ดร.ธรณ์ โพสต์ภาพแพขยะยาว
10 กิโลเมตร ลอยกลางทะเล ชี้ประเทศไทยทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลเป็นอันดับ 6
ของโลก ทำภาพลักษณ์ทะเลไทยเสียหาย ไม่โทษภาครัฐ เพราะขยะเกิดจากพวกเราทุกคน
วอนช่วยกันเร่งแก้ไข
จากกรณีที่มีการแชร์ภาพขยะกองโตลอยเกลื่อนทะเลนอกชายฝั่งชุมพรยาวกว่า 10 กิโลเมตร จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการไร้จิตสำนึก และแสดงให้เห็นถึงความมักง่ายของมนุษย์ (อ่านข่าว แชร์ว่อน ! ภาพขยะกองโตเกลื่อนทะเลเมืองชุมพร ฝีมือมนุษย์มักง่าย)
ล่าสุด (8 กุมภาพันธ์ 2560) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นักสมุทรศาสตร์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ภาพขยะจำนวนมหาศาลที่อยู่กลางทะเลดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat พร้อมทั้งยังเขียนข้อความบอกถึงปัญหาขยะที่จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทะเล อันเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้สัตว์ทะเลต้องตายเนื่องจากกินเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่กินได้ นอกจากนี้ ยังได้มีการเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ทั้งปัญหาเฉพาะหน้าและปัญหาระยะยาว
สำหรับข้อความทั้งหมด มีดังนี้
#แพขยะขนาดยักษ์กลางอ่าวไทย ยาว 10 กิโลเมตร นี่คือหลักฐานว่าเราเข้าขั้นวิกฤตในการจัดการปัญหาขยะพลาสติกในทะเล ประเทศไทยทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลเป็นอันดับ 6 ของโลก แล้วเราทำอะไรบ้าง
เรื่องเริ่มจากพี่ชาวประมงใช้ชื่อในเฟซบุ๊ก ป๊ะป๋า วงเวียน เพิ่งไปเจอแพขยะยาว 10 กิโลเมตร ในทะเลนอกชายฝั่งชุมพร จึงโพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก ภาพดังกล่าวใครเห็นก็ต้องเศร้า ต้องตกใจว่าเป็นไปได้หรือ ? ผมเคยบอกเพื่อนธรณ์เสมอ หน่วยงานต่าง ๆ ในโลกเขาเตือนมา ประเทศไทยทิ้งขยะลงทะเลมหาศาล โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่ไม่ย่อยสลาย ส่งผลกระทบรุนแรงต่อทะเล ทำให้ภาพลักษณ์เสียหายย่อยยับ
ขยะทะเลส่งผลต่อสัตว์ทะเลหายาก ที่กินขยะเข้าไปจนตาย โดยเฉพาะเต่าทะเลและลูกโลมา ที่เผลอนึกว่ากินได้ ข้อมูลจากการผ่าพิสูจน์ซากเต่าทะเลที่ตายนับร้อยตัวต่อปี ยืนยันว่าขยะเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญสุด องค์กรสหประชาชาติเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตั้ง SDG ด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะ SDG14 Life Below Water แนวทางต่าง ๆ กล่าวถึงปัญหาขยะทะเล โดยระบุชื่อประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่มีปัญหาขยะทะเลรุนแรงมาก
ขยะเหล่านี้มีที่มาหลายสาเหตุ จากชุมชนบนแผ่นดิน มากับแม่น้ำลำคลองสู่ทะเล จากการท่องเที่ยว การแอบลักลอบทิ้งขยะที่ขนมาจากเกาะแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ แต่ไม่ยอมเอาไปกำจัดจริง ฯลฯ ยังอาจเกิดจากน้ำท่วมใหญ่พัดขยะจากแผ่นดินลงทะเล
แต่ขยะก็คือขยะ หากเป็นขยะ ไม่ลงทะเลในวันนี้ก็เป็นวันหน้า มันสะท้อนให้เราเห็นว่า เรามีขยะพลาสติกมากมายเพียงใด การลดขยะพลาสติก โดยเฉพาะถุงพลาสติกที่ไม่ย่อยสลาย ถือเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ ผมเรียกร้องให้เรามีนโยบายที่ดุเดือดเห็นผลมากกว่า มิใช่ทำแค่การรณรงค์ลดการใช้ถุงที่ได้ผลไม่กี่เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมก็ระบุไว้ชัดเจน คนไทยใช้ถุงพลาสติกวันละ 8 ใบ เมื่อเทียบกับคนยุโรปบางประเทศ ใช้ถุงเดือนละ 3 ใบ (เดือนละ) จีนขายถุงพลาสติกนานแล้วเท่าที่ทราบ เขมรก็กำลังจะขายไม่แจกฟรี แต่เมืองไทยเราทำอะไรบ้าง ยกเว้นเซ็น mou กับรณรงค์ ?
