ลงทะเบียนคนจนได้ที่ไหนบ้าง แล้วใครมีสิทธิ์ มาเช็กกันเลย พร้อมตรวจสอบรายชื่อผู้มีรายได้น้อยได้ที่กรมสรรพากร
ได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับ "โครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการของรัฐ" หรือที่บางคนอาจเรียกว่า "ลงทะเบียนคนจน" เพื่อที่รัฐจะได้จัดสวัสดิการต่าง ๆ ลงไปให้ถึงมือผู้ที่มีรายได้น้อยตรงกลุ่ม หลังจากพบว่ามาตรการการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน เช่น ใช้ไฟฟ้าฟรี รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี เพื่อช่วยคนจนนั้นไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริง เพราะคนที่มีรายได้ หรือคนรวยก็มาร่วมใช้บริการด้วย
ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 รัฐบาลก็ได้ออกมาตรการมาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนรับสวัสดิการของรัฐไว้แล้ว โดยมอบเงินช่วยเหลือให้ผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี เป็นเงิน 3,000 บาท ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีคนละ 1,500 บาท เริ่มจ่ายเงินในเดือนธันวาคม 2559 ส่วนใครจะได้รับเงินบ้างนั้น สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ เว็บไซต์ของกรมสรรพากร
พอเห็นมาตรการรัฐบาลแจกเงินแบบนี้ หลายคนเลยสงสัยว่าใครที่เข้าข่ายผู้มีรายได้น้อยที่สามารถมาลงทะเบียนคนจนได้ และสามารถลงทะเบียนได้ที่ไหนบ้าง เราจึงนำข้อมูลนี้มาบอกกันอีกครั้ง
ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 2559 ใครมีสิทธิ์บ้าง
สำหรับผู้ที่จะไปลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ต้องตรวจสอบว่าเรามีคุณสมบัติตามนี้หรือไม่
1. มีสัญชาติไทย
2. อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยต้องเกิดก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2541
3. เป็นผู้ว่างงาน หรือมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทในปี 2558
หมายเหตุ : รายได้ หมายถึงรายได้ของบุคคลที่ลงทะเบียนเท่านั้น ในกรณีประกอบอาชีพร่วมกันทั้งครัวเรือน (เช่น ทำการเกษตรร่วมกัน) และไม่สามารถแยกรายได้ออกมาเป็นรายบุคคลได้ ให้ถือว่า รายได้ของครัวเรือนเป็นรายได้ของหัวหน้าครอบครัวแต่เพียงคนเดียว
ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ต้องเปิดเผยข้อมูลอะไรบ้าง
ผู้ลงทะเบียนจะต้องยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับทรัพย์สินและหนี้สินที่มีอยู่ เช่น
- รายได้ (เงินเดือน/เงินฝากธนาคาร/สลากออมทรัพย์/พันธบัตร/หุ้น ฯลฯ)
- การถือครองทรัพย์สิน (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง/รถยนต์/จักรยานยนต์ ฯลฯ)
- หนี้สินคงค้างทั้งหมด (เงินกู้ในระบบ/เงินกู้นอกระบบ/หนี้บัตรเครดิต/หนี้เพื่อการศึกษา/หนี้เพื่อการเกษตรหรือประกอบธุรกิจ/หนี้เพื่อการอุปโภค-บริโภค/หนี้เพื่อซื้อบ้านและที่ดิน ฯลฯ)
ทั้งนี้การเปิดเผยทรัพย์สิน-หนี้สินดังกล่าว เพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลไว้ใช้ทำสวัสดิการที่เหมาะสมต่อไป
เปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย หรือลงทะเบียนคนจน 2559 ถึงวันไหน
โครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการของรัฐ เปิดให้ประชาชนเริ่มลงทะเบียนในวันที่ 15 กรกฎาคม-15 สิงหาคม 2559
อย่างไรก็ตามหากใครมาลงทะเบียนไม่ทันก็ต้องรอในปีถัดไป ซึ่งรัฐจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายนของทุกปี
ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยได้ที่ไหนบ้าง
ผู้มีสิทธิ์สามารถลงทะเบียนได้ 3 แห่งคือ
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารกรุงไทย
หลักฐานที่ต้องใช้ในการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย
ใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว
วิธีลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย
การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยมี 2 วิธี
วิธีที่ 1 กรอกแบบลงทะเบียน ณ ธนาคาร ให้ดำเนินการดังนี้
1. ยื่นบัตรประชาชนให้แก่เจ้าหน้าที่ของธนาคาร
2. รับแบบลงทะเบียนจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร แล้วกรอกแบบลงทะเบียนพร้อมทั้งลงลายมือชื่อด้วยตนเอง
3. เจ้าหน้าที่ธนาคารจะให้เอกสาร (เป็นหางตั๋วแผ่นเล็ก ๆ) ให้ผู้ลงทะเบียนเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานการลงทะเบียน
วิธีที่ 2 กรอกแบบลงทะเบียนจากสถานที่อื่น แล้วจึงนำมายื่นที่ธนาคาร ให้ดำเนินการดังนี้
1. ดาวน์โหลดแบบลงทะเบียนจากเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน หรือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
