็จะเริ่มรู้สึกว่า ที่แท้ปากกับใจของเราไม่ตรงกัน เพราะมันเป็นแค่คำขู่ท้าชวนเลิกแต่ผู้ชายรับคำท้าจริงๆ ก็ร้องห่มร้องหายกระจองอแงหาว่าเขาไม่รัก ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายปากบอนชวนเขาหักสวาทตัดสัมพันธ์ก่อน