ผมทราบดีว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการกำจัดขยะมาตลอด เช่น โรงไฟฟ้าขยะที่หาดใหญ่ (ตอนนี้รู้สึกจะหยุดทำการชั่วคราว) แต่ถ้าต้นตอยังอยู่ที่การใช้ถุงพลาสติกมหาศาล การจัดการปลายเหตุจะสำเร็จหรือ ? ผมดีใจและสนับสนุนทุกครั้งที่ภาคเอกชนพยายามทำ เช่น ห้างเทสโก้ หรือแม้แต่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่เริ่มขายถุงพลาสติก ทั้งมหิดลและจุฬา โรงพยาบาลที่เลิกให้ถุงยา ต้องมีถุงผ้ามาใส่ ฯลฯ
คำถามมีอยู่ว่า ที่มีอยู่เพียงน้อยนิด แล้วมันจะไหวไหม ในการหยุดขยะ ถ้ามันไหว แพขยะยาว 10 กิโลจะลอยอยู่กลางอ่าวไทยได้อย่างไร ? แพขยะเกิดจากกระแสน้ำหมุนวน ทำให้ขยะมารวมกัน เมื่อเวลาผ่านไป แพขยะก็แตกออก ขยะก็กระจายออกไปทุกทิศทาง นอกจากเราต้องหาทางกำจัดแพขยะ เรายังต้องตอบคำถาม
คำถามคือขยะมาจากไหน ? แล้วเราจะหยุดขยะเหล่านั้นหรือทำให้ลดน้อยลงอย่างจริงจังได้อย่างไร ? ภาพลักษณ์ทะเลไทยจะสูญเสียแค่ไหน หากเรือนักท่องเที่ยววิ่งผ่าน หากภาพนี้เผยแพร่ไปตามเว็บไซต์ท่องเที่ยวต่าง ๆ เราจะมีทางไหนในการกอบกู้ ปีนี้เราเน้นการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ด้วยการต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยแพขยะยักษ์ ? (คาดว่ามีชาวต่างชาติกว่า 25.6 ล้านคนไปเที่ยวทะเล)
สารพัดปัญหาตามเข้ามา ไม่มีที่สิ้นสุด ตั้งแต่ระดับ UN การท่องเที่ยว สัตว์หายาก การประมง (จับขยะได้มากกว่าปลา) ผมมั่นใจว่า ในอีกไม่นาน ปัญหาขยะทะเลจะถูกนำมาพูดในเรื่องเวทีการค้าโลก เหมือนกับก๊าซเรือนกระจก เพราะถุงจากแม่น้ำเจ้าพระยาลอยไปได้ไกลถึงกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ข้ามไปอเมริกา ฯลฯ อย่าลืมว่าทะเลเชื่อมต่อกันหมด คนทั้งโลกเขาไม่ยอมดูขยะที่เกิดจากน้ำมือคนไทย มาติดอยู่บนหาดหน้าบ้านเขาหรอกครับ
ประเทศเราปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่มากเมื่อเทียบกับประเทศใหญ่ แต่เรื่องขยะพลาสติก เราอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย และเสียเปรียบในการเจรจามากกว่าเยอะ จึงรอวันที่ภาครัฐจะจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง ด้วยนโยบายที่กล้าหาญ ด้วยยุทธศาสตร์ที่ชี้วัดผลด้วยสายตาว่าสำเร็จ ไม่ใช่มีแต่ยุทธศาสตร์ แต่หลักฐานที่ตาเห็นไม่เป็นเช่นนั้น หลักฐานยาว 10 กิโลเมตรกำลังลอยตุ๊บป่องอยู่กลางทะเลไทย...มันเกินจะรับไหวแล้วครับ
