ปี 2560 นี้ เราจะเสียภาษีกันน้อยลงอีกนะ รู้ยัง ? โดยนโยบายนี้เริ่มใช้ในปี 2560 ที่ต้องยื่นแบบในปี 2561 ส่วนคนที่กำลังจะยื่นภาษีภายในเดือนมีนาคม 2560 นี้ นั่นเป็นการยื่นแบบภาษีของรายได้ปี 2559 ส่วนปี 2560 นี้ มีอะไรที่ทำให้เราเสียภาษีกันลดลงเท่าไหร่ จ่ายน้อยลงอย่างไร K-Expert ได้รวบรวมข้อมูลมาฝากกันที่นี่เรียบร้อยแล้ว
โดยปกติ รายได้ในทางกฎหมายจะแบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ นั้นจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ เงินได้พึงประเมิน 40(1) ซึ่งเป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน และ 40(2) ซึ่งเป็นเงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้ โดยผู้ที่มีรายได้ 2 กลุ่มนี้ จะสามารถหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้เพิ่มขึ้น จากเดิม 40% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 60,000 บาท เปลี่ยนเป็น สามารถหักได้ 50% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
2. การเพิ่มค่าลดหย่อน
นอกจากค่าใช้จ่ายแบบเหมาแล้ว ทุกคนยังมีรายการค่าลดหย่อนภาษีอื่น ๆ ที่ช่วยให้จ่ายภาษีลดลงได้ ซึ่งในปี 2560 รายการลดหย่อนก็มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น ดังนี้
3. เกณฑ์เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำ
จากการปรับเพิ่มค่าลดหย่อนและการหักค่าใช้จ่าย นอกจากจะขยับฐานเงินเดือนของคนที่ต้องเริ่มเสียภาษีให้สูงขึ้นแล้ว เกณฑ์เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำต่อปีของคนที่ต้องยื่นแบบภาษีนั้นก็สูงขึ้นตามไปด้วย ทั้ง ภ.ง.ด. 90 ซึ่งคือภาษีสำหรับคนที่มีเงินได้หลายทาง เช่น จากการมีทรัพย์สินให้เช่า หรือการลงทุนในหุ้น และ ภ.ง.ด. 91 ซึ่งเป็นภาษีสำหรับคนที่มีรายได้ประจำจากเงินเดือน
คนที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 นั้น ในกรณีผู้ที่มีสถานะโสด เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำต่อปีที่ได้จากแหล่งช่องทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่เงินเดือน จะอยู่ที่ 60,000 บาท แต่ถ้าอยู่ในสถานะสมรส เงินได้ของทั้งคู่รวมกันจะอยู่ที่ 120,000 บาท
สำหรับคนที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 91 ถ้าอยู่ในสถานะโสด จะต้องมีเงินได้พึงประเมินขั้นต่ำต่อปีอยู่ที่ 100,000 บาท ส่วนคนอยู่ในสถานะสมรส เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำต่อปีของทั้ง 2 คนรวมกันจะอยู่ที่ 200,000 บาท
นั่นหมายความว่า ถ้าคำนวณเงินได้แล้ว ไม่ถึงเกณฑ์ดังกล่าว ก็ไม่ต้องยื่นแบบภาษีทั้งภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด. 91 แต่บางคนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องยื่นภาษี แม้ว่าไม่ต้องเสียภาษีก็มีเช่นกัน
ในส่วนของตารางอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน แต่เปลี่ยนเฉพาะฐาน 30% และ 35% แปลว่า คนที่ได้รับผลดีจากอัตราภาษีแบบใหม่ คือคนที่มีรายได้ 4-5 ล้านบาทต่อปี เพราะจากเดิม คนกลุ่มนี้จะอยู่ในฐานภาษี 35% แต่ในปี2560 จะปรับเลื่อนลงมาอยู่ในกลุ่มฐานภาษี 30% ทำให้เสียภาษีน้อยกว่าเดิมไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนคนที่มีรายได้มากกว่า 5 ล้านบาทต่อปี ก็ยังคงอยู่ในฐานภาษี 35% เหมือนเดิม
มาถึงตรงนี้ ทุกคนน่าจะพอคำนวณได้คร่าว ๆ แล้วว่าปีนี้จะหักค่าลดหย่อนต่าง ๆ และค่าใช้จ่ายได้เท่าไหร่ และต้องเสียภาษีกันเท่าไหร่ ซึ่งบางคนอาจจะไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีเลยด้วยซ้ำ ทีนี้คนที่ยังเสียภาษีอยู่ ก็ถึงเวลาวางแผนกันแล้วว่าจะลงทุนเพิ่มเติม เพื่อลดหย่อนภาษีอย่างไรให้ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
K-Expert Action
· ศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของเกณฑ์ภาษีใหม่ ก่อนวางแผนใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม
· ลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี อย่าง LTF/RMF อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
