6 สัญญาณเตือน ชีวิตรักถูกทำลายด้วยเทคโนโลยี

ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกของเทคโนโลยี มีคู่รักทางไกลหลายคู่เลือกใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อกลางที่ใช้ติดต่อสื่อสารถึงกัน แต่ก็มีบางคู่ที่เสพติดเทคโนโลยีมากไปจนละเลยความรู้สึกของกันและกัน อย่าปล่อยให้เหตุการณ์เหล่านี้ต้องเกิดกับคู่ของคุณจนเป็นนิสัย เพราะรักของคุณอาจต้องสะดุดเพราะเทคโนโลยีเป็นเหตุ 

1. กิ๊กออนไลน์

          เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าเราทุกคนสร้างโลกโซเชียลของตัวเองขึ้นมา แต่จะไม่ดีแน่ถ้าคุณเอาความรู้สึกส่วนตัวเข้าไปพัวพันในโลกโซเชียลมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสร้างความสัมพันธ์อย่างลับ ๆ ขึ้นมา เรียกง่าย ๆ ว่ากิ๊กออนไลน์ แน่นอนว่าถ้าคนรักของคุณจับได้ รับรองว่าต้องเกิดเรื่อง และเขาจะไม่มีทางไว้ใจคุณอีกอย่างแน่นอน

 2. เสพติดวิดีโอเกม

          หากคนรักของคุณใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นเกม วัน ๆ ไม่ทำอะไร จะลุกจากโซฟาอีกทีก็ตอนจะไปนอน แน่นอนว่ามันสร้างความสนุกให้คุณก็จริง แต่รู้ไว้เถอะว่า…มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับอีกฝ่ายสุด ๆ ทางที่ดีลองใช้เวลาว่างที่หมดไปกับการเล่นเกมเหล่านั้น ออกไปเดินจูงมือเล่นนอกบ้าน นั่นยังจะทำให้คุณมีช่วงเวลาที่พิเศษกับคนรักมากกว่านั่งเล่นเกมที่บ้านเป็นสิบ ๆ เท่า

 3. บั่นทอนสุขภาพ

          รู้หรือเปล่าว่าการเสพเทคโนโลยีมากเกินไปมีผลกระทบต่อสุขภาพของคุณ เพราะเทคโนโลยีมีผลทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น ประหม่า กลัว ดีใจ เอาเป็นว่าอารมณ์คุณต้องเปลี่ยนแปลงไปกับการเสพสิ่งเหล่านี้แทบจะทุกวินาที เผลอ ๆ คนรักของคุณอาจไม่เข้าใจกับอาการผีเข้าผีออกของคุณก็ได้นะ ลองลดการเสพเทคโนโลยีให้น้อยลง และใช้เท่าที่จำเป็น นั่นก็เพื่อความสัมพันธ์และสุขภาพที่ดีของคุณนั่นเอง

 4. ติดโทรศัพท์มือถืออย่างแรง

          คุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ติดโทรศัพท์มือถืออย่างแรงหรือเปล่า ? ขอเดาว่าแฟนของคุณก็คงจะเป็นด้วยเช่นกัน เอาเข้าจริง มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเลิกใช้โทรศัพท์มือถือในยุคสมัยนี้ แต่เอาเป็นว่าให้รู้จักเลือกเวลาที่จะใช้มันน่าจะโอเคกว่า เป็นต้นว่าเวลาทานข้าวหรือช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ ก็ให้ลองงดการติดต่อชั่วคราว เพื่อใช้เวลาร่วมกันให้มากที่สุด


 5. อย่าทะเลาะผ่านโซเชียล

          คู่รักทุกคู่ย่อมมีเรื่องให้ทะเลาะกันเป็นธรรมดา แต่จะไม่ดีแน่ถ้าคุณใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อกลางที่บอกเล่าเรื่องราวความรู้สึกแย่ ๆ ของคุณให้อีกฝ่ายได้รู้ หากแต่เรื่องของคุณยังไปกระตุ้นต่อมอยากรู้ของชาวบ้านอีกด้วย คราวนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนยากที่คุณสองคนจะมานั่งเคลียร์ปัญหากัน เพราะดันมีคนอื่นที่เข้ามารับรู้เรื่องราวของคุณด้วย

 6. นอนหลับไม่สนิท

          โรคนอนหลับไม่สนิท ถือเป็นผลกระทบข้างเคียงอย่างหนึ่งของการเสพติดเทคโนโลยีที่มากเกินไป ลองสังเกตดูว่าคนที่เป็นโรคนี้จะชอบเช็กโทรศัพท์ก่อนเข้านอนจนติดเป็นนิสัย หลายคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่อย่ามองข้ามโดยเด็ดขาด เพราะมันมีผลกระทบต่อเรื่องบนเตียงที่สามารถทำให้อีกฝ่ายหมดอารมณ์เอาดื้อ ๆ และนำไปสู่จุดจบของความสัมพันธ์มาหลายต่อหลายคู่

          แม้ทุกวันนี้เราจำเป็นต้องใช้ชีวิตท่ามกลางวงล้อมของเทคโนโลยีอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่เราสามารถกำหนดขอบเขตให้เทคโนโลยีเข้ามามีผลกับชีวิตเราได้ ถึงที่สุดแล้วต่อให้โทรศัพท์ของคุณจะมีราคาแพงแสนแพงแค่ไหน มันก็เทียบไม่ได้กับราคาค่าความสัมพันธ์ของคนที่รักและเป็นห่วงคุณ ที่หาซื้อจากที่ไหนไม่ได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

ขอบคุณข้อมูลจาก
womanitely.com และ bennycapricorn.com