หมายเหตุ : ไม่ได้โทษแต่ภาครัฐ เพราะขยะเกิดจากพวกเราทุกคน การแก้ไขต้องช่วยกัน ใครทำอะไรได้ต้องทำ มิใช่รอคอยเพียงรัฐบาล แต่อยากเห็นนโยบายที่ชัดเจนกว่านี้ในการจัดการปัญหา จะเริ่มจากบางพื้นที่นำร่อง บางแนวทาง อะไรก็ได้ ทราบดีว่าท่านนายกฯ ท่านรมต. และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ล้วนทราบปัญหา พยายามหาทางแก้ เหนื่อยด้วยกันทั้งนั้น แต่ด้วยแนวทางเท่าที่มีอยู่ มันยังได้ผลไม่พอครับ
อัพเดท : ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำนายทิศทางแพขยะไม่น่าเข้าฝั่ง แต่คงต้องหาวิธีจัดการอย่างเร่งด่วน ถ้าจะเก็บคงต้องใช้เรืออวนล้อมแล้วนำมากำจัดบนฝั่งอย่างถูกต้อง อย่างน้อยก็ลดปัญหา ช่วยสัตว์ทะเลหายากให้รอดตายได้ และยังป้องกันขยะกระจายเข้าฝั่งส่งปัญหาต่อชายหาดและการท่องเที่ยวครับ
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat, เฟซบุ๊ก ป๊ะป๋า วงเวียน
จากกรณีที่มีการแชร์ภาพขยะกองโตลอยเกลื่อนทะเลนอกชายฝั่งชุมพรยาวกว่า 10 กิโลเมตร จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการไร้จิตสำนึก และแสดงให้เห็นถึงความมักง่ายของมนุษย์ (อ่านข่าว แชร์ว่อน ! ภาพขยะกองโตเกลื่อนทะเลเมืองชุมพร ฝีมือมนุษย์มักง่าย)
ล่าสุด (8 กุมภาพันธ์ 2560) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นักสมุทรศาสตร์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ภาพขยะจำนวนมหาศาลที่อยู่กลางทะเลดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat พร้อมทั้งยังเขียนข้อความบอกถึงปัญหาขยะที่จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทะเล อันเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้สัตว์ทะเลต้องตายเนื่องจากกินเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่กินได้ นอกจากนี้ ยังได้มีการเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ทั้งปัญหาเฉพาะหน้าและปัญหาระยะยาว
#แพขยะขนาดยักษ์กลางอ่าวไทย ยาว 10 กิโลเมตร นี่คือหลักฐานว่าเราเข้าขั้นวิกฤตในการจัดการปัญหาขยะพลาสติกในทะเล ประเทศไทยทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลเป็นอันดับ 6 ของโลก แล้วเราทำอะไรบ้าง
เรื่องเริ่มจากพี่ชาวประมงใช้ชื่อในเฟซบุ๊ก ป๊ะป๋า วงเวียน เพิ่งไปเจอแพขยะยาว 10 กิโลเมตร ในทะเลนอกชายฝั่งชุมพร จึงโพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก ภาพดังกล่าวใครเห็นก็ต้องเศร้า ต้องตกใจว่าเป็นไปได้หรือ ? ผมเคยบอกเพื่อนธรณ์เสมอ หน่วยงานต่าง ๆ ในโลกเขาเตือนมา ประเทศไทยทิ้งขยะลงทะเลมหาศาล โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่ไม่ย่อยสลาย ส่งผลกระทบรุนแรงต่อทะเล ทำให้ภาพลักษณ์เสียหายย่อยยับ
