แพทย์มะเร็งเตือน! ทำสีผมบ่อย ๆ ระวังเสี่ยงต่อมะเร็ง! รู้ไหมเค้าให้ย้อมสีผมได้กี่ครั้งต่อปี

เรื่องความสวยความงามกับวัยรุ่นเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะแฟชั่นการทำสีผมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น โดยจะสังเกตได้จากการที่ผลิตภัณฑ์ทำสีผมยี่ห้อต่าง ๆ แข่งกันปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อออกมาเอาใจลูกค้า

ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบน้ำหรือแบบโฟม ที่เห็นผลทันทีหลังการทำสีผม อย่างไรก็ตามแม้ว่าการทำสีผมนั้นจะช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดี

แต่ก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ทำสีผมได้ โดยเฉพาะโรคมะเร็งหนังศีรษะ โรคภูมิแพ้ หรือแม้แต่โรคผมร่วง ฯลฯ

นายแพทย์สุวินัย บุษราคัมวงษ์ แพทย์สาขาอายุรกรรม แผนกประกันสังคม รพ.กล้วยน้ำไท 1 กล่าวว่า การทำสีผมบ่อย ๆ นั้นอาจทำให้เส้นผมที่ผ่านสารเคมีนั้นไม่แข็งแรงหลุดร่วงได้ง่าย และยังทำให้เกิดอันตรายต่อใบหน้าหรือระคายเคืองต่อหนังศีรษะส่งผลให้ผิวหนัง เป็นแผลได้ รวมทั้งก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้โรคหนังศีรษะแห้งและที่สำคัญอาจทำให้เป็นโรค มะเร็งหนังศีรษะได้

เนื่องจากในน้ำยาย้อมผมนั้นประกอบด้วยสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดและด่าง 5 ตัวหลัก ๆ ด้วยกันเช่น
-สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไชด์ ซึ่งเป็นสารฟอกสีผมและฆ่าเชื้อโรค จึงมีฤทธิ์ในการทำลายเส้นผมกัดสีผมและหนังศีรษะ ก่อให้เกิดอาการอักเสบและระคายเคืองต่อหนังศีรษะ ตลอดจนทำให้เส้นผมแห้งเสียได้

-สารฟีนิลินไดอะมี หรือสีย้อมผมชนิดถาวรนั้นเป็นสารเคมีอันตราย เมื่อดูดซึมเข้าสู่หนังศีรษะแล้ว อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง และหากสะสมอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งหนังศีรษะได้

-แอมโมเนีย ซึ่งเป็นตัวช่วยให้สีย้อมผมติดผมนั้น ขณะเดียวกันสารดังกล่าวยังมีฤทธิ์เป็นกรดและด่าง ที่สามารถกัดเส้นผมและหนังศีรษะได้ จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมเสียผมร่วง และทำให้รากผมอ่อนแอลง หรือ

-สารซิลเวอร์ไนเตรต ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการปกปิดผมขาว โดยตัวสารนี้เมื่ออยู่บนหนังศีรษะ จะทำปฏิกิริยากับอากาศแล้วเปลี่ยนให้เส้นผมกลายเป็นสีดำ ซึ่งสารตัวดังกล่าวมีคุณสมบัติที่ทำให้เกิดการระคาย หากเข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้ และสารตัวสุดท้ายอย่าง

-เลดอะซีเตด ซึ่งเป็นสารตะกั่วที่ใช้ในครีมปกปิดผมขาว ชนิดที่ไม่ต้องล้างออก เช่นเดียวกับสารซิลเวอร์ไนเตรต และเนื่องจากสารตะกั่วนี้มีคุณสมบัติคล้ายกับสารตะกั่วที่ผสมในน้ำมันในอดีต ดังนั้นหากสะสมในร่างกาย อาจทำลายสมองและประสาทสัมผัสได้ ที่สำคัญสารนี้ยังจัดอยู่ในสารก่อมะเร็งด้วยเช่นกัน

ถ้ามีอาการแบบนี้ เลิกทำสีผมด่วน ถ้าคุณยังรักสุขภาพ
สาวๆ ที่ชอบทำสีผมทั้งหลาย ระวังสัญญาณร้ายเหล่านี้เอาไว้ให้ดีนะคะ เพราะถ้าเกิดขึ้นกับคุณล่ะก็ ต้องรีบหยุดการทำสีผมและการทำร้ายผมโดยด่วน

เพราะเป็นสาเหตุที่บ่งบอกว่าผมของคุณกำลังอยู่ในสภาพแย่ พร้อมที่จะหัวล้านได้ทุกเมื่อ แค่คิดก็หลอนแล้ว ถ้าไม่อยากต้องใส่วิกก่อนวัยอันควร อ่านด่วนๆ แล้วสังเกตตัวเองด้วยนะจ๊ะ

1.ผมหงอกขึ้นเร็วกว่ากำหนด

เพราะการทำสีผม จะเข้าไปกัดให้เม็ดสีที่เคยเข้มของเราถูกทำให้สว่างขึ้น ซึ่งมันก็ผิดธรรมชาติอยู่นะคะ ยิ่งถ้ากัดสีจนขาวก็ยิ่งทำให้เม็ดสีผมถูกทำร้ายอย่างหนัก

วันดีคืนดีสารที่ตกค้างอยู่ก็เข้าไปในรากผมทำให้ผมที่งอกมาใหม่กลายเป็นสีขาวซะอย่างนั้น นั่นคือที่มาของอาการผมหงอกก่อนวัย แล้วคิดดูว่าถ้าเรายังฝืนทำสีผมไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ขาวทั้งหัวล่ะจ้า หยุดเถอะ!

2.ผมร่วงจนสังเกตเห็นได้ชัด

ยิ่งเราใช้สารเคมีกับผมบ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีข้อเสียตามมาเท่านั้น ทั้งสารเคมีจากการทำสีผม ดัดผม ยืดผม ต่อให้สระยังไงก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ตกค้างอยู่เลย

พอตกค้างมากๆ ก็ทำปฏิกิริยากกับผม จนเกิดอาการร่วงง่าย รากผมไม่แข็งแรง รู้ตัวอีกทีก็อาจจะผมร่วงจนแก้ยากแล้วนะ พักผมก่อนจะร่วงจนหมดน่าจะดีกว่าค่ะ

3.เริ่มมองเห็นหนังศีรษะ

บางทีเวลาผมร่วงหรือผมบางลง เราอาจจะไม่ทันสังเกตตัวเองเท่าไหร่ แต่ถ้าส่องกระจกแล้วเริ่มมองเห็นหนังศีรษะชัดเจน ก็ควรเริ่มตกใจได้แล้วนะคะ

เพราะนั่นหมายความว่าผมของเราเริ่มบางจนปิดหนังศีรษะไม่มิดแล้วนั่นเอง หยุดพักการทำสีผมด่วนๆ แล้วบำรุงผมหรือปรึกษาแพทย์ได้แล้วน้า

4.คันหัวและมีรังแค

บางคนเริ่มมีอาการคันหัว และมีรังแค หรือหนังศีรษะลอก แต่อาจจะไม่ทันคิดว่าอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเพราะการทำสีผมมากเกินไป

ซึ่งจริงๆ แล้วนอกจากจะเป็นเรื่องความสะอาดอย่างที่หลายคนเข้าใจ สาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะสารเคมีตกค้างด้วยนะคะ

ดังนั้นถ้าลองรักษาความสะอาดแล้วยังมีอาการคันหัวและรังแคอยู่ บอกเลยว่าหยุดทำสีผมแล้วรีบรักษาด่วนเลยจ้า

5.ผมแห้งกรอบแค่หวีก็ขาด

เรียกว่าแทบจะเป็นสิ่งที่คนทำสีผมทุกคนต้องเจอเลยทีเดียว สำหรับอาหารผมแห้งกรอบ ชี้ฟู และขาดร่วงง่าย เพราะยิ่งเรากัดสีผม ทำสีผมมากเท่าไหร่ ผมที่เคยสุขภาพดีก็จะถูกทำร้ายด้วยสารเคมีจนกลายเป็นผมเยินๆ แทน

ถ้าจะรักษาให้ได้ผลดีที่สุดก็คือตัดทิ้งแล้วเริ่มต้นใหม่ แต่นั่นหมายความว่าต้องหยุดทำสีด้วยนะจ๊ะ