เพาะเห็ดฟาง งบ 600 บาท ด้วยเห็ดฟางคอนโดในราวตากผ้า เพาะเองที่บ้านได้ง่ายๆ
เรามาดูกันว่าการเพาะเห็ดฟางเองใน งบปประมาณ 600 บาท นั้นต้องเตรียมอะไรบ้าง– ตะกร้าใบละ 20 บาท 6 ใบ = 120 บาท
– ราวตากผ้า 250 บาท ( หรือถ้าใครมีราวตากผ้าเก่าไม่ได้ใช้ก็นำมาใช้ได้ จะช่วยประหยัดงบได้มาก )
– ขุยมะพร้าว 50 บาท ( ได้ประมาณ 1 กิโลกรัม )
– เชื้อเห็ดฟางถุงละ 20 บาท 3 ถุง 60 บาท ( ใช้เพาะเห็ดฟางได้ 6 ตะกร้าพอดี )
– แป้งข้าวจ้าว 1 ถุง 20 บาท
– อาหารเสริมเชื้อเห็ด เช่น ผักบุ้ง ผักตบชวา หยวกกล้วย ( วัสดุท้องถิ่น หาได้ในพื้นที่ )
– ฟางข้าว ( วัสดุท้องถิ่น หาได้ในพื้นที่ )
– ปุ๋ยหมุก 1 ถุง 50 บาท ( ถุงใหญ่มาก )
– ถุงดำพลาสติกถุงใหญ่ 50 บาท
วิธีเพาะเห็ดฟาง
1. นำฟางข้าวมาแช่น้ำไว้ 1 คืน เพราะในฟางข้าวถูกฉีดพ่นด้วยสารกำจัดเชื้อรา อาจทำให้เห็ดไม่งอก จึงต้องแช่น้ำไว้เพื่อล้างออก2. นำอาหารเสริมเชื้อเห็ดมาหั่นเป็นชิ้นๆ โดยใช้อะไรก็ได้ ผักตบชวะ ต้นกล้วย หยวกกล้วย ผักบุ้ง ได้หมด
3. นำขุยมะพร้าวมาผสมเข้ากับปุ๋ยคอก สัดส่วน ขุยมะพร้าว 4 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน แล้วใส่น้ำเข้าไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความชื้น
4.นำก้อนเชื้อเห็ดมาผสมกับแป้งข้าวจ้าว โดยโรยแป้งข้าวจ้าวเล็กน้อย ประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ ต่อ ก้อนเชื้อเห็ด 1 ก้อน
5. นำฟางข้าวมาปิดรองไว้ที่ก้นตะกร้า แล้วนำขุยมะพร้าวที่ผสมไว้มาปิดฟางข้าวอีกที กดให้ยุบลงนิดหน่อยไม่ต้องแน่นมาก
6. ชั้นต่อมาโรยด้วยอาหารเสริม พวกผักที่หั่นเป็นท่อนเตรียมไว้ โดยให้โรยชิดขอบตะกร้า เพราะเวลาเห็ดออกดอก จะออกดอกบริเวณขอบตะกร้า
7. จากนั้นโรยเชื้อเห็ดฟางที่ผสมแป้งข้าวจ้าวแล้วทับบนอาหารเสริมอีกที โดยโรยแค่บริเวณขอบตะกร้าเช่นกัน เป็นอันว่าเสร็จไปแล้วแบบนี้นับเป็น 1 ชั้น
8. ต่อมาก็ปิดทับชั้นแรกด้วยฟางข้าวแล้วตามด้วยขุยมะพร้าว อาหารเชื้อเห็ด แล้วก็หัวเชื้อเห็ดฟาง ทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ประมาณ 3-4 ชั้น จะเต็มตะกร้าพอดี
9. ชั้นบนสุดไม่ต้องปิดทับด้วยขุยมะพร้าว แต่ให้เน้นโรยอาหารเสริมเชื้อเห็ด และ หัวเชื้อเห็ดฟางเยอะๆหน่อยๆ เพราะเป็นชั้นที่จะออกดอกเห็ดเยอะสุด แล้วปิดทับด้วยฟางข้าวบางๆ เพื่อรักษาความชื้น
10. เสร็จแล้วจะได้ตะกร้าลักษณะแบบนี้ เรียงอัดกันเป็นชั้นๆ
11. นำราวตากผ้ามา หาไม้เก่าๆที่ไม่ได้ใช้มาวางขวงาราวตากผ้า ทำเป็นชั้นวางแล้วนำตะกร้าไปวางซ้อนไว้ ( การเพาะแบบนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก ราวตากผ้า 1 อัน สามารถเพาะได้ถึง 6 ตะกร้าเลยทีเดียว )
12. รดน้ำใส่ตะกร้าเห็ดสักหน่อยเพื่อให้เกิดความชื้น แล้วนำถุงพลาสติกดำใหญ่มาคลุมปิด ( ถ้าไม่มีถุงพลาสติกใหญ่ ให้นำถุงพลาสติก หรือ ถุงขยะสีดำเล็กๆมาตัดแล้วแผ่ออก นำมาต่อกันและปิดทับด้วยเทปกาว ก็จะได้ถุงคลุมสีดำขนาดใหญ่เหมือนกัน )
13. ผ่านไป 3 วัน ให้เปิดถุงดำออก จะเห็นว่าเชื้อเห็ดเริ่มเติบโตขึ้นเป็นก้อนเล็กน้อย ให้เปิดถุงดำปล่อยทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง เพื่อให้อากาศถ่ายเทเป็นการกระตุ้นการสร้างดอกเห็ด ถ้ารู้สึกว่าตะกร้าแห้งเกินไปก็รดน้ำเล็กน้อย แล้วคลุมถุงดำต่อ
14. ผ่าไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ จะเริ่มเกิดดอกเห็ด ( ขึ้นอยู่สภาพอากาศ และ อุณหภูมิ ในฤดูร้อน อากาศจะร้อนชื้น เห็ดฟางใช้เวลาเพาะประมาณ 7 วัน ส่วนในฤดูหนาวอากาศแห้งจะต้องใช้เวลาเพาะนาน 12-14 วัน )
เพียงเท่านี้ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว โดยเห็ดฟาง 1 ตะกร้าสามารถให้ผลผลิตได้มากถึง 1 กิโลกรัม/1 ตะกร้า เลยทีเดียว โดยราคาขายอยู่ที่ กิโลกรัมละ 80 – 100 บาท เท่ากับว่าเพาะแค่ 1 ครั้ง 6 ตะกร้า สามารถสร้างรายได้สูงสุดถึง 600 บาท นับว่าเป็นอีก 1 อาชีพเสริมที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะแค่ครั้งแรกก็สามารถคืนทุนค่าอุปกรณ์ได้แล้ว ส่วนครั้งต่อไปก็ลงทุนซื้อแค่เชื้อเห็ดฟาง กับ อาหารเสริม
เพาะเห็ดอาจจะไม่ยากเท่าไรจริงไหนครับ แต่ที่สำคัญคือการทำการตลาด ถ้าเพาะได้แต่ขายไม่ได้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ตัวอย่างนี้แนะนำว่าเมื่อเพาะเสร็จก็นำไปเสนอขายตามร้านอาหาร แต่ขายให้ในราคาถูกกว่าตลาดสักเล็กน้อย เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า มีบริการไปส่งถึงที่ ปลูกแล้วส่งให้ทันตามกำหนดการ เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างเป็นอาชีพเสริม เพื่อหารายได้เสริมได้อีกทางแล้วครับ