Home »
สาระ ความรู้
»
ต้องไปกราบสักครั้งในชีวิต!! เปิดตำนาน ๕ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ แสดงปาฏิหาริย์เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้กราบไหว้
ต้องไปกราบสักครั้งในชีวิต!! เปิดตำนาน ๕ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ แสดงปาฏิหาริย์เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้กราบไหว้
พระพุทธรูป หรือ รูปเคารพแทนพระพุทธเจ้า
ในตำนานเรื่องพระแก่นจันทน์ได้พรรณนาเรื่องพระพุทธรูปองค์แรกไว้ว่า
ครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จจำพรรษาเพื่อโปรดพุทธมารดา ณ
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น พระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์แห่งเมืองสาวัตถี
ทรงรำลึกถึงพระพุทธองค์เป็นอย่างมาก
จึงโปรดฯให้ช่างหาไม้แก่นจันทน์หอมที่ดีที่สุด
มาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปอันงดงาม มีพุทธลักษณะคล้ายพระพุทธองค์
แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานยังพระราชมณเฑียร
เมื่อพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพาน
พระพุทธรูปจึงเป็นตัวแทนของพระศาสดาให้เราศาสนิกชนได้เคารพบูชา กราบไหว้
ซึ่งมีคำกล่าวว่า ไหว้เทพยดาองค์ใดก็หาได้ประเสริฐเสมอเหมือน พระพุทธเจ้า
เพราะแม้แต่เทวดายังเคารพนบน้อบพระองค์ วันนี้ ป๋าเถิก จึงขอพาท่านไปรู้จัก
๕ พระพุทธรูปที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ดังต่อไปนี้
๑.หลวงพ่อพระพุทธโสธร วัดโสธร จ.ฉะเชิงเทรา
หลวงพ่อโสธรองค์หนึ่งที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มีอภินิหารเป็นพระพุทธรูปที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์
เป็นมิ่งขวัญของชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา
แต่เดิมหมู่บ้านคนน้อยมาก การคมนาคมไม่ค่อยสะดวก
เมื่อหลวงพ่อโสธรมาประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรแล้ว ประชาชนชาวเรือนับถือว่า
ถ้าได้บอกขอต่อหลวงพ่อโสธรแล้ว สินค้าก็ซื้อง่ายขายคล่องเป็นเทน้ำเทท่า
เรือแพที่ผ่านไปมาในแม่น้ำพอถึงที่ตรงกับโบสถ์หลวงพ่อโสธรแล้ว
ผู้ที่นิยมนับถือและเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธร
คำอาราธนาหลวงพ่อโสธร
กายานะ วาจายะวะ วาโสธะรัง
นามะ อิติปาริหะ ริยะกาง
พุทธธะรูปัง อะหังปิ
๒.หลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีฯ จ.พิษณุโลก
พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ ณ
วิหารด้านตะวันตกในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1900 ตรงกับรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1
(ลิไทย) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา
และพระเหลือ
พระพุทธชินราชได้รับการยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งและยังเป็นพระพุทธรูปที่นิยมจำลองกันมากที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนชาวไทยศรัทธาและนิยมเดินทางมากราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่งด้วย
“พระพุทธชินราชพระพุทธชินศรีสองพระองค์นั้นงามแหลมแก่ตามมากกว่าพระพุทธรูปใหญ่น้อยบรรดามีในแผ่นดินสยามทั้งปักษ์ใต้
ฝ่ายเหนือ และตลอดกาลนานมาถึง 900
ปีมีผู้เลียนปั้นเอาอย่างไปมากก็หลายตำบล
จะมีพระพุทธรูปที่คนเป็นอันมากดูเห็นว่าเป็นดีเป็นงามกว่าพระพุทธชินราชพระพุทธชินศรีสองพระองค์นี้ก็ไม่มี…”
–พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
คาถาบูชาพระพุทธชินราช
กาเยนะ วาจายะวะ เจตะสาวา ชินะราชาพุทธรูปัง สิริธัมมะติปิ
ตะกะราเชนะ กะตัง นะมามีหัง พุทธธังอาราชธนานัง ธัมมังอาราชธนานัง
สังฆังอาราชธนานัง ชินะราชาพุทธธะรูปัง
อาราชธนานัง พุทธธังลาภมานะชาลีติ ธัมมังลาภมานะชาลีติ สังฆังลาภมานะชาลีติ
อุอะมะนะโมพุทธธายะ พามานะอุกะ สะนะถุประสิทธิเม
