ผลไม้ชนิดนี้มีประสิทธิภาพมาก ป้องกันท้องอืด เซลลูไลท์ และช่วยกักเก็บน้ำ
สับปะรดมีเปลือกสีส้มค่อนข้างเหลือง มีจุดใบสีเขียวและมีผลขนาดใหญ่
สับปะรดมีเอนไซม์ บรอมีเลน ซึ่งช่วยป้องกันการอักเสบและช่วยย่อยอาหาร
นอกจากนี้ยังช่วยเร่งการเผาผลาญอาหาร
สัปปะรดมีน้ำเยอะ(ประมาณ 90%) มีธาตุเหล็ก
ซึ่งจะสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย
และยังมีโพแทสเซียมที่ช่วยขจัดน้ำส่วนเกิน
สัปปะรด 100 กรัมมีแคลอรี่เพียง 40 แคลอรี่ หากคุณต้องการเก็บสัปปะรดไว้ในตู้เย็นควรพลิกกลับด้านลงเพื่อให้น้ำตาลละลายลงในผลไม้
การกินผสไม้สดมีประโยชน์มาก เพราะมีวิตามินซีสูงซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนที่ให้ความยืดหยุ่นและดีต่อสุขภาพผิว
ในระหว่างการลดน้ำหนัก คุณควรงดชีส เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ เนื้อสัตว์แปรรูป
และ เครื่องดื่มที่ให้พลังงาน คาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้คุณยังต้องดื่มน้ำชา 2
ถ้วย และ น้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ลิตรทุกวัน และควรจำกัดการบริโภคน้ำมันเพียง
2 ช้อนโต๊ะเช่นเดียวกับการใช้เครื่องเทศ น้ำส้มสายชู เกลือ
และคุณควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เป็นที่รู้กันว่าสัปปะรดเหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก
แต่ไม่แนะนำในคนที่เป็นโรคเบาหวาน ลำไส้ใหญ่อักเสบ คนแพ้สารเอนไซม์
และคนที่มีความผิดปรกติของไตและตับ
แองเจลินา แฮนสัน หญิงสาวชาวอังกฤษ ใช้สัปปะรดในการลดน้ำหนัก และ นี้คือผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในการช่วยลดน้ำหนักภายใน 1 สัปดาห์
เราได้ทำตารางลดน้ำหนักประจำวัน ไว้ให้คุณใช้เป็นตัวอย่าง:
อาหารเช้า: น้ำสับปะรด 1 ถ้วย + ชา 1 ถ้วย + กล้วย หรือ ข้าวโอ๊ต หรือ โยเกิร์ตไขมันต่ำ
ของว่าง : น้ำสับปะรด + สลัดผักสด
อาหารกลางวัน : สับปะรด 4 ชิ้น ขนมปังข้าวไรย์ 1 ชิ้น + ปลาอบหรือเนื้อไก่อบ + สลัดผักสด
ของว่าง : น้ำสับปะรด + แอปเปิ้ล 1 ลูก
อาหารเย็น : สับปะรด 2 ชิ้น + ชา 1 ถ้วย ป้องกันการท้องอืดด้วยการเพิ่มข้าวต้ม 50 กรัม
อย่าลืมดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรทุกวัน
เป้าหมายของการรับประทานอาหารเพื่อลดน้ำหนักนี้คือ ช่วยล้างพิษในร่างกายและทำให้น้ำหนักของคุณลดลง
อย่างไรก็ดี คุณควรรวมสับปะรดเข้าไปเป็นอาหารหลักเพื่อลดน้ำหนัก
เพราะมีสารอาหารมากมายช่วยให้คุณลดน้ำหนักในขณะที่มันยังช่วยลดความอยากหวานและทำให้รู้สึกอิ่ม