27 กุญแจไขความลับของจักรวาล (TOP SECRET)
27 กุญแจไข #ความลับของจักรวาล
(TOP SECRET)
#เคยแปลกใจบ้างไหมว่า
เรื่องบางเรื่อง ที่เราได้เคยอธิษฐานไว้
มันล้วนเป็นจริงเหมือนกับที่เราวาดฝันไว้..อย่างไม่น่าเชื่อ
ถ้าคุณเคย..รู้ไหมว่าเพราะอะไร…ความลับนั่นคือ
1.#เมื่อใดที่เราสร้างภาพแห่งอนาคต
ได้ชัดเจนเท่ากับภาพในอดีต
เหมือนกับว่าเคยผ่านประสบการณ์นั้นมาแล้ว รู้สึกว่าเกิดขึ้นจริงแน่นอน
เมื่อนั้นเราก็จะสามารถกำหนดอนาคตให้เป็นดั่งภาพในจินตนาการได้
2.#เคล็ดลับของอัจฉริยะ
คือการสร้างภาพที่ชัดเจนขึ้นในใจก่อนเสมอ
มนุษย์มีสิ่งล้ำค่าอย่างหนึ่งนั่นคือ “สติสัมปชัญญะ” ที่คอยควบคุมดูแลอารมณ์ ความรู้สึก ตลอดไปถึงความคิด
3.#ความคิด ส่งผลต่อเซลล์ทุกเซลล์
ในทุกระบบของร่างกาย และสามารถส่งผลไปถึงเซลล์ของคนอื่นๆด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์ในระบบประสาท ดังนั้น จงพยายามคิดบวกอยู่เสมอ
4.การ “ให้” #คือการเพิ่มให้บวก
..บวกในตัวคุณก็จะเพิ่ม ให้ลบ ลบในตัวคุณก็จะเพิ่ม เช่น ยิ่งให้ยิ่งเก่ง ยิ่งสอนยิ่งรู้ ยิ่งเรียนยิ่งฉลาด ยิ่งบริจาคยิ่งรวย
5.#จักรวาลมีคลื่นความถี่
ตัวเราเปรียบเสมือนจอรับภาพ ถ้าต้องการภาพชีวิตแบบไหน ก็เพียงแต่ปรับความถี่ของจอรับภาพให้ตรงกับคลื่นความถี่ของจักรวาล
6.#จิตใต้สำนึก คือฐานข้อมูลของความคิด
และความรู้สึกที่เกิดขึ้นซ้ำกันบ่อยๆจนตกตะกอนแล้ว
7.#เมื่อเราฝึกคิดบวกจนเป็นนิสัย
จิตใต้สำนึกก็จะบันดาลให้สิ่งที่เราคิดเกิดขึ้นจริง แล้วจะพบว่าสิ่งดีๆเข้ามาสู่ชีวิตเรามากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
8.#จิตใต้สำนึกทำงานแม้ในขณะหลับ
ดังนั้น ในแต่ละวันควรระลึกถึงสิ่งดีๆที่ได้ทำลงไปก่อนล้มตัวลงนอน เพื่อจะได้ตื่นเช้าวันใหม่ด้วยความสดชื่น สมองแจ่มใส
9.#จิตใต้สำนึกมีพลังอำนาจมากว่าจิตสำนึก
หลายหมื่นหลายแสนเท่าการทำงานของจิตใต้สำนึกอยู่เหนือมิติที่สี่
10.#จิตใต้สำนึก เป็นสิ่งที่เราสั่งสมไว้ในภวังคจิต
มานานหลายภพหลายชาติ รวมทั้งชาติปัจจุบัน จึงทำให้เรามีพื้นฐานจิต อุปนิสัย หรือจริตที่แตกต่างจากคนอื่น ตามประสบการณ์ที่เราสั่งสมมา
11.#ทุกครั้งที่ทำความดี
จงจดจำความรู้สึกดีดีนั้นไว้
ให้ประทับอยู่ในใจเรา
สิ่งนี้จะเป็นพลังให้เรามีกำลังใจที่จะทำความดีอยู่อย่างสม่ำเสมอ
และที่สำคัญกว่านั้น
พลังนี้จะดึงดูดสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นในชีวิตเราอย่างน่าอัศจรรย์
12.#กฎลับ 4ข้อ
หนึ่ง.. ตั้งจิตอธิษฐานขอโดยปราศจากความอยาก เพื่อป้องกันความกระวนกระวาย
สอง.. มีความเชื่อมั่นในสิ่งที่เราขอว่าเป็นจริงได้โดยไม่มีข้อลังเลสงสัย
สาม..จินตนาการภาพแห่งความรู้สึกว่าสิ่งนั้นได้มาแล้ว
ด้วยความรู้สึกปรีดาและมีความสุข
สี่..เตรียมความพร้อมทั้งกายและใจ
13.#อย่าอธิษฐานขอที่เป้าหมาย
แต่ให้ขอสิ่งที่จะทำไปให้ถึงเป้าหมายแทน
เช่นขอให้มีพลังแรงกายแรงใจ
