สูตรน้ำสมุนไพรแบบนี้ ช่วยแก้ร้อนใน ขับเสมหะ แก้ไอแห้งๆ

สูตรน้ำสมุนไพรแบบนี้ ช่วยแก้ร้อนใน ขับเสมหะ แก้ไอแห้งๆ

ต้นว่านกาบหอย ใบสีม่วงอมแดงสดใส หรือที่ชาวจีนแต้จิ๋วเรียกว่า อั่งเต็ก มาปรุงเป็นน้ำสมุนไพรดับร้อน มีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ฟกช้ำได้ และมีรสเย็นชุ่มคอหากนำไปต้มกับน้ำดื่ม หรือนำดอกมาต้มกับหมูสับ กินเป็นแกงจืด ก็จะช่วยขับเสมหะ แก้ไอแห้ง ๆ ได้ดีทีเดียว ถ้าใครกำลังมีอาการร้อนในอยู่ หรืออยากได้เครื่องดื่มดับร้อนสักแก้วไว้ดื่ม ก็ลลองมาดูวิธีทำ น้ำว่านกาบหอยกันทางนี้เลยค่ะ



ส่วนผสม น้ำว่านกาบหอย
1. ใบว่านกาบหอย 15 ใบ
2. ใบเตย 2 ใบ
3. น้ำเปล่า 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
4. น้ำตาลกรวด 50 กรัม
5. น้ำแข็ง



วิธีทำ น้ำว่านกาบหอย
1. เทน้ำใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง
2. ระหว่างรอน้ำเดือด ให้ล้างใบว่านกาบหอยและใบเตยให้สะอาด หั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็ก ๆ
3. พอน้ำเดือดแล้วนำลงต้มในน้ำเดือดประมาณ 10 นาที เติมน้ำตาลกรวดลงไปคนให้ละลาย รอจนเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ ยกลงพักให้เย็น ตักใส่น้ำแข็งดื่ม
หากชอบรสหวานน้อยหรืออยากดื่มแบบไม่ใส่น้ำแข็ง ให้ลดปริมาณน้ำตาลลงได้ตามชอบ
สารานุกรมสมุนไพรไทย-จีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย ระบุข้อบ่งใช้สมุนไพรดังกล่าวว่า “สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอห้ามรับประทาน”


ประโยชน์ของว่านกาบหอย

1. ในประเทศอินเดียและชวาจะใช้ใบอ่อนมาปรุงเป็นอาหาร
2. ใช้ทำน้ำดื่มหรือทำไวน์ โดยวิธีการทำน้ำว่านกาบหอยแครง ให้เตรียมส่วนผสม ดังนี้ ใบว่านกาบหอย 5-15 ใบ, น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย และน้ำสะอาด 2 1/2 ถ้วย ขั้นตอนแรกให้นำว่านกาบหอยแครงสดมาล้างน้ำให้สะอาด โดยแช่ด่างทับทิมประมาณ 10-20 นาที เสร็จแล้วนะมาหั่นตามขวางให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใส่ลงไปในหม้อน้ำเดือน ต้มให้เดือดประมาณ 3-7 นาที แล้วเติมน้ำทรายให้พอหวาน กรองเอาแต่กากออก ก็จะได้น้ำว่านกาบหอยแครงสีชมพูอ่อนดูน่ารับประทาน แล้วให้กรองใส่ขวดนึ่งประมาณ 20-30 นาที เมื่อเย็นแล้วให้เก็บใส่ตู้เย็น เพื่อเก็บไว้ดื่มได้หลายวัน
3. ใบนำมาปิ้งให้แห้ง แล้วบดให้เป็นผงผสมกับน้ำมัน หรือใช้น้ำคั้นจากต้นที่เคี่ยวกับน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา นำมาทาศีรษะจะช่วยทำให้ผมดกดำ และช่วยแก้ผมหงอกก่อนวัยได้ (ต้น,ใบ)
4. ในประเทศอินเดียจะใช้น้ำคั้นจากต้นว่านกาบหอยผสมในหมึกสัก
5. ส่วนในประเทศใช้จะใช้พืชชนิดนี้ร่วมกับผลมะเกลือย้อมผ้า จะทำให้ผ้าสีติดทนดี
6. นิยมใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไปตามสวน สนาม สวนยา ตามโคนต้นไม้ขนาดใหญ่ ปลูกคลุมดิน หรือปลูกใส่กระถางไว้ทำยาตามบ้านเรือน พันธุ์ไม้ชนิดนี้มีอายุหลายปี ไม่ต้องดูแลรักษามาก ใบไม่ค่อยร่วง และออกดอกสวยงามได้ตลอดปี (ส่วนพันธุ์แคระจะไม่ออกดอก)
7. นอกจากจะใช้เป็นยารักษาในคนแล้ว ยังใช้กับสัตว์ได้ด้วย เช่น ถ้าสัตว์เลี้ยงมีบาดแผลเลือดออก ฟกช้ำ ก็ให้ใช้ต้นสดนำมาตำแล้วพอกบริเวณที่เป็น หรือหากวัวปัสสาวะเป็นเลือด ก็ให้ใช้ต้นแห้งร่วมกับผักกาดน้ำ อย่างละประมาณ 60-120 กรัม ต้มกับน้ำให้วัวกิน หรือถ้าวัวถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ก็ให้ใช้ต้นว่านกาบหอยสด ๆ รวมกับพลูคาวสด และก้านบัวหลวงแห้ง อย่างละประมาณ 120-240 กรัม ผสมกับน้ำตาลทรายลงไปต้มให้วัวกิน เป็นต้น


ขอขอบคุณ : cooking.kapookmedthai
เรียบเรียงโดย : Postsod