Home »
Uncategories »
อยากให้ไปดูของจริง มงคลสูงสุดรอยพระบาท “ในหลวง ร.๙” ที่เดียวในประเทศ
อยากให้ไปดูของจริง มงคลสูงสุดรอยพระบาท “ในหลวง ร.๙” ที่เดียวในประเทศ
ประวัติความเป็นมาของรอยพระบาท ปี พ.ศ.๒๔๙๗
เริ่มสถานการณ์การก่อการร้ายในจังหวัดเชียงราย
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.)
ได้ส่งผู้ปฏิบัติงานจำนวนหนึ่งเข้ามาทางภาคเหนือของประเทศไทย
เพื่อแสวงหาแนวร่วมพื้นฐาน เป็นชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน
จว.เชียงราย ,ชายแดน จว.พะเยา ในปัจจุบัน
หลังจากได้ปลุกระดมชาวไทยภูเขาบางพื้นที่ประสบผลสำเร็จ ปี พ.ศ.๒๕๐๗
ได้คัดเลือกแนวร่วมบางส่วนเพื่อส่งไปอบรมวิชาการเมืองและการทหารรุ่นแรกที่
เมืองฮัวมินห์ ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียตนาม
เพื่อกลับมาเตรียมปฏิบัติงานในพื้นที่ไว้รอรับสมาชิก พคท.
ซึ่งได้เดินทางเข้าสู่พื้นที่ชายแดน จว.เชียงราย ปี พ.ศ. ๒๕๐๙
เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการชี้นำ ด้านการเมืองและการทหาร
เมื่อสามารถขยายผลงานได้อย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง
พคท.จึงเปิดฉากการต่อสู้ด้วยอาวุธกับเจ้าหน้าที่ในภาคเหนือขึ้นเป็นครั้งแรก
ที่บ้านน้ำปาน ตำบลนาไร่หลวง อ.ทุ่งช้าง จว.น่าน เมื่อ วันที่ ๒๖ ก.พ.๒๕๑๐
ซึ่งถือว่าเป็นวัน “เสียงปืนแตก” ของ พคท.ในเขตภาคเหนือ
ต่อจากนั้นได้มีการต่อสู้เรื่อยมา โดยในวันที่ ๑๐ พ.ค.๒๕๑๐
ได้มีการต่อสู้กับหน้าที่ฝ่ายรัฐบาล ที่บ้านห้วยชมภู ต.ยางฮอม อ.เทิง
จว.เชียงราย (เป็นครั้งแรกในเขตพื้นที่ดอยยาว-ดอยผาหม่น)
เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ พคท. สามารถจัดตั้งฐานที่มั่นในภาคเหนือได้ถึง ๙
แห่ง และฐานที่มั่นที่สำคัญแห่งหนึ่งคือ “ฐานที่มั่นดอยยาว-ดอยผาหม่น”
จ.เชียงราย พคท.ได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นโดยใช้ชื่อว่า
“คณะกรรมการจังหวัดเชียงราย” แบ่งพื้นที่ออกเป็น ๔ เขตงาน คือ เขตงาน ๕๒ ,
เขตงาน ๙ , เขตงาน ๗ และ เขตงาน ๘
สำหรับพื้นที่ดอยยาว-ดอยผาหม่น เป็นพื้นที่ควบคุมของ เขตงาน ๘ ในเขต
อ.เทิง และ อ.เชียงของ จว.เชียงราย รวมพื้นที่ อ.เวียงแก่น และ อ.ขุนตาล
ในปัจจุบันด้วย กองกำลังติดอาวุธของ พคท.ในขณะนั้นมีประมาณ ๖๐๐ คน
มีมวลชนซึ่งส่วนใหญ่ชาวเขาเผ่าม้ง ประมาณ ๒,๓๐๐ คน ความเคลื่อนไหวที่สำคัญ
คือ ขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการสร้างทาง และ
การพัฒนาพื้นที่เพื่อความมั่นคง การสู้รบ ณ
สมรภูมิแห่งนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง เช่น ยุทธการอิทธิพลชัย
(วีรกรรมดอยม่อนเคอ) , ยุทธการขุนน้ำโป่ง และยุทธการเกรียงไกร(วีรกรรม ณ
เนิน ๑๑๘๘ ดอยพญาพิภักดิ์) โดยใช้กำลังทหารในพื้นที่ จว.เชียงราย
เข้าปฏิบัติการกวาดล้าง และปราบปราม พคท. ตามคำสั่งกองทัพภาคที่ ๓ และ
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๓ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๑ จนถึงปี พ.ศ.๒๕๒๕
จึงสามารถกำชัยชนะอย่างเด็ดขาดเหนือ พคท.
เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ กองพันทหารราบที่ ๔๗๓ ซึ่งมี พ.ท.วิโรจน์ ทองมิตร
เป็นผู้บังคับหน่วย (ตำแหน่ง ปกติ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ ๓
กรมทหารราบที่ ๑๗) ได้นำกำลังทหารเข้าปฏิบัติการพื้นที่ดอยยาว-ดอยผาหม่น
ตามแผนการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ จนเกิดยุทธการยึด เนิน ๑๑๘๘
บนดอยพญาพิภักดิ์ ได้
วันที่ ๒๗ ก.พ.๒๕๒๕ ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช องค์จอมทัพไทย ,
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ,
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
และพระเจ้าวรวงค์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาธินัดดามาตุ ได้เสด็จฯ
เพื่อเยี่ยมเยือนทหารหาญและราษฎร ณ ฐานปฏิบัติการ ดอยพญาพิภักดิ์ บนดอยยาว
เขต อ.เทิง จว.เชียงราย (ปัจจุบันเป็นเขต อ.ขุนตาล)
และในวโรกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน ประทับรอยพระบาทของพระองค์
ลงบนแผ่นปูนปลาสเตอร์ที่จัดเตรียมไว้ เพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่ทหารกล้าทั้งปวง
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ปัจจุบัน รอยพระบาท ได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานอยู่ ณ ศาลารอยพระบาท
บริเวณด้านหน้า กองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๗
ในพระองค์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของกำลังพลคู่กับอนุสาวรีย์ผู้เสียสละและให้สาธารณชน
เยาวชนคนรุ่นปัจจุบัน รวมถึงนักท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
ได้เข้ามาเยี่ยมชมสืบต่อไปและ ปัจจุบันได้มีการสร้างศาลาเพื่อประดิษฐาน
รอยพระบาท ไว้บนดอยโหยด ค่ายเม็งรายมหาราชเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จะมีพิธีการสมโภช และได้มีพิธีอัญเชิญรอยพระบาทในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไป
ประดิษฐาน ณ ที่แห่งใหม่ เมื่อ วันอังคารที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
เพื่อเฉลิมฉลองในวันฉัตรมงคล สำเร็จ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว