น่ากลัวมากๆ ครอบครัวที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องดู!
เพราะสิ่งที่พบในตาของหนูน้อยวัย 1 ปี 5 เดือน รายนี้
อาจเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้คนเป็นพ่อแม่ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ลูกน้อย
ที่มักไปปล่อยให้ไปคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงในบ้านเป็นเวลานานๆ
เริ่มแรกนั้นพ่อแม่ได้สังเกตว่าลูกชอบเอามือขยี้ตาอยู่บ่อยๆ
จนรู้สึกได้ว่าตาเริ่มแดง
จึงเข้าใจว่าอาจมีเศษฝุ่นหรืออะไรบางอย่างที่ทำให้ลูกเกิดอาการระคายเคืองตา
ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจพาลูกไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
หลังจากที่แพทย์ได้ตรวจดูดวงตาของหนูน้อยก็พบว่ามีสิ่งผิดปกติบางอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นสิ่งมีชีวิตเพราะมันสามารถเคลื่อนย้ายตัวจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ ด้วยเหตุนี้แพทย์จึงได้จัดการดึงเอาเจ้าตัวประหลาดดังกล่าวออกมาจากดวงตาของหนูน้อย และก็พบว่ามันมีความยาวประมาณ 1-2 ซม. และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 มล. หรืออาจมากกว่านั้น
ต่อมาจึงได้นำเอาตัวประหลาดที่พบไปตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญจึงทำให้ทราบว่ามันคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า เทลาซิเอซิส (Thelaziasis) เป็นปาราสิตที่อาศัยอยู่ในดวงตา หรือนิยมเรียกันอีกอย่างว่า โรคพยาธิในตา นั่นเอง โดยเจ้าตัวปาราสิตดังกล่าวสามารถพบได้มากในจมูกและช่องปากของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว หรืออาจพบในนกในถุงลม และอาจพบที่กระเพาะลมหรือลำไส้ของปลา เป็นต้น
สำหรับอาการเบื้องต้นที่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเราอาจติดเชื้อปาราสิต หรือ พยาธิ ดังกล่าว ก็คือ ผู้ป่วยจะมีอาการระคายเคืองที่ดวงตา บางคนอาจมีขี้ตามาก และหากมีการเคลื่อนตัวของพยาธิก็อาจทำให้เกิดการขุ่นมัวของม่านตา
เบื้องต้นแพทย์ได้วินิจฉัยว่าหนูน้อยรายนี้น่าจะติดพยาธิมาจากสัตว์เลี้ยงในบ้าน ซึ่งอาจมาจากการที่ปากหรือจมูกของสัตว์ แล้วเผลอเอามือมาขยี้หรือจับที่ตาของตัวเอง จนกระทั่งทำให้เกิดการติดเชื้อพยาธิในที่สุด
หลังจากที่แพทย์ได้ตรวจดูดวงตาของหนูน้อยก็พบว่ามีสิ่งผิดปกติบางอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นสิ่งมีชีวิตเพราะมันสามารถเคลื่อนย้ายตัวจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ ด้วยเหตุนี้แพทย์จึงได้จัดการดึงเอาเจ้าตัวประหลาดดังกล่าวออกมาจากดวงตาของหนูน้อย และก็พบว่ามันมีความยาวประมาณ 1-2 ซม. และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 มล. หรืออาจมากกว่านั้น
ต่อมาจึงได้นำเอาตัวประหลาดที่พบไปตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญจึงทำให้ทราบว่ามันคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า เทลาซิเอซิส (Thelaziasis) เป็นปาราสิตที่อาศัยอยู่ในดวงตา หรือนิยมเรียกันอีกอย่างว่า โรคพยาธิในตา นั่นเอง โดยเจ้าตัวปาราสิตดังกล่าวสามารถพบได้มากในจมูกและช่องปากของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว หรืออาจพบในนกในถุงลม และอาจพบที่กระเพาะลมหรือลำไส้ของปลา เป็นต้น
สำหรับอาการเบื้องต้นที่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเราอาจติดเชื้อปาราสิต หรือ พยาธิ ดังกล่าว ก็คือ ผู้ป่วยจะมีอาการระคายเคืองที่ดวงตา บางคนอาจมีขี้ตามาก และหากมีการเคลื่อนตัวของพยาธิก็อาจทำให้เกิดการขุ่นมัวของม่านตา
เบื้องต้นแพทย์ได้วินิจฉัยว่าหนูน้อยรายนี้น่าจะติดพยาธิมาจากสัตว์เลี้ยงในบ้าน ซึ่งอาจมาจากการที่ปากหรือจมูกของสัตว์ แล้วเผลอเอามือมาขยี้หรือจับที่ตาของตัวเอง จนกระทั่งทำให้เกิดการติดเชื้อพยาธิในที่สุด