Home »
สาระ ความรู้
»
6 เพื่อนร่วมงานนิสัยแย่ และวิธีรับมือเมื่อต้องเผชิญกับคนแบบนี้
6 เพื่อนร่วมงานนิสัยแย่ และวิธีรับมือเมื่อต้องเผชิญกับคนแบบนี้
6 เพื่อนร่วมงานนิสัยแย่ และวิธีรับมือเมื่อต้องเผชิญกับคนแบบนี้
หลากพ่อ หลายแม่ ต่างคนต่างมา เมื่อได้มาอยู่ในที่ทำงานเดียวกัน
แน่นอนว่ามันก็ต้องมี ต้องเจอเพื่อนร่วมงานที่นิสัยแย่ๆ เหล่านี้กันบ้าง
มาดูว่าเราจะต้องรับมือกับคนเหล่านี้กันยังไงดีกว่า
เพื่อนร่วมงานนิสัยแย่
1.) เอาหน้าไว้ก่อน ที่เหลือค่อยว่ากัน
เพื่อนร่วมงานประเภทนี้ คือ พวกพูดเก่ง เข้าหาคนเก่ง บางคน อาจจะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
ผู้ใหญ่รักใคร่ เอ็นดู แต่เมื่อถึงคราว ต้องทำงานร่วมกันจริง เพื่อนร่วมงานประเภทนี้
จะโยนงานทันที มีทั้งแบบโยนให้กันหน้าตาเฉย แบบไม่รู้สึกผิด เหมือนทำมาจนชำนาญ
หรือ โยนงานแบบแนบเนียน อ้างหัวหน้าข้างบน สั่งมาอีกที
เมื่อได้งานจากเรา ก็จะรีบพรีเซนต์ว่า อ๋อ งานฉันเอง แล้วจะให้ทนไหวได้อย่างไร ?
ทางแก้ :
ทำไปก่อนค่ะ หาประสบการณ์ งานหนักเอางานเบาสู้ งานโยน ก็อ่ะ ทำไปก่อน !
อย่าเพิ่งโวยวายไป เพราะบางทีก็ไม่มีใครเชื่อเรา โดยเฉพาะถ้าเราเป็นหน้าใหม่
ในที่ทำงาน ให้เวลาพิสูจน์ตัวเอง กับคนแบบนี้ไป
วันไหน หัวหน้าใหญ่ เรียกถามงาน ตอบไม่ได้ขึ้นมา จะกลายเป็นหนังคนละม้วนทันที
2.) เห็นคนอื่นมีความสุขกว่าตัวเองไม่ได้
มันเจ็บ มันร้าวอยู่ในใจ เวลาที่เห็น เพื่อนร่วมงานคนอื่น ได้รับโบนัสเพิ่ม ได้คำชม
หรือได้เลื่อนขั้นก่อนตัวเอง คนแบบนี้น่าสงสาร เพราะแทนที่เขาจะหาเวลาไปศึกษาเพิ่ม
ไปพัฒนาในสิ่งที่ตัวเองยังไม่เก่ง หรือหาสาเหตุว่าทำไม เราถึงไม่ได้อย่างเขาบ้าง
กลับเอาเวลามาอิจฉา นั่งพูดกระแนะกระแหน เหน็บแนมคนอื่น
ทางแก้ :
มีความสุขต่อไปค่ะ อย่าหยุด เพราะเสียงด่าลอยๆ สายตาไม่พึงประสงค์ ไม่มีผลกับชีวิตเรา
เท่าการตั้งใจทำงาน และ การพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดด ใครทำ คนนั้นได้
เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว แต่ไม่ต้องไปมีเรื่อง หรือสวนกลับนะคะ
ต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า สุดท้ายแล้ว ทุกการกระทำ จะพิสูจน์ทั้งตัวเรา และตัวเขาเองค่ะ
3.) จับผิดทุกสถานการณ์
เพื่อนร่วมงานประเภทที่จับผิดเก่ง ตั้งแต่เรื่องงาน ยันเรื่องส่วนตัว ทั้งที่เราก็ไม่ได้ทำผิด
เธอยังไม่ได้ส่งรายงานอีกเหรอ นี่ไปไหนมาดึกๆ ไปกับผู้ชายมาด้วยใช่มั้ย
เอ้า มันก็เรื่องของฉันมั้ย ? เจอแบบนี้ หลายคนคงแบบกรอกตามองบน
ไม่ก็เบะปากในใจ ทำได้นะคะ (ถ้ามันเหลือทน)
แต่อย่าทำในสายตาของคนแบบนี้ เพราะจะกลายเป็นประเด็นให้เขาจับผิดเรา วนไปอีก !
