เคล็ดลับรักษากลิ่นเท้า เท้าเหม็นเปรี้ยว ง่ายๆ ด้วยของดีจากครัว
คงไม่มีอะไรน่าอับอายไปกว่าตอนที่ต้องถอดรองเท้าออกก่อนเดินผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ในสนามบิน แล้วจู่ ๆ เจ้าหน้าที่ก็ฉีดสเปรย์หอมปรับอากาศรอบๆ ตัวคุณ
ถ้าเจอแบบนี้ก็ต้องรู้ตัวแล้วล่ะว่าคุณมีกลิ่นเท้าที่ต้องแก้ไขด่วน ปกติแล้วปัญหาเท้าเหม็นมักเกิดกับวัยรุ่น ผู้ชายที่ไม่ค่อยสนใจรักษาสุขอนามัยเท้า แต่ผู้ใหญ่ที่เดินมากและสวมรองเท้าระบายเหงื่อไม่ดีก็เจอปัญหานี้ได้เช่นกัน ไม่เป็นไร ตำรับยาจากครัวช่วยได้ ไม่ช้าเท้าของคุณก็จะไม่ทำให้อับอายต่อหน้าธารกำนัลอีกต่อไป
เกลือเอปซอม, ข้าวโอ๊ต, ขิง, ชาดำ, น้ำตาล, น้ำมันทีทรี, น้ำมันลาเวนเดอร์, น้ำมันเลมอน, น้ำมันเปปเปอร์มินต์, เบกทิ้งโซดา, แป้งข้าวโพด, แป้งคอร์นมีล, ยาปฏิชีวนะชนิดทา, โยเกิร์ต, โรสแมรี, วิตช์เฮเซล, สะระแหน่, เสจ, อาหารอุดมธาตุสังกะสี, แอปเปิลไซเดอร์ ควรทำอะไรก่อน
เพียงรักษาสุขอนามัยเท้าตามคำแนะน่าต่อไปนี้ แล้วคุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเท้าอีกต่อไป
ล้างเท้าบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่อุ่น เลือกใช้สบู่ที่มีคุณสมบัติลดเหงื่อโดยเฉพาะ
ผึ่งเท้าบ่อยๆ เพื่อให้เหงื่อที่เท้าได้ระเหยออกไป
วางรองเท้าในที่โล่ง มีอากาศถ่ายเท ยับยั้งการเติบโตของเชื้อรา
สวมรองเท้าสลับคู่วันเว้นวัน เพื่อให้ความชื้นในรองเท้าแห้งสนิทก่อนจะสวมครั้งต่อไป
สวมถุงเท้าผ้าฝ้ายซึ่งจะดูดซับความชื้นได้ดีกว่าผ้าใยสังเคราะห์
ปัดด้านในของรองเท้าด้วยผงเบกกิ้งโซดา
เมื่อไรควรพบแพทย์
หากรักษาอนามัยเท้าอย่างดี และลองแก้ไขทุกวิธีแล้วเท้ายังมีกลิ่น ควรไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเท้า เพื่อตรวจดูว่ามีสาเหตุจากปัญหาสุขภาพหรือไม่
ทาแป้งข้าวโพด แป้งข้าวโพดจะดูดซับความชื้นที่เท้าได้ดี โรยแป้งให้ทั่วเท้าวันละ 1 หรือ 2 ครั้งก่อนจะสวมถุงเท้า แต่ไม่ควรใช้วิธีนี้ในกรณีที่เท้าอักเสบหรือมีแผลเปิด
แช่เท้าในชาดำ ใช้ชาดำ 2 ถุง ต้มในน้ำ 2 ถ้วยตวงราว 15 นาที นำถุงชาออกและเติมน้ำอีกราว 8 ถ้วยตวง ทิ้งไว้ให้เย็นก่อนจะนำมาแช่เท้าประมาณ 15-30 นาที แช่เท้าในชาดำเป็นประจำทุกวัน กรดแทนนิกในชาจะขจัดแบคทีเรียและช่วยปิดรูขุมขน ทำให้เท้ามีเหงื่อออกน้อยลง อ
น้ำมันหอมทาเท้า น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์นอกจากหอมแล้วยังขจัดแบคทีเรียได้ดี หยดน้ำมันลาเวนเดอร์ 2 หยดลงบนเท้าแล้วถูนวดให้ทั่วก่อนจะเข้านอนโดยสวมถุงเท้า
เกลือเอปซอมลดเหงื่อ ผสมเกลือเอปซอมในน้ำอุ่น 1-2 ลิตร แล้ว แช่เท้าสัก 15 นาที วันละ 1-2 ครั้ง เกลือจะลดการผลิตเหงื่อและยังอาจขจัดแบคทีเรียได้อีกด้วย
เสริมธาตุสังกะสี ผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำว่า การกินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีมากจะช่วยลดกลิ่นเท้าได้ อาหารดังกล่าว ได้แก่ ถั่วชนิดต่างๆ ข้าวโอ๊ต ซีเรียลเสริมธาตุอาหาร อัลมอนด์ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์
แช่เท้าด้วยแอปเปิลไซเดอร์ น้ำยาแช่เท้าสูตรนี้ใช้แอปเปิลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล 1/3 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น 1 อ่างเล็ก กรดในน้ำส้มสายชูหมักจะช่วยลดกลิ่นที่เท้าได้
ลองใช้ยาทาปฏิชีวนะ เหงื่อนั้นไม่มีกลิ่น แต่พอผสมกับแบคทีเรียเข้ากลิ่นก็บังเกิด ลองนึกถึงเหงื่อใต้วงแขนก็จะเห็นภาพชัด แล้วจะฆ่าแบคทีเรียได้อย่างไร? ผู้เชี่ยวชาญด้านตำรับยาพื้นบ้านแนะว่า ก่อนเข้านอน ให้ใช้ยาปฏิชีวนะแบบครีมหรือขี้ผึ้งทาบางๆ ที่เท้าและเล็บเท้า แล้วสวมถุงเท้าเข้านอน ตอนเช้าแบคทีเรียที่เท้าก็จะหายไปพร้อมกับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
รู้ไหมเอ่ย ?
เท้าของเรามีต่อมเหงื่อมากกว่าร่างกายส่วนอื่นๆ ทั้งหมดในร่างกาย
ที่มา...http://www.aroka108.com
คงไม่มีอะไรน่าอับอายไปกว่าตอนที่ต้องถอดรองเท้าออกก่อนเดินผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ในสนามบิน แล้วจู่ ๆ เจ้าหน้าที่ก็ฉีดสเปรย์หอมปรับอากาศรอบๆ ตัวคุณ
ถ้าเจอแบบนี้ก็ต้องรู้ตัวแล้วล่ะว่าคุณมีกลิ่นเท้าที่ต้องแก้ไขด่วน ปกติแล้วปัญหาเท้าเหม็นมักเกิดกับวัยรุ่น ผู้ชายที่ไม่ค่อยสนใจรักษาสุขอนามัยเท้า แต่ผู้ใหญ่ที่เดินมากและสวมรองเท้าระบายเหงื่อไม่ดีก็เจอปัญหานี้ได้เช่นกัน ไม่เป็นไร ตำรับยาจากครัวช่วยได้ ไม่ช้าเท้าของคุณก็จะไม่ทำให้อับอายต่อหน้าธารกำนัลอีกต่อไป
ยาดีจากครัว…ช่วยเรื่อง กลิ่นเท้า
เกลือเอปซอม, ข้าวโอ๊ต, ขิง, ชาดำ, น้ำตาล, น้ำมันทีทรี, น้ำมันลาเวนเดอร์, น้ำมันเลมอน, น้ำมันเปปเปอร์มินต์, เบกทิ้งโซดา, แป้งข้าวโพด, แป้งคอร์นมีล, ยาปฏิชีวนะชนิดทา, โยเกิร์ต, โรสแมรี, วิตช์เฮเซล, สะระแหน่, เสจ, อาหารอุดมธาตุสังกะสี, แอปเปิลไซเดอร์ ควรทำอะไรก่อน
เพียงรักษาสุขอนามัยเท้าตามคำแนะน่าต่อไปนี้ แล้วคุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเท้าอีกต่อไป
ล้างเท้าบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่อุ่น เลือกใช้สบู่ที่มีคุณสมบัติลดเหงื่อโดยเฉพาะ
ผึ่งเท้าบ่อยๆ เพื่อให้เหงื่อที่เท้าได้ระเหยออกไป
วางรองเท้าในที่โล่ง มีอากาศถ่ายเท ยับยั้งการเติบโตของเชื้อรา