มีสติปัญญาให้ไปถึงเป้าหมายนั้น เป็นต้น
14.#ความกลัวเป็นตัวขัดขวาง
ศักยภาพของจิตอย่างรุนแรง
ทำลายสุขภาพทั้งกายและใจ
15.#ความกลัวจัดเป็นความคิดด้านลบ
เมื่อกลัวบ่อยๆ จิตใต้สำนึกจะบันทึกภาพนั้น
แล้วเหนี่ยวนำให้เกิดขึ้นจริง
16.#เมื่อใดเรามีสติ
ความคิดลบที่เกิดขึ้นในสมองจะไม่มีทางหลุดฝังลงไปในจิตใต้สำนึกได้
17.#เผชิญกับคนคิดลบ
ต้องสร้างพลังบวกให้มากๆ(คบคนพาล พาลพาไปหาผิด)..แต่ยิ่งคบคนที่คิดบวก.บวกในตัวเราก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น(คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล)
18.#ถ้าเราคิดดี..สิ่งดีๆจะเข้ามาในชีวิต
ถ้าเราคิดลบ สิ่งที่ไม่ดีก็จะเข้ามาในชีวิต
19.#เมื่อชีวิตพบกับอุปสรรค
จงคิดบวก มองวิกฤตเป็นโอกาส เราก็จะมีพลังด้านบวกเพิ่มขึ้น มีความหวังและนั่นก็หมายถึงสิ่งดีๆ.ก็จะเข้ามาในชีวิตต่อไป
20.#การหัวเราะ
จะทำให้คลื่นรังสีออร่ารอบๆตัวเป็นสีสดใส
คลื่นบวกของสิ่งแวดล้อมจะมาออรอบๆตัวเรา เสียงหัวเราะมีพลังดึงดูดสูงมาก
และมันสามารถดึงพลังคลื่นบวกแห่งจักรวาลเข้ามาสู่ตัวเรา
21.ความรู้สึก “#พอ” จะทำให้ชีวิตมีความสุข
และเกิดความรู้สึกอยากแบ่งปันให้ผู้อื่น
ความรู้สึกนี้จะเป็นพลังดึงดูดที่ทรงอานุภาพและเป็นทางลัดที่ง่ายที่สุดในการที่จะนำความมั่งคั่งมาสู่ตัวเรา
22.#จงแผ่เมตตาให้ทุกสรรพสิ่ง
เพราะมีการทดลองพบว่า
มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพุ่งออกมาจากร่างกายขณะทีแผ่เมตตา
23.#จงมีสติทุกครั้งที่ระลึกและรู้สึกตัว
ให้เข้าไปดูความรู้สึกและปรับให้เป็นบวกเสมอ
ความรู้สึกเป็นกรรมเก่า
ความคิดคือกรรมปัจจุบัน
การจะตัดความรู้สึกต้องระดมพลังความคิดบวกให้เข้มข้น แล้วบีบอัด
จนกลายเป็นความรู้สึกเชิงบวก จึงจะสามารถนำไปตัดความรู้สึกลบได้
(ระงับได้ด้วยการเจริญสติ)
24.#หมั่นใช้ปัญญาวิเคราะห์ความรู้สึก
ว่าจะเหนี่ยวนำให้ความคิดเป็นบวกหรือลบ
การคิดลบจะเกิดเป็นความรู้สึกฝังอยู่ในจิต เป็นกรรมติดตัว แต่ถ้าคิดบวก ก็จะเป็นการสกัดไม่ให้กรรมใหม่เกิดขึ้นอีก
25.#จงคิดบวกเสมอไม่ว่าสถานการณ์ใด
คิดแต่สิ่งดีๆทำแต่สิ่งดีๆ แล้วจิตใต้สำนึกจะดึงดูดสิ่งที่ดีๆเหมือนกันเข้ามา ชีวิตเราก็จะไปสู่สิ่งที่ดี
26.#สิ่งที่สกัดกิเลสตัณหาได้มีเพียงสิ่งเดียว
คือ “สติสัมปชัญญะ”
เพราะเป็นตัวเฝ้าทวารทั้งขาเข้าและออก
ในที่สุดเราก็จะรู้ว่า ทุกสิ่งแม้แต่ความรู้สึกก็ไม่มีอยู่จริง
เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป เหมือนฟองสบู่ที่เกิดดับภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
27.#ถ้าคิดจะใช้ความรู้จากเดอะท็อปซีเคร็ทเพียงข้อเดียว
จงเลือกใช้การฝึกสติสัมปชัญญะทุกขณะจิตที่เราระลึกได้ จนกลายเป็นวิถีชีวิตของเรา
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ได้ #ต้องลองทำกันดูแล้วล่ะนะ
cr:THE TOP SECRET ทันตแพทย์สม สุจีรา
สรุปบทความ คุณครูแอ๊ว