ขยะทะเลส่งผลต่อสัตว์ทะเลหายาก ที่กินขยะเข้าไปจนตาย โดยเฉพาะเต่าทะเลและลูกโลมา ที่เผลอนึกว่ากินได้ ข้อมูลจากการผ่าพิสูจน์ซากเต่าทะเลที่ตายนับร้อยตัวต่อปี ยืนยันว่าขยะเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญสุด องค์กรสหประชาชาติเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตั้ง SDG ด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะ SDG14 Life Below Water แนวทางต่าง ๆ กล่าวถึงปัญหาขยะทะเล โดยระบุชื่อประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่มีปัญหาขยะทะเลรุนแรงมาก
ขยะเหล่านี้มีที่มาหลายสาเหตุ จากชุมชนบนแผ่นดิน มากับแม่น้ำลำคลองสู่ทะเล จากการท่องเที่ยว การแอบลักลอบทิ้งขยะที่ขนมาจากเกาะแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ แต่ไม่ยอมเอาไปกำจัดจริง ฯลฯ ยังอาจเกิดจากน้ำท่วมใหญ่พัดขยะจากแผ่นดินลงทะเล
แต่ขยะก็คือขยะ หากเป็นขยะ ไม่ลงทะเลในวันนี้ก็เป็นวันหน้า มันสะท้อนให้เราเห็นว่า เรามีขยะพลาสติกมากมายเพียงใด การลดขยะพลาสติก โดยเฉพาะถุงพลาสติกที่ไม่ย่อยสลาย ถือเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ ผมเรียกร้องให้เรามีนโยบายที่ดุเดือดเห็นผลมากกว่า มิใช่ทำแค่การรณรงค์ลดการใช้ถุงที่ได้ผลไม่กี่เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมก็ระบุไว้ชัดเจน คนไทยใช้ถุงพลาสติกวันละ 8 ใบ เมื่อเทียบกับคนยุโรปบางประเทศ ใช้ถุงเดือนละ 3 ใบ (เดือนละ) จีนขายถุงพลาสติกนานแล้วเท่าที่ทราบ เขมรก็กำลังจะขายไม่แจกฟรี แต่เมืองไทยเราทำอะไรบ้าง ยกเว้นเซ็น mou กับรณรงค์ ?
ผมทราบดีว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการกำจัดขยะมาตลอด เช่น โรงไฟฟ้าขยะที่หาดใหญ่ (ตอนนี้รู้สึกจะหยุดทำการชั่วคราว) แต่ถ้าต้นตอยังอยู่ที่การใช้ถุงพลาสติกมหาศาล การจัดการปลายเหตุจะสำเร็จหรือ ? ผมดีใจและสนับสนุนทุกครั้งที่ภาคเอกชนพยายามทำ เช่น ห้างเทสโก้ หรือแม้แต่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่เริ่มขายถุงพลาสติก ทั้งมหิดลและจุฬา โรงพยาบาลที่เลิกให้ถุงยา ต้องมีถุงผ้ามาใส่ ฯลฯ
คำถามมีอยู่ว่า ที่มีอยู่เพียงน้อยนิด แล้วมันจะไหวไหม ในการหยุดขยะ ถ้ามันไหว แพขยะยาว 10 กิโลจะลอยอยู่กลางอ่าวไทยได้อย่างไร ? แพขยะเกิดจากกระแสน้ำหมุนวน ทำให้ขยะมารวมกัน เมื่อเวลาผ่านไป แพขยะก็แตกออก ขยะก็กระจายออกไปทุกทิศทาง นอกจากเราต้องหาทางกำจัดแพขยะ เรายังต้องตอบคำถาม