2. กรอกแบบลงทะเบียนพร้อมทั้งลงลายมือชื่อด้วยตนเอง
3. ติดต่อที่สาขาของธนาคาร โดยยื่นบัตรประชาชนพร้อมทั้งแบบลงทะเบียนตามข้อ 2 ให้แก่เจ้าหน้าที่ของธนาคาร
4. เจ้าหน้าที่ธนาคารจะให้เอกสาร (เป็นหางตั๋วแผ่นเล็ก ๆ) ให้ผู้ลงทะเบียนเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานการลงทะเบียน
แบบฟอร์มลงทะเบียนคนจน
สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อกรอกข้อมูลการลงทะเบียนได้ที่นี่
ตรวจสอบรายชื่อผู้มีรายได้น้อยได้ที่กรมสรรพากร
เมื่อลงทะเบียนไปแล้ว กรมสรรพากรจะเป็นผู้จัดเก็บข้อมูลไว้ และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป ผู้ลงทะเบียนสามารถเข้าไปตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร โดยกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองเข้าไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, รัฐบาลไทย
ได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับ "โครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการของรัฐ" หรือที่บางคนอาจเรียกว่า "ลงทะเบียนคนจน" เพื่อที่รัฐจะได้จัดสวัสดิการต่าง ๆ ลงไปให้ถึงมือผู้ที่มีรายได้น้อยตรงกลุ่ม หลังจากพบว่ามาตรการการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน เช่น ใช้ไฟฟ้าฟรี รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี เพื่อช่วยคนจนนั้นไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริง เพราะคนที่มีรายได้ หรือคนรวยก็มาร่วมใช้บริการด้วย
ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 รัฐบาลก็ได้ออกมาตรการมาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนรับสวัสดิการของรัฐไว้แล้ว โดยมอบเงินช่วยเหลือให้ผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี เป็นเงิน 3,000 บาท ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีคนละ 1,500 บาท เริ่มจ่ายเงินในเดือนธันวาคม 2559 ส่วนใครจะได้รับเงินบ้างนั้น สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ เว็บไซต์ของกรมสรรพากร
พอเห็นมาตรการรัฐบาลแจกเงินแบบนี้ หลายคนเลยสงสัยว่าใครที่เข้าข่ายผู้มีรายได้น้อยที่สามารถมาลงทะเบียนคนจนได้ และสามารถลงทะเบียนได้ที่ไหนบ้าง เราจึงนำข้อมูลนี้มาบอกกันอีกครั้ง
ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 2559 ใครมีสิทธิ์บ้าง
สำหรับผู้ที่จะไปลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ต้องตรวจสอบว่าเรามีคุณสมบัติตามนี้หรือไม่
1. มีสัญชาติไทย
2. อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยต้องเกิดก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2541
3. เป็นผู้ว่างงาน หรือมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทในปี 2558
หมายเหตุ : รายได้ หมายถึงรายได้ของบุคคลที่ลงทะเบียนเท่านั้น ในกรณีประกอบอาชีพร่วมกันทั้งครัวเรือน (เช่น ทำการเกษตรร่วมกัน) และไม่สามารถแยกรายได้ออกมาเป็นรายบุคคลได้ ให้ถือว่า รายได้ของครัวเรือนเป็นรายได้ของหัวหน้าครอบครัวแต่เพียงคนเดียว
ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ต้องเปิดเผยข้อมูลอะไรบ้าง
ผู้ลงทะเบียนจะต้องยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับทรัพย์สินและหนี้สินที่มีอยู่ เช่น
- รายได้ (เงินเดือน/เงินฝากธนาคาร/สลากออมทรัพย์/พันธบัตร/หุ้น ฯลฯ)
- การถือครองทรัพย์สิน (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง/รถยนต์/จักรยานยนต์ ฯลฯ)
- หนี้สินคงค้างทั้งหมด (เงินกู้ในระบบ/เงินกู้นอกระบบ/หนี้บัตรเครดิต/หนี้เพื่อการศึกษา/หนี้เพื่อการเกษตรหรือประกอบธุรกิจ/หนี้เพื่อการอุปโภค-บริโภค/หนี้เพื่อซื้อบ้านและที่ดิน ฯลฯ)
ทั้งนี้การเปิดเผยทรัพย์สิน-หนี้สินดังกล่าว เพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลไว้ใช้ทำสวัสดิการที่เหมาะสมต่อไป
เปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย หรือลงทะเบียนคนจน 2559 ถึงวันไหน
โครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการของรัฐ เปิดให้ประชาชนเริ่มลงทะเบียนในวันที่ 15 กรกฎาคม-15 สิงหาคม 2559
อย่างไรก็ตามหากใครมาลงทะเบียนไม่ทันก็ต้องรอในปีถัดไป ซึ่งรัฐจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายนของทุกปี
ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยได้ที่ไหนบ้าง
ผู้มีสิทธิ์สามารถลงทะเบียนได้ 3 แห่งคือ
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารกรุงไทย
หลักฐานที่ต้องใช้ในการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย
ใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว
วิธีลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย
การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยมี 2 วิธี
วิธีที่ 1 กรอกแบบลงทะเบียน ณ ธนาคาร ให้ดำเนินการดังนี้
1. ยื่นบัตรประชาชนให้แก่เจ้าหน้าที่ของธนาคาร
2. รับแบบลงทะเบียนจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร แล้วกรอกแบบลงทะเบียนพร้อมทั้งลงลายมือชื่อด้วยตนเอง
3. เจ้าหน้าที่ธนาคารจะให้เอกสาร (เป็นหางตั๋วแผ่นเล็ก ๆ) ให้ผู้ลงทะเบียนเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานการลงทะเบียน
วิธีที่ 2 กรอกแบบลงทะเบียนจากสถานที่อื่น แล้วจึงนำมายื่นที่ธนาคาร ให้ดำเนินการดังนี้
1. ดาวน์โหลดแบบลงทะเบียนจากเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน หรือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
2. กรอกแบบลงทะเบียนพร้อมทั้งลงลายมือชื่อด้วยตนเอง
3. ติดต่อที่สาขาของธนาคาร โดยยื่นบัตรประชาชนพร้อมทั้งแบบลงทะเบียนตามข้อ 2 ให้แก่เจ้าหน้าที่ของธนาคาร
4. เจ้าหน้าที่ธนาคารจะให้เอกสาร (เป็นหางตั๋วแผ่นเล็ก ๆ) ให้ผู้ลงทะเบียนเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานการลงทะเบียน
แบบฟอร์มลงทะเบียนคนจน
สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อกรอกข้อมูลการลงทะเบียนได้ที่นี่
ตรวจสอบรายชื่อผู้มีรายได้น้อยได้ที่กรมสรรพากร
เมื่อลงทะเบียนไปแล้ว กรมสรรพากรจะเป็นผู้จัดเก็บข้อมูลไว้ และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป ผู้ลงทะเบียนสามารถเข้าไปตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร โดยกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองเข้าไป
ผู้ที่ลงทะเบียนคนจน จะได้รับสิทธิ์อะไรบ้าง
รัฐบาลระบุว่าการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยจะช่วยให้รัฐบาลมีข้อมูลที่ถูกต้องและจะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการจัดสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างเหมาะสมต่อไป
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน
โดยหลังจากปิดรับลงทะเบียนไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2559
ปรากฏว่ามีผู้มาลงทะเบียนกว่า 8.3 ล้านราย
และภายหลังรัฐบาลได้ออกมาตรการมาเพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อยดังนี้
- สำหรับเกษตรกร รัฐบาลได้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. โอนเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรที่ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองเบื้องต้นจากหน่วยงานราชการแล้ว โดยผู้ที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินโอน 3,000 บาทต่อคน และผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินโอน 1,500 บาทต่อคน ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรีออกมาเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน
- สำหรับบุคคลทั่วไป เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มอบเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยใช้หลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินเหมือนกันกับกรณีเกษตรกร คือ ผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีคนละ 3,000 บาท ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีคนละ 1,500 บาท เริ่มจ่ายเงินในเดือนธันวาคม 2559
ทั้งนี้สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีรายได้น้อยได้ที่ เว็บไซต์กรมสรรพากร
- สำหรับเกษตรกร รัฐบาลได้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. โอนเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรที่ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองเบื้องต้นจากหน่วยงานราชการแล้ว โดยผู้ที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินโอน 3,000 บาทต่อคน และผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินโอน 1,500 บาทต่อคน ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรีออกมาเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน
- สำหรับบุคคลทั่วไป เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มอบเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยใช้หลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินเหมือนกันกับกรณีเกษตรกร คือ ผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีคนละ 3,000 บาท ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีคนละ 1,500 บาท เริ่มจ่ายเงินในเดือนธันวาคม 2559
ทั้งนี้สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีรายได้น้อยได้ที่ เว็บไซต์กรมสรรพากร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, รัฐบาลไทย