ทางแก้ :
ตั้งใจทำงานต่อไปค่ะ อะไรที่ผิดพลาดจริงๆ ก็ลองหาทางแก้ไข เก็บเรื่องราวส่วนตัวไว้
เอาให้ห่างไกล สายตาเพื่อนร่วมงานแบบนี้ดีกว่า เราไม่มีทางรู้ว่าลับหลัง
เขาเอาเราไปนินทา ไปเเต่งเติมสีสันในทางที่แย่อย่างไรบ้าง
แต่เราสามารถ จำกัดผลกระทบด้วยการ make sure ด้วยตัวเองว่า
เราไม่ได้อะไรผิดนะ ทางที่ดีก็หลบเลี่ยง ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวด้วย นอกจากเรื่องงาน จะดีกว่า
4.) เอาสิ่งแย่ๆ ที่เคยเจอไปทำกับคนอื่น
นี่ไง เพราะฉันเคยโดนแบบนี้มา เธอก็ต้องลองโดนดูบ้างนะ จะได้รู้สึก
ตรรกะเดียวกับการรับน้องแย่ๆ ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยบางแห่ง
ยกตัวอย่างเช่น ฉันโดนให้ทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนบ่อยๆ
ก็เอามาทำกับคนอื่นบ้าง โดยบอกว่า ก็เคยโดนเหมือนกัน ถูกด่าจนเสียความรู้สึก
ก็เริ่มหันมาทำแบบนั้น กับผู้ใต้บังคับบัญชาบ้าง ทั้งที่ความเป็นจริง
เขาอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลง สิ่งแย่ๆ บางอย่าง ให้ดีขึ้นได้
ทางแก้ :
หากเป็นสิ่งที่แย่ จนทำใจลำบากที่จะร่วมงานกันต่อ ควรชี้แจงหัวหน้าค่ะ
เพราะไม่ใช่เรื่องอะไรที่เราจะต้องทน หรือ ถ้าซ้ำร้าย คนที่ทำแบบนี้กับเรา
กลับเป็นหัวหน้าเราซะเอง แบบนี้ ต้องชั่งใจแล้วค่ะ ว่าอยู่ที่นี่ต่อไป มันคุ้มมั้ย?
มีโอกาสเติบโตได้อีกมั้ย? หากเทียบกับที่อื่น เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองนะคะ
พราะนิสัยบางอย่างมันอยู่ที่ทัศนคติคน ซึ่งเปลี่ยนที่ตัวเราเอง ง่ายกว่าแน่นอน
5.) รู้สึกชนะเมื่อได้ทำบางสิ่งที่ ทำให้คนอื่นเจ็บปวด
จริงๆ แล้วการเเข่งขันเพื่อชัยชนะ เป็นเรื่องปกติในองค์กร แต่มันจะเริ่มไม่โอเคแล้ว
เมื่อการพยายามเอาชนะนั้น คือการตั้งใจทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด
ไม่ว่าจะเป็นการ พูดจาเยาะเย้ย พูดจาทับถม กลั่นแกล้งทั้งทางตรงและทางอ้อม
ไม่ว่าสาเหตุที่ ทำให้ถูกคนๆ นี้เกลียดจะเป็นอะไร ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจำเป็นต้องทนค่ะ
ทางแก้ :
ไม่มีประโยชน์ที่จะตอบโต้คนแบบนี้ เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์ มันรุนแรงยิ่งขึ้น
บางครั้ง บรรยากาศในการทำงาน ก็มีผลต่องาน และสภาพจิตใจของเรา
ให้ลองพิจารณาถึงผลได้ผลเสีย ก่อนแจ้งเรื่องนี้ต่อฝ่ายบุคคล
ให้ดูสภาพทิศทางลมในองค์กร หากไม่มีใครช่วยปกป้องเราได้
เราก็ต้องปกป้อง และหาทางออกที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
6.) ไม่มีความยุติธรรมในหัวใจ
พูดง่ายๆ ก็คือลำเอียงนั่นเอง อันนี้น่าจะเป็นที่หัวหน้า มากกว่าเพื่อนร่วมงาน
คือมีลูกรักของตัวเอง ปฏิบัติกับลูกน้อง หรือเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ อย่างไม่เท่าเทียมกัน
อย่างเช่น หนุนให้เด็กของตัวเอง ได้พรีเซนท์งานบ่อยๆ โปรโมทรัวๆ ไม่เห็นหัวคนอื่น
ที่ร้ายกว่านั้น คือ อาจเอางานคนอื่น ไปให้คนที่ตัวเองเชียร์อยู่ ใช้นำเสนอ
เรื่องที่ยิ่งกว่าละครเหล่านี้ เกิดขึ้นได้เสมอๆ
ทางแก้ :
ตั้งใจทำงาน พิสูจน์ตัวเองต่อไป เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่มีประสิทธิภาพตัวจริง
ที่บริษัทต้องการก็คือเรา อีกทางคือย้ายแผนก ไม่ก็ย้ายงานไปเลย
ความลำเอียงเป็นสิ่งที่เราแก้ไขได้ยาก จะไปตีซี้กับเขา ให้เขาใส่ใจเรา ก็ไม่ใช่เรื่อง
ดังนั้น บางอย่าง เราก็ต้องตั้งหลักให้ดี แล้วลองเลือกสักทางค่ะ
Cr.goodlifeupdate