วิธีทำมะนาวออกนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์
ในการบังคับให้มะนาวออกดอกติดผลนอกฤดู ก็คือการทำให้มะนาวออกดอกในเดือนตุลาคม ดังนั้นเดือนกันยายนเกษตรกรผู้ปลูกมะนาวต้องงดปุ๋ย งดน้ำ เพื่อที่จะบังคับมะนาวให้มีผลผลิตนอกฤดู โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ตัดแต่งกิ่งและเด็ดผลมะนาวที่เหลือบนต้นออกให้หมด เพื่อบำรุงต้น เร่งการสร้างยอดใหม่ ใบใหม่ เพราะผลมะนาวที่คุณภาพดีที่สุดคือผลที่เกิดจากยอดใหม่ ผลที่เกิดจากกิ่งเก่าคุณภาพจะด้อยลงมา ผลที่คุณภาพต่ำสุดคือผลที่เกิดติดกิ่ง
2. หลังตัดแต่งกิ่งเสร็จใช้ปุ๋ยเคมี 15 – 15 – 15 ใส่หนึ่งกำมือต่อวง หากไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย ต้นจะไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าที่ควร และพบอาการผลเหลืองที่ไม่ได้เกิดจากอาการม้านแดดมากกว่าปกติ เนื่องจากการให้ผลผลิตในปีที่ผ่านมา ต้นมะนาวใช้ธาตุอาหารในการเลี้ยงลูกในปริมาณที่มากนั้นเอง จึงจำเป็นต้องได้รับปุ๋ยเคมีบ้าง
3. เพิ่มวัสดุปลูกในวงบ่อเนื่องจากในแต่ละปีวัสดุปลูกจะยุบลงผุพังไปบ้างในปีที่ผ่านมา อาจเพิ่มกาบมะพร้าว เศษฟาง ใบไม้ หรือขี้เถ้าแกลบ ซึ่งวัสดุพวกนี้จะช่วยเก็บความชื้นได้เป็นอย่างดีและยังเป็นวัสดุที่ช่วยเก็บรักษาปุ๋ยที่จ่ายมาทางระบบน้ำก่อนจะค่อย ๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารให้ต้นมะนาวใช้ ป้องกันการสูญเสียธาตุอาหารอันเกิดจากการไหลบ่า หรือการระเหย
4. ให้ใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ได้จากการหมักหอยเชอรี่ 30 กก. เศษผลไม้ 10 กก. กากน้ำตาล 10 กก. สารเร่งพด.2 จำนวน 25 กรัม ต่อน้ำ20 ลิตร (สูตรนี้สามารถใช้ฉีดพ่นทางใบ ในอัตรา 20 - 25 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตรได้) ในส่วนของการให้ปุ๋ยชีวภาพทางระบบน้ำนั้น เทคนิคคือใช้ปุ๋ยชีวภาพในอัตรา 5 ลิตร ต่อน้ำ 1,250 ลิตร ให้ทุก 5 - 7 วัน โดยจะให้ครั้งละ 3 – 5 นาที เพื่อให้เศษวัสดุบริเวณโคนต้นชุ่มก็พอ หลังจากนั้นก็ให้น้ำตามปกติ เพราะน้ำจะค่อย ๆ ละลายธาตุอาหารลงไปให้ต้นมะนาวและยังเป็นการใช้ปุ๋ยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
5. ในระยะนี้ต้องดูแลสวนมะนาวให้ดี เนื่องจากมีโรคและแมลงเข้าทำลายในระยะยอดอ่อน คือ เพลี้ยไฟ และโรคแคงเกอร์ ควรใช้สารกำจัดแมลงที่สกัดจากสมุนไพรทางธรรมชาติ เช่น สมุนไพรที่ มีรสเผ็ด ขม เหม็น เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด สะเดา หรือบอระเพ็ด คือให้ใช้สมุนไพรดังกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่ง 30 กก. กากน้ำตาล 10 กก. สารเร่งพด.7 จำนวน 25 กรัม ต่อน้ำ 30 ลิตร หมัก 20 วัน นำมาฉีดพ่นในอัตรา 25 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 7 - 15 วัน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และควรใช้ในระยะก่อนเก็บเกี่ยวไม่น้อยกว่า 2 เดือน
6. ให้งดน้ำและงดปุ๋ยมะนาวจนเห็นว่าใบเหี่ยวและหลุดร่วงประมาณ 50 – 60 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นก็ให้น้ำตามปกติ ปุ๋ยเคมีที่ใช้เพื่อเปิดตาดอกในระยะนี้ คือ ปุ๋ยที่มีตัวกลางสูง เช่น 12 – 24 – 12 หรือ 15 – 30 -15 ปริมาณ 1 กำมือต่อวงบ่อ และควรรดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้ปุ๋ยละลายต่อไป
สำหรับเกษตรกรบางท่าน เลือกใช้วิธีพลาสติกคลุมบ่อในช่วงนี้ด้วย แต่ต้องพิจารณาปัจจับที่ว่า พลาสติกก่อให้เกิดไอน้ำเกาะบริเวณผิวด้านในพลาสติก ซึ่งทำให้ลดความชื้นในดินยาก หากจะให้ได้ผลดี ในวันที่แดดออกต้องแกะพลาสติกออกให้น้ำระเหย หากฝนตกต้องคลุมพลาสติก เป็นการจัดการที่ยากในกรณีที่ไม่มีแรงงานเพียงพอ
7. หลังติดดอกแล้วก็ให้น้ำตามปกติเช้า – เย็น (ระบบน้ำหยดจะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที) จนกระทั่งมะนาวออกผลผลิต ก็เป็นจบขั้นตอนการทำมะนาวนอกฤดู
