คนอ้วน กับ เสียงนอนกรนที่ไม่ควรมองข้าม เสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ

คนอ้วน โดยเฉพาะในช่วงอายุ  30-35 ปี มักปัญหาของการนอนกรน เนื่องจากผนังคอหนา เนื้อเยื่อในช่องคอหย่อนตัวขณะนอนหลับ พบประมาณร้อยละ 20 เป็นเพศชาย และร้อยละ 5 เป็นเพศหญิง และอาการนอนกรนจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น

คนอ้วน กับอาการนอนกรน มักเป็นของคู่กัน เชื่อว่าบุคคลรอบข้างของหลายๆ ท่านเป็น หรืออาจจะเกิดกับตัวท่านแล้วก็เป็นได้ ลองถามคนที่นอนอยู่ข้างๆ ดูซิ….  จริงๆ แล้ว เสียงกรน มิใช่แค่เสียงที่ชวนรำคาญ แต่ยังกระทบคุณภาพการนอน เสี่ยงทางเดินหายใจอุดกั้น หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ(Obstructive Sleep Apnea) ได้

สิ่งที่สังเกตได้ว่า ภาวการณ์นอนใน คืนนั้นๆ ของท่านเกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นและหยุดหายใจขณะหลับไปชั่วขณะหรือไม่คือ

  •     รู้สึกว่าตนเองนอนหลับไม่เพียงพอ
  •     ตื่นมาปวดศีรษะในตอนเช้า
  •     คลื่นไส้หรืออาเจียน
  •     ง่วงหลับผิดปกติในเวลากลางวัน
  •     ไม่มีสมาธิในการทำงาน สมาธิสั้น ความจำไม่ดี
  •     รู้สึกอ่อนเพลีย
  •     บางรายสะดุ้งตื่นในตอนกลางคืนเป็นช่วงๆ

ผลกระทบต่อสุขภาพ 

นอนกรน หรือมีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นระหว่างหลับ จะมีอาการแทรกซ้อนและโรคที่พบร่วมได้คือ การง่วงหลับในเวลากลางวันมากผิดปกติ สมองมีความบกพร่องการจดจำ ส่งผลกระทบต่อการทำงาน มีความยากลำบากในการขับรถเพราะต้องการข่มไม่ให้หลับ ผู้ป่วยภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นจึงมักเกิดอุบัติเหตุจราจรได้บ่อยเนื่องจากเคลิ้มหลับ หากไม่ได้รับการรักษาอาจมีผลต่อร่างกายและคุณภาพชีวิตตามมาได้ หรือเพิ่มความเสี่ยงในอนาคตของโรค เช่น ความดันโลหิตสูง การทำงานของหัวใจผิดปกติ ไขมันในเลือดผิดปกติ  และที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือ อันตรายต่อชีวิตได้

ที่มาของ “เสียงกรน” เกิดได้จาก หลายสาเหตุ แต่สาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การกรนก็คือ โรคความดันโลหิต เบาหวาน โรคหัวใจ โรคนอนกรน รวมถึงโรคอ้วน ทั้งนี้เสียงกรนเกิดจากการที่อากาศเคลื่อนตัวผ่านทางเดินหายใจที่แคบลง โดยเฉพาะในคนที่อ้วนหรือมีโครงสร้างของใบหน้าในลักษณะคางสั้น  ส่งผลให้ทางเดินหายใจส่วนต้นบริเวณโคนลิ้นและเพดานปากหย่อนลง และตกลงไปปิดกั้นทางเดินหายใจ  ดังนั้นเสียงกรนจึงเกิดจากการพยายามให้แรงดันอากาศผ่านช่องทางเดินหายใจที่แคบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่านอนหงาย ลักษณะของโคนลิ้นจะตกไปกั้นทางเดินของอากาศที่อยู่ด้านหลังยิ่งขึ้น  ส่งผลสู่ภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นและหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งหมายถึงการไม่มีอากาศไหลผ่านทางเดินหายใจส่วนบน หรือหยุดหายใจได้

การรักษาที่สำคัญที่สุดคือ การควบคุมและลดน้ำหนัก

ร่วมกับการรักษาภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ  (การใช้เครื่องช่วงหายใจแรงดันบวก CPAP สามารถลดอาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นได้เมื่อใช้ต่อเนื่อง)

ทั้งนี้ การควบคุมและลดน้ำหนักที่ปลอดภัย คือ การจัดอาหารและจำกัดพลังงานอย่างเหมาะสม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ขอบคุณที่มา: http://www.paolohospital.com/