คำถามคือขยะมาจากไหน ? แล้วเราจะหยุดขยะเหล่านั้นหรือทำให้ลดน้อยลงอย่างจริงจังได้อย่างไร ? ภาพลักษณ์ทะเลไทยจะสูญเสียแค่ไหน หากเรือนักท่องเที่ยววิ่งผ่าน หากภาพนี้เผยแพร่ไปตามเว็บไซต์ท่องเที่ยวต่าง ๆ เราจะมีทางไหนในการกอบกู้ ปีนี้เราเน้นการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ด้วยการต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยแพขยะยักษ์ ? (คาดว่ามีชาวต่างชาติกว่า 25.6 ล้านคนไปเที่ยวทะเล)
สารพัดปัญหาตามเข้ามา ไม่มีที่สิ้นสุด ตั้งแต่ระดับ UN การท่องเที่ยว สัตว์หายาก การประมง (จับขยะได้มากกว่าปลา) ผมมั่นใจว่า ในอีกไม่นาน ปัญหาขยะทะเลจะถูกนำมาพูดในเรื่องเวทีการค้าโลก เหมือนกับก๊าซเรือนกระจก เพราะถุงจากแม่น้ำเจ้าพระยาลอยไปได้ไกลถึงกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ข้ามไปอเมริกา ฯลฯ อย่าลืมว่าทะเลเชื่อมต่อกันหมด คนทั้งโลกเขาไม่ยอมดูขยะที่เกิดจากน้ำมือคนไทย มาติดอยู่บนหาดหน้าบ้านเขาหรอกครับ
ประเทศเราปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่มากเมื่อเทียบกับประเทศใหญ่ แต่เรื่องขยะพลาสติก เราอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย และเสียเปรียบในการเจรจามากกว่าเยอะ จึงรอวันที่ภาครัฐจะจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง ด้วยนโยบายที่กล้าหาญ ด้วยยุทธศาสตร์ที่ชี้วัดผลด้วยสายตาว่าสำเร็จ ไม่ใช่มีแต่ยุทธศาสตร์ แต่หลักฐานที่ตาเห็นไม่เป็นเช่นนั้น หลักฐานยาว 10 กิโลเมตรกำลังลอยตุ๊บป่องอยู่กลางทะเลไทย...มันเกินจะรับไหวแล้วครับ
หมายเหตุ : ไม่ได้โทษแต่ภาครัฐ เพราะขยะเกิดจากพวกเราทุกคน การแก้ไขต้องช่วยกัน ใครทำอะไรได้ต้องทำ มิใช่รอคอยเพียงรัฐบาล แต่อยากเห็นนโยบายที่ชัดเจนกว่านี้ในการจัดการปัญหา จะเริ่มจากบางพื้นที่นำร่อง บางแนวทาง อะไรก็ได้ ทราบดีว่าท่านนายกฯ ท่านรมต. และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ล้วนทราบปัญหา พยายามหาทางแก้ เหนื่อยด้วยกันทั้งนั้น แต่ด้วยแนวทางเท่าที่มีอยู่ มันยังได้ผลไม่พอครับ
อัพเดท : ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำนายทิศทางแพขยะไม่น่าเข้าฝั่ง แต่คงต้องหาวิธีจัดการอย่างเร่งด่วน ถ้าจะเก็บคงต้องใช้เรืออวนล้อมแล้วนำมากำจัดบนฝั่งอย่างถูกต้อง อย่างน้อยก็ลดปัญหา ช่วยสัตว์ทะเลหายากให้รอดตายได้ และยังป้องกันขยะกระจายเข้าฝั่งส่งปัญหาต่อชายหาดและการท่องเที่ยวครับ
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat, เฟซบุ๊ก ป๊ะป๋า วงเวียน