สวมรองเท้าสลับคู่วันเว้นวัน เพื่อให้ความชื้นในรองเท้าแห้งสนิทก่อนจะสวมครั้งต่อไป
สวมถุงเท้าผ้าฝ้ายซึ่งจะดูดซับความชื้นได้ดีกว่าผ้าใยสังเคราะห์
ปัดด้านในของรองเท้าด้วยผงเบกกิ้งโซดา
วิธีดูแลรักษาเท้า
เมื่อไรควรพบแพทย์
หากรักษาอนามัยเท้าอย่างดี และลองแก้ไขทุกวิธีแล้วเท้ายังมีกลิ่น ควรไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเท้า เพื่อตรวจดูว่ามีสาเหตุจากปัญหาสุขภาพหรือไม่
ตำรับยาจากครัว
ทาแป้งข้าวโพด แป้งข้าวโพดจะดูดซับความชื้นที่เท้าได้ดี โรยแป้งให้ทั่วเท้าวันละ 1 หรือ 2 ครั้งก่อนจะสวมถุงเท้า แต่ไม่ควรใช้วิธีนี้ในกรณีที่เท้าอักเสบหรือมีแผลเปิด
แช่เท้าในชาดำ ใช้ชาดำ 2 ถุง ต้มในน้ำ 2 ถ้วยตวงราว 15 นาที นำถุงชาออกและเติมน้ำอีกราว 8 ถ้วยตวง ทิ้งไว้ให้เย็นก่อนจะนำมาแช่เท้าประมาณ 15-30 นาที แช่เท้าในชาดำเป็นประจำทุกวัน กรดแทนนิกในชาจะขจัดแบคทีเรียและช่วยปิดรูขุมขน ทำให้เท้ามีเหงื่อออกน้อยลง อ
น้ำมันหอมทาเท้า น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์นอกจากหอมแล้วยังขจัดแบคทีเรียได้ดี หยดน้ำมันลาเวนเดอร์ 2 หยดลงบนเท้าแล้วถูนวดให้ทั่วก่อนจะเข้านอนโดยสวมถุงเท้า
เกลือเอปซอมลดเหงื่อ ผสมเกลือเอปซอมในน้ำอุ่น 1-2 ลิตร แล้ว แช่เท้าสัก 15 นาที วันละ 1-2 ครั้ง เกลือจะลดการผลิตเหงื่อและยังอาจขจัดแบคทีเรียได้อีกด้วย
เสริมธาตุสังกะสี ผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำว่า การกินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีมากจะช่วยลดกลิ่นเท้าได้ อาหารดังกล่าว ได้แก่ ถั่วชนิดต่างๆ ข้าวโอ๊ต ซีเรียลเสริมธาตุอาหาร อัลมอนด์ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์
แช่เท้าด้วยแอปเปิลไซเดอร์ น้ำยาแช่เท้าสูตรนี้ใช้แอปเปิลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล 1/3 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น 1 อ่างเล็ก กรดในน้ำส้มสายชูหมักจะช่วยลดกลิ่นที่เท้าได้
ลองใช้ยาทาปฏิชีวนะ เหงื่อนั้นไม่มีกลิ่น แต่พอผสมกับแบคทีเรียเข้ากลิ่นก็บังเกิด ลองนึกถึงเหงื่อใต้วงแขนก็จะเห็นภาพชัด แล้วจะฆ่าแบคทีเรียได้อย่างไร? ผู้เชี่ยวชาญด้านตำรับยาพื้นบ้านแนะว่า ก่อนเข้านอน ให้ใช้ยาปฏิชีวนะแบบครีมหรือขี้ผึ้งทาบางๆ ที่เท้าและเล็บเท้า แล้วสวมถุงเท้าเข้านอน ตอนเช้าแบคทีเรียที่เท้าก็จะหายไปพร้อมกับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
วิธีดูแลรักษาเท้า
รู้ไหมเอ่ย ?
เท้าของเรามีต่อมเหงื่อมากกว่าร่างกายส่วนอื่นๆ ทั้งหมดในร่างกาย
ที่มา...http://www.aroka108.com