แจกสูตรและวิธีทำแกงมัสมั่นเนื้อ หอม เปื่อย มัน ทานกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยลืมอ้วน
สูตรแกงมัสมั่นเนื้อ
มัสมั่นเริ่มมีในไทย...ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยชาวเปอร์เซีย นำเข้ามา ซึ่งเดิมจะมีรสออกเค็มมัน แต่ไทยจะปรุงรสออกหวาน เค็ม เปรี้ยว
สมัยเป็นเด็ก กว่าจะได้กินแกงมัสมั่น ต้องเป็นวันหยุดค่ะ เพราะต้องช่วยแม่ทำ เริ่มจากขูดมะพร้าว โขลกเครื่องแกง เคี่ยวแกงกว่าจะได้ที่ ถ้าจะให้อร่อย หลังจากทำเสร็จต้องทิ้งไว้ให้น้ำแกงเข้าเนื้อดี อย่างน้อย 3 ชม. แล้วค่อยมาอุ่นกิน....แต่ความอร่อย ก็คุ้มค่ากับเวลาค่ะ
ปัจจุบัน การทำสะดวกขึ้น ทั้งกะทิ เครื่องแกงสำเร็จรูป ใช้เวลาปรุงน้อยกว่าเดิมมาก...แต่ความอร่อย....ก็ลดลงมากเช่นกัน ความสะดวกสบายที่เข้ามา ทำให้เด็กรุ่นใหม่ส่วนมาก ไม่รู้จักเครื่องเทศที่นำมาทำเครื่องแกงมัสมั่นกันแล้วค่ะ
2.มันฝรั่ง หรือมันเทศ
3.หอมหัวใหญ่
4.ถั่วลิสงคั่ว
5.กะทิ (ใช้ทั้งหัวและหางกะทิ)
6.เกลือ
7.น้ำปลา
8.น้ำตาลมะพร้าว
9.น้ำมะขามเปียก
10.น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันมะพร้าว
11.เครื่องแกงมัสมั่น
- พริกแห้ง (แกะเม็ดออก แช่น้ำให้นุ่ม)
- หอมแดงเผา
- กระเทียมเผา
- ข่า
- ตะไคร้
* เครื่องเทศที่คั่วรวมกัน
- ยี่หร่า
- ลูกผักชี
- พริกไทย
- อบเชย
- ลูกกระวาน (แกะเม็ดข้างในออกมาคั่ว)
- ลูกจันทน์ (แกะเปลือกแข็งด้านนอกออกก่อน)
- ดอกจันทน์
- กานพลู
* เครื่องเทศที่ใส่ลอยในน้ำแกง
- ใบกระวาน
- ลูกกระวาน(ใส่ทั้งลูก)
* มัสมั่นกินได้กับข้าวสวย หรือโรตี (จัดเป็นอาหารคุ้นชิน)
2.เตรียมเครื่องแกง
- โขลกพริกแห้งกับเกลือ ให้ละเอียด แล้วใส่ข่า ตะไคร้ ลงไปโขลก ตามด้วย หอม กระเทียม โขลกต่อให้ละเอียด แล้วใส่เครื่องเทศที่คั่วรวมกัน ลงไปโขลกให้เข้ากันดี แล้วนำไปผัดกับน้ำมันให้หอม
3.ใส่หัวกะทิ 2 ทัพพีลงไปผัดให้แตกมัน แล้วใส่เครื่องแกงที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้หอม ใส่เนื้อที่เคี่ยวไว้ลงไป ใส่กะทิส่วนที่เหลือ ใบกระวานและลูกกระวาน เคี่ยวให้เดือดอีก 30 นาที หลังจากนั้นใส่มัน หอมหัวใหญ่ ถั่วลิสงคั่ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียก เคี่ยวต่ออีก 30 นาที
...ถึงตอนนี้กลิ่นหอมมาก...เริ่มชวนให้อยากกินแล้วค่ะ ตักใส่ถ้วยกินกับข้าวสวย หรือโรตีก็อร่อยค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบและสูตรอาหารจากคุณ Supaporn Kumnodnae
สูตรแกงมัสมั่นเนื้อ
มัสมั่นเริ่มมีในไทย...ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยชาวเปอร์เซีย นำเข้ามา ซึ่งเดิมจะมีรสออกเค็มมัน แต่ไทยจะปรุงรสออกหวาน เค็ม เปรี้ยว
สมัยเป็นเด็ก กว่าจะได้กินแกงมัสมั่น ต้องเป็นวันหยุดค่ะ เพราะต้องช่วยแม่ทำ เริ่มจากขูดมะพร้าว โขลกเครื่องแกง เคี่ยวแกงกว่าจะได้ที่ ถ้าจะให้อร่อย หลังจากทำเสร็จต้องทิ้งไว้ให้น้ำแกงเข้าเนื้อดี อย่างน้อย 3 ชม. แล้วค่อยมาอุ่นกิน....แต่ความอร่อย ก็คุ้มค่ากับเวลาค่ะ
ปัจจุบัน การทำสะดวกขึ้น ทั้งกะทิ เครื่องแกงสำเร็จรูป ใช้เวลาปรุงน้อยกว่าเดิมมาก...แต่ความอร่อย....ก็ลดลงมากเช่นกัน ความสะดวกสบายที่เข้ามา ทำให้เด็กรุ่นใหม่ส่วนมาก ไม่รู้จักเครื่องเทศที่นำมาทำเครื่องแกงมัสมั่นกันแล้วค่ะ
ส่วนผสมแกงมัสมั่นเนื้อ
1.เนื้อวัว2.มันฝรั่ง หรือมันเทศ
3.หอมหัวใหญ่
4.ถั่วลิสงคั่ว
5.กะทิ (ใช้ทั้งหัวและหางกะทิ)
6.เกลือ
7.น้ำปลา
8.น้ำตาลมะพร้าว
9.น้ำมะขามเปียก
10.น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันมะพร้าว
11.เครื่องแกงมัสมั่น
- พริกแห้ง (แกะเม็ดออก แช่น้ำให้นุ่ม)
- หอมแดงเผา
- กระเทียมเผา
- ข่า
- ตะไคร้
* เครื่องเทศที่คั่วรวมกัน
- ยี่หร่า
- ลูกผักชี
- พริกไทย
- อบเชย
- ลูกกระวาน (แกะเม็ดข้างในออกมาคั่ว)
- ลูกจันทน์ (แกะเปลือกแข็งด้านนอกออกก่อน)
- ดอกจันทน์
- กานพลู
* เครื่องเทศที่ใส่ลอยในน้ำแกง
- ใบกระวาน
- ลูกกระวาน(ใส่ทั้งลูก)
* มัสมั่นกินได้กับข้าวสวย หรือโรตี (จัดเป็นอาหารคุ้นชิน)
วิธีทำแกงมัสมั่นเนื้อ
1.หั่นเนื้อเป็นก้อนสี่เหลี่ยม นำไปเคี่ยวในหางกะทิ ใส่เกลือเล็กน้อย เคี่ยว นาน 45 นาที2.เตรียมเครื่องแกง
- โขลกพริกแห้งกับเกลือ ให้ละเอียด แล้วใส่ข่า ตะไคร้ ลงไปโขลก ตามด้วย หอม กระเทียม โขลกต่อให้ละเอียด แล้วใส่เครื่องเทศที่คั่วรวมกัน ลงไปโขลกให้เข้ากันดี แล้วนำไปผัดกับน้ำมันให้หอม
3.ใส่หัวกะทิ 2 ทัพพีลงไปผัดให้แตกมัน แล้วใส่เครื่องแกงที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้หอม ใส่เนื้อที่เคี่ยวไว้ลงไป ใส่กะทิส่วนที่เหลือ ใบกระวานและลูกกระวาน เคี่ยวให้เดือดอีก 30 นาที หลังจากนั้นใส่มัน หอมหัวใหญ่ ถั่วลิสงคั่ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียก เคี่ยวต่ออีก 30 นาที
...ถึงตอนนี้กลิ่นหอมมาก...เริ่มชวนให้อยากกินแล้วค่ะ ตักใส่ถ้วยกินกับข้าวสวย หรือโรตีก็อร่อยค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบและสูตรอาหารจากคุณ Supaporn Kumnodnae