Home »
สาระ ความรู้
»
ลองเช็คดู!! 6 อาหาร “ห้ามใส่บาตร” ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน ว่าถ้าใส่ไป บาปโดยไม่รู้ตัว !! (รายละเอียด)
ลองเช็คดู!! 6 อาหาร “ห้ามใส่บาตร” ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน ว่าถ้าใส่ไป บาปโดยไม่รู้ตัว !! (รายละเอียด)
เชื่อว่าหลายๆคนยังไม่รู้ ว่าอาหารเเบบไหนบ้าง ที่
ใส่บาตรบาปเเล้วบาป มันอาจจะติดตัวตายอย่าถวายให้พระ วันนี้เราได้มี 6
อาหารต้องห้ามที่ “ไม่ควรใส่บาตรทำบุญ” เพราะที่คุณทำมันคือบาป
จะมีอะไรบ้างต้องไปดูกัน
1) ข้าวสาร อาหารแห้ง เนื้อสด ไม่ควรใส่บาตร
ตามพระวินัยแล้ว…พระสงฆ์ไม่สามารถทำอาหารเองได้
และพระท่านไม่ควรเก็บอาหารไว้ข้ามวัน ถ้าจะถวายจึงควรเป็นของที่ฉันได้ทันที
อย่างไรก็ตาม
ถ้าอยากถวายอาหารพวกนี้ควรถวายให้กับวัดเพื่อเก็บเข้าโรงทานจะเหมาะสมกว่า
2) ใส่เงินในบาตรไม่ได้เด็ดขาด!!
พระรับเงินถือว่าผิดพระธรรมวินัย หรืออาบัติ ชาวพุทธท่านใดอยากถวายปัจจัยควรนำไปถวายกับวัดหรือหยอดตามตู้จะดีกว่า
3) เนื้อต้องห้าม 10 ชนิด
โดยส่วนใหญ่เนื้อสัตว์เหล่านี้บ้านเราไม่ค่อยนิยมบริโภคกันอยู่แล้ว ดังนั้น
อย่านึกอุตรินำเนื้อสัตว์เหล่านี้ไปใส่บาตรหรือถวายพระเด็ดขาด
เนื้อต่างๆได้แก่
1. เนื้อมนุษย์ 2. เนื้อช้าง 3. เนื้อม้า 4. เนื้อสุนัข 5. เนื้องู 6.
เนื้อราชสีห์ 7. เนื้อเสือโคร่ง 8. เสือเหลือง 9. เสือดาว 10.เนื้อหมี
4) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
อาหารกึ่งสำเร็จรูปสะดวกในการจับจ่ายหรือนำมาเก็บไว้เพื่อเตรียมตัวในการทำบุญตักบาตรตอนเช้าตรู่
แต่คุณจะรู้หรือไม่ว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นเต็มไปด้วยแป้งซึ่งจะทำให้พระสงฆ์ได้รับแต่คาร์โบไฮเดรตในประมาณมากเกินไป
ก่อให้เกิดการสะสมตามกล้ามเนื้อและตับในรูปไกลโคเจนและเป็นรูปเป็นไขมันที่แทรกอยู่ตามชั้นผิวหนัง
อีกอย่างหนึ่งคือผงปรุงรสที่เต็มไปด้วยโซเดียมเฉลี่ยซองละ 1000 มิลลิกรัม
ซึ่งก็เทียบได้เป็นครึ่งหนึ่งของปริมาณแนะนำในแต่ละวันหากมีการสะสมเป็นปริมาณมากจะส่งผลทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง
5) ผลไม้ ธัญพืชที่มีเมล็ด
ผลธัญพืชที่มีเมล็ด เป็นสิ่งที่ไม่ควรนำไปถวายพระหรือตักบาตร
เพราะถือว่าเมล็ดเหล่านั้นยังสามารถให้กำเนิดชีวิตได้อยู่
ถ้าต้องการจะถวายควรจะต้องเอาเมล็ดออกก่อน
หรือหั่นเป็นชิ้นให้พร้อมรับประทาน
6.) ขนมหวาน
พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่มักลืมนึกถึงโทษที่จะตามมา
จึงมักจัดแจงเตรียมขนมหวานต่าง ๆ อย่างเช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมต้ม
ขนมห่อต่าง ๆ เพื่อใส่บาตรพระ ซึ่งก็อย่างที่กล่าวไว้ในหลาย ๆ
ข้อก่อนหน้านี้ว่ามันส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร