อย่างที่รู้ ๆ