ระวัง! ยาแก้ปวดไมเกรนห้ามรับประทานกับ 5 อย่างดังต่อไปนี้ ไม่งั้นชีวิตอาจจบ

ระวัง!ใช้ยาไมเกรนผิด ชีวิตอาจจบ ยาแก้ปวดไมเกรนห้ามรับประทานกับ 5 อย่างดังต่อไปนี้

ไมเกรนเป็นโรคปวดหัวชนิดหนึ่งที่พบไม่บ่อยแต่พบได้เรื่อยๆปัญหาในประเทศไทยคือ หลายคนเรียกโรคนี้ว่าปวดหัวข้างเดียว ทำให้เกิดการเหมาไปว่าหากปวดหัวข้างเดียวแปลว่าเป็นไมเกรน ทั้งที่ความจริงแล้วปวดหัวข้างเดียวส่วนใหญ่เกิดจากการปวดกล้ามเนื้อหรืออวัยวะที่อยู่รอบๆศีรษะ

ยาในกลุ่ม Ergot ซึ่งใช้รักษาไมเกรนที่กินยาแก้ปวดชนิดอื่นไม่หาย เป็นยาที่รักษาไมเกรนได้ แต่ก็มีผลข้างเคียงที่ต้องระวังคือ มันมีฤทธิ์หดหลอดเลือดได้ ดังนั้นในกรณีได้ยามากเกินไปหรือยาออกฤทธิ์มากเกินไป ก็จะเกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ เช่น แขนขาขาดเลือดจนต้องตัดทิ้ง หรือ เส้นเลือดสมองตีบ



ยาที่มีผลเสริมฤทธิ์ของยากลุ่ม Ergot ห้ามใช้ร่วมกัน ได้แก่


1. Protease inhibitor เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี
2. ยากลุ่มฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน
3. ยาฆ่าเชื้อในกลุ่ม Macrolide เช่น Clarithromycin
4. น้ำ Grapefruit (ซึ่งทำให้อาจจะต้องระวังน้ำส้มโอไปด้วย)
5. ยาต้านอาการซึมเศร้าบางชนิด เช่นf luoxetine (บางตัวอยู่ในยากลุ่มที่ใช้ลดความอ้วน)

ปัญหามักจะไม่เกิดในโรงพยาบาลที่มีระบบสั่งจ่ายยาที่เข้มงวด เพราะว่าพอแพทย์สั่งยาไปแล้วเภสัชตรวจย้อนกลับไปว่ามีการสั่งยาErgotแก้ปวดไมเกรนก่อนหน้านั้น ก็จะระงับการสั่งจ่ายยาแล้วให้แพทย์พิจารณายาใหม่

แต่สำหรับบางกรณีที่มีการเก็บยาเอาไว้กินเองโดยไม่ได้แจ้ง หรือปวดหัวแล้วไปซื้อยามาเก็บไว้กินเอง ก็มีความเสี่ยงที่จะได้ยาใน5กลุ่มข้างบนไปแล้วกินไปพร้อมกันจนเกิดผลข้างเคียงได้ บางรายถูกตัดแขนขา บางรายเป็นอัมพาต

ดังนั้นหากปวดหัว ไม่ควรซื้อยาไมเกรนมากินเองหากป่วยไม่สบายไปรักษา โปรดแจ้งเภสัชและแพทย์เสมอว่ากินยาอะไรอยู่เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่น่ากลัวจนถึงชีวิตนี้ได้นะ

ขอบคุณบทความและรูปภาพ : เพจความรู้สนุกๆแบบหมอแมว