กำหนดแล้ว!! วัดประจำรัชกาล ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือวัดแห่งนี้...
ตามที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ในเรื่องกำหนดวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยระบุว่า
พระราชพิธีจะมีทั้งหมด 5 วัน ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าเป็นไหน แต่วันที่ 1 มีขั้นตอนคือการออกพระเมรุ ในเวลา 17.30 น. วันที่ 2 วันถวายพระเพลิง ซึ่งจะมีพระราชพิธี 3 ช่วง คือ เช้ามืดอัญเชิญพระบรมโกศ ขึ้นพระราชยานเข้าขบวนแห่ไปตรงหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ก่อนเปลี่ยนขึ้นราชรถเชิญไปสู่ท้องสนามหลวง ช่วงที่สองคือถวายพระเพลิงในเวลา 17.30 น.และช่วงที่สาม เวลา 22.00 น.เป็นการถวายพระเพลิงจริง จากนั้นวันที่ 3 เสด็จพระราชดำเนินเก็บพระบรมอัฐิ ก่อนนำเข้าขบวนกลับพระบรมมหาราชวังในเวลา 7.00 น.วันที่ 4 พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ ในเวลา 17.30 น.และวันที่ 5 ช่วงเช้าเชิญพระบรมอัฐิขึ้นพระวิมาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อนำไปเก็บไว้ในห้องพระ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิพระเจ้าแผ่นดินทุกรัชกาล และช่วงเย็นจะอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร เชิญเข้าขบวนแห่อิสริยยศไปประดิษฐานที่วัดพระราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ซึ่งจะถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 9
วัดบวรนิเวศวิหาร หรือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ได้มีพระดำริโปรดให้สร้างขึ้น เป็นที่ประทับของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกและเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
วัดบวรนิเวศวรวิหารนั้นมีความเกี่ยวข้องกับในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างมาก เพราะเมื่ครั้งปีพุทธศักราช 2499 พระองค์ทรงผนวช พระองค์ทรงจำวัดที่ วัดบวรนิเวศมหาวิหารแห่งนี้ พร้อมกันนั้นทรงปลูกต้นสัก เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวันทรงลาผนวชบริเวณด้านหน้าของพระตำหนักใหญ่ อีกด้วย
ตามที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ในเรื่องกำหนดวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยระบุว่า
พระราชพิธีจะมีทั้งหมด 5 วัน ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าเป็นไหน แต่วันที่ 1 มีขั้นตอนคือการออกพระเมรุ ในเวลา 17.30 น. วันที่ 2 วันถวายพระเพลิง ซึ่งจะมีพระราชพิธี 3 ช่วง คือ เช้ามืดอัญเชิญพระบรมโกศ ขึ้นพระราชยานเข้าขบวนแห่ไปตรงหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ก่อนเปลี่ยนขึ้นราชรถเชิญไปสู่ท้องสนามหลวง ช่วงที่สองคือถวายพระเพลิงในเวลา 17.30 น.และช่วงที่สาม เวลา 22.00 น.เป็นการถวายพระเพลิงจริง จากนั้นวันที่ 3 เสด็จพระราชดำเนินเก็บพระบรมอัฐิ ก่อนนำเข้าขบวนกลับพระบรมมหาราชวังในเวลา 7.00 น.วันที่ 4 พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ ในเวลา 17.30 น.และวันที่ 5 ช่วงเช้าเชิญพระบรมอัฐิขึ้นพระวิมาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อนำไปเก็บไว้ในห้องพระ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิพระเจ้าแผ่นดินทุกรัชกาล และช่วงเย็นจะอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร เชิญเข้าขบวนแห่อิสริยยศไปประดิษฐานที่วัดพระราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ซึ่งจะถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 9
วัดบวรนิเวศวิหาร หรือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ได้มีพระดำริโปรดให้สร้างขึ้น เป็นที่ประทับของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกและเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
วัดบวรนิเวศวรวิหารนั้นมีความเกี่ยวข้องกับในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างมาก เพราะเมื่ครั้งปีพุทธศักราช 2499 พระองค์ทรงผนวช พระองค์ทรงจำวัดที่ วัดบวรนิเวศมหาวิหารแห่งนี้ พร้อมกันนั้นทรงปลูกต้นสัก เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวันทรงลาผนวชบริเวณด้านหน้าของพระตำหนักใหญ่ อีกด้วย