ข้อมูลจาก ศูนย์รวมความรู้การเกษตร
ในการบังคับให้มะนาวออกดอกติดผลนอกฤดู ก็คือการทำให้มะนาวออกดอกในเดือนตุลาคม ดังนั้นเดือนกันยายนเกษตรกรผู้ปลูกมะนาวต้องงดปุ๋ย งดน้ำ เพื่อที่จะบังคับมะนาวให้มีผลผลิตนอกฤดู โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ตัดแต่งกิ่งและเด็ดผลมะนาวที่เหลือบนต้นออกให้หมด เพื่อบำรุงต้น เร่งการสร้างยอดใหม่ ใบใหม่ เพราะผลมะนาวที่คุณภาพดีที่สุดคือผลที่เกิดจากยอดใหม่ ผลที่เกิดจากกิ่งเก่าคุณภาพจะด้อยลงมา ผลที่คุณภาพต่ำสุดคือผลที่เกิดติดกิ่ง
2. หลังตัดแต่งกิ่งเสร็จใช้ปุ๋ยเคมี 15 – 15 – 15 ใส่หนึ่งกำมือต่อวง หากไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย ต้นจะไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าที่ควร และพบอาการผลเหลืองที่ไม่ได้เกิดจากอาการม้านแดดมากกว่าปกติ เนื่องจากการให้ผลผลิตในปีที่ผ่านมา ต้นมะนาวใช้ธาตุอาหารในการเลี้ยงลูกในปริมาณที่มากนั้นเอง จึงจำเป็นต้องได้รับปุ๋ยเคมีบ้าง
3. เพิ่มวัสดุปลูกในวงบ่อเนื่องจากในแต่ละปีวัสดุปลูกจะยุบลงผุพังไปบ้างในปีที่ผ่านมา อาจเพิ่มกาบมะพร้าว เศษฟาง ใบไม้ หรือขี้เถ้าแกลบ ซึ่งวัสดุพวกนี้จะช่วยเก็บความชื้นได้เป็นอย่างดีและยังเป็นวัสดุที่ช่วยเก็บรักษาปุ๋ยที่จ่ายมาทางระบบน้ำก่อนจะค่อย ๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารให้ต้นมะนาวใช้ ป้องกันการสูญเสียธาตุอาหารอันเกิดจากการไหลบ่า หรือการระเหย
4. ให้ใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ได้จากการหมักหอยเชอรี่ 30 กก. เศษผลไม้ 10 กก. กากน้ำตาล 10 กก. สารเร่งพด.2 จำนวน 25 กรัม ต่อน้ำ20 ลิตร (สูตรนี้สามารถใช้ฉีดพ่นทางใบ ในอัตรา 20 - 25 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตรได้) ในส่วนของการให้ปุ๋ยชีวภาพทางระบบน้ำนั้น เทคนิคคือใช้ปุ๋ยชีวภาพในอัตรา 5 ลิตร ต่อน้ำ 1,250 ลิตร ให้ทุก 5 - 7 วัน โดยจะให้ครั้งละ 3 – 5 นาที เพื่อให้เศษวัสดุบริเวณโคนต้นชุ่มก็พอ หลังจากนั้นก็ให้น้ำตามปกติ เพราะน้ำจะค่อย ๆ ละลายธาตุอาหารลงไปให้ต้นมะนาวและยังเป็นการใช้ปุ๋ยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
5. ในระยะนี้ต้องดูแลสวนมะนาวให้ดี เนื่องจากมีโรคและแมลงเข้าทำลายในระยะยอดอ่อน คือ เพลี้ยไฟ และโรคแคงเกอร์ ควรใช้สารกำจัดแมลงที่สกัดจากสมุนไพรทางธรรมชาติ เช่น สมุนไพรที่ มีรสเผ็ด ขม เหม็น เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด สะเดา หรือบอระเพ็ด คือให้ใช้สมุนไพรดังกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่ง 30 กก. กากน้ำตาล 10 กก. สารเร่งพด.7 จำนวน 25 กรัม ต่อน้ำ 30 ลิตร หมัก 20 วัน นำมาฉีดพ่นในอัตรา 25 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 7 - 15 วัน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และควรใช้ในระยะก่อนเก็บเกี่ยวไม่น้อยกว่า 2 เดือน
6. ให้งดน้ำและงดปุ๋ยมะนาวจนเห็นว่าใบเหี่ยวและหลุดร่วงประมาณ 50 – 60 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นก็ให้น้ำตามปกติ ปุ๋ยเคมีที่ใช้เพื่อเปิดตาดอกในระยะนี้ คือ ปุ๋ยที่มีตัวกลางสูง เช่น 12 – 24 – 12 หรือ 15 – 30 -15 ปริมาณ 1 กำมือต่อวงบ่อ และควรรดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้ปุ๋ยละลายต่อไป
สำหรับเกษตรกรบางท่าน เลือกใช้วิธีพลาสติกคลุมบ่อในช่วงนี้ด้วย แต่ต้องพิจารณาปัจจับที่ว่า พลาสติกก่อให้เกิดไอน้ำเกาะบริเวณผิวด้านในพลาสติก ซึ่งทำให้ลดความชื้นในดินยาก หากจะให้ได้ผลดี ในวันที่แดดออกต้องแกะพลาสติกออกให้น้ำระเหย หากฝนตกต้องคลุมพลาสติก เป็นการจัดการที่ยากในกรณีที่ไม่มีแรงงานเพียงพอ
7. หลังติดดอกแล้วก็ให้น้ำตามปกติเช้า – เย็น (ระบบน้ำหยดจะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที) จนกระทั่งมะนาวออกผลผลิต ก็เป็นจบขั้นตอนการทำมะนาวนอกฤดู
ข้อมูลจาก ศูนย์รวมความรู้การเกษตร