๓.หลวงพ่อวัดบ้านแหลม วัดเพชรสมุทรจ.สมุทรสงคราม
“หลวงพ่อบ้านแหลม”
พระพุทธปฏิมากรเป็นพ่อบ้านเมืองยกย่องนับถือเป็นที่เคารพสักการบูชาเปรียบเสมือนเป็นพ่อของคนทั้งเมือง
หลวงพ่อวัดบ้านแหลม เป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร
หล่อด้วยทองเหลืองแบบสมัย สุโขทัยตอนปลาย ภายในโปร่งขนาดส่วนสูง ๑๗๐
เซนติเมตร ประดิษฐานยืนอยู่บนแท่น ภายในพระอุโบสถวัดบ้านแหลม อำเภอเมือง
จังหวัดสมุทรสงคราม
สมัยก่อนเมื่อผู้ใดได้รับความเจ็บป่วย หรือทุกข์ร้อนประการใด
ก็มากราบนมัสการบนบานต่อหลวงพ่อ
ความเจ็บป่วยหรืออาการทุกข์ร้อนนั้นก็พลันหายไปหรือไม่ก็ทุเลาเบาบางลงจนเป็นที่นับถือของประชาชนทั่วไป
ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วกล่าวบทบูชาดังนี้
สะทา วะชิระสะพุททะวะวะ วิหารเร
ปติฏฐิตัง นะระเทโวหิ ปูชิตัง ปัตตะหัตตัง
พุทธรุปัง อะหัง วันทามิ ทูระโต
หรือจะบูชาด้วยบทนี้ ๙ จบ ก็ได้
คาถาหลวงพ่อวัดบ้านแหลม
นะมะระอะ นะเทวะอะ
๔.หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย
หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก
มีพระรูปลักษณ์งดงามมาก ขนาดหน้าตัก กว้าง ๒ คืบ ๘ นิ้ว
สวนสูงจากพระสงฆ์เบื้องล่างถึงยอดพระเกศ ๔ คืบ ๑ นิ้ว ของชางไม้
ปัจจุบันได้ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย(พระอารามหลวง)
เป็นพระพุทธรูปที่ชาวจังหวัดหนองคายนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากและเป็น
ที่เคารพสักการะอย่างยิ่ง
คาถาบูชาหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย(พระอารามหลวง) จังหวัดหนองคาย
(ว่านะโม ๓ จบ) แล้วว่า..
อะระหัง พุทโธ โพธิชโย เสยะคุโน โพธิสัตโต มหาลาโภ ปิยัง มะ มะ ภะวันตุโน โหตุ สัพพทา
๕.หลวงพ่อสมปรารถนา วัดสว่างหัวนาคำ จ.กาฬสินธุ์
ประวัติความเป็นของหลวงพ่อโพธิ์ศรีวิไลย์
(หลวงพ่อสมปรารถนา)เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อายุหลายร้อยปี
ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ที่มีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา
เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่บังเกิดปาฎิหาริย์มากมายดุจเทพบันดาล
ที่พระเกจิอาจารย์หนุ่มผู้มากด้วยบารมีธรรม พระอาจารย์มหาวัฒน์ วิวฑฺฒนเมธี
ป.ธ.๙ วัดสว่างหัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
ขุดอัญเชิญขึ้นได้ที่วัดศรีวิไลย์ ในเช้าวันพระ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖
ปีมะเส็ง ก่อนวันวิสาขบูชา ๗ วัน พ.ศ.๒๕๕๖
(โดยได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณว่า เป็นพระพุทธรูปเก่า
อายุน่าจะประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ ปี)…พระพุทธรูปองค์นี้ท่านพระอาจารย์มหาวัฒน์
กล่าวว่า มีความศักดิ์สิทธิ์มาก
เพราะมีเทวดาท่านเฝ้าบริบาลรักษาหลายหมื่นองค์
วิธีขอพรหลวงพ่อโพธิ์ศรีวิไลย์ หรือหลวงพ่อสมปรารถนา
ใช้พวงมาลัย ๓ , ๕, ๙ หรือ๕๖ พวง
หรือจะใช้ดอกบัวขาว ๓, ๕, ๙, หรือ๕๖ ดอก
พร้อมด้วยการปิดทองให้เลยอายุไปหนึ่งแผ่น
เมื่อเสร็จแล้ว ไหว้พระ และนั่งสมาธิครู่หนึ่ง แล้วอธิษฐานขอพร
(เวลาอธิษฐานขอพรจิตต้องเป็นสมาธิ) หรือเพื่อความแน่ชัด
ให้พูดออกเสียงให้ตัวเราเองได้ยินชัดเจน
พระคาถายานี (รัตนปริตร)
•ตั้งนะโม ๓ จบ
•ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข
ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง
พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
•ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข
ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง
ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
•ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข
ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง
สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