เดี๋ยวนี้บางครั้งคนเราก็ต้องการที่พึ่งทางใจเพื่อเป็นความหวังทำให้หัวใจชุ่มชื่น แต่อันที่จริงความเชื่อเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะมีกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว อย่างในเรื่องของต้นไม้มงคลก็เช่นกันเพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นความเชื่อที่มีกันมานาน อย่างเช่น ต้นกวักมรกต ที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้นั่นเอง
ถึงแม้ว่าลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน แต่ถ้ามีสองอย่างผสานเข้าด้วยกันก็น่าจะทำให้เกิดความสำเร็จหรือเกิดสิ่งดีๆ กับผู้คนเรานั้นได้ง่ายกว่า อย่างน้อยมันก็เป็นที่พึ่งทางใจที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิตกันมากขึ้น
ดังนั้นการปลูกไม้มงคลจึงกลายเป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้ และต้นกวักมรกตก็เช่นกันที่เราชาวไทยมีความเชื่อกันว่าถ้านำมาปลูกในบริเวณบ้านจะช่วยส่งเสริมการมีโชคลาภ กวักเงินกวักทอง กวักมรกต เข้ามายังบ้านเช่นเดียวกับชื่อของมัน เรียกง่ายๆ ว่าปลูกเอาไว้เพื่อช่วยเรียกทรัพย์นั่นเอง
วิธีการปลูกต้นกวักมรกต
ต้นกวักมรกต เป็นพืชหัวดังนั้นจึงขยายพันธุ์ได้ด้วยการแยกหัว แต่อีกวิธีก็คือสามารถใช้ใบในการปลูกก็ได้ ซึ่งวิธีการก็คือตัดใบให้เหลือก้านเพียงเล็กน้อยแล้วจึงนำไปแช่น้ำเพื่อให้ รากงอกออกมาจึงค่อยนำไปปลูก แต่ถ้าจะนำใบไปปักลงดินเลยก็ได้เช่นกัน แต่การปลูกด้วยใบจะต้องใช้เวลามากกว่าการปลูกด้วยหัวนั่นเอง
ต้นกวักมรกตนิยมนำมาปลูกภายในบริเวณบ้านเพราะถือว่าเป็นไม้มงคลช่วยเรียกทรัพย์
สำหรับการดูแลรักษาต้นกวักมรกตนั้นจะต้องรดน้ำไม่มากนัก ส่วนเรื่องแมลงรบกวนไม่ค่อยพบปัญหาให้ลำบากใจ นอกจากนี้ควรที่จะใช้ปุ๋ยละลายน้ำรดให้มันประมาณเดือนละ 1 ครั้ง และระวังเรื่องโรคหัวเน่าและรากเน่าอันเนื่องมาจากการรดน้ำที่มากเกินไป
ต้นกวักมรกตมีข้อดีก็คือสามารถที่จะนำไปปลูกในพื้นที่ที่มีแสงน้อยอย่างเช่น ปลูกประดับในบ้าน ประดับในออฟฟิต ปลูกในห้องน้ำ ปลูกตามโรงแรม รีสอร์ทต่างๆ หรือที่ใดก็ตามที่มีแสงเพียงเล็กน้อยได้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่ามันเป็นต้นไม้ที่สามารถปลูกได้ในที่ที่มีแดดรำไรหรือ ที่ร่มที่มีแสงเพียงเล็กน้อย
นอกจากนี้มันยังเลี้ยงง่ายเพราะไม่ต้องรดน้ำบ่อยๆ อีกทั้งยังเป็นไม้ประดับที่ช่วยกรองอากาศและดูดสารพิษได้ดี มันจึงเป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ที่สำคัญมันมีความสวยงามเพราะมีใบสวยเป็นมันเงาและมีสีเขียวที่ดูสดชื่น
อีกทั้งถ้ามันออกดอกมันจะแทงช่อออกมาคล้ายดอกเดหลี ต้นไม้ชนิดนี้จึงดูเหมือนมีมนต์เสน่ห์ที่เย้ายวน ดูดี และดูมีราคาจนมันกลายเป็นต้นไม้ที่มีคนปลูกจำนวนมากอย่างเช่นทุกวันนี้นั่นเอง
อ้างอิง : http://miracleoftree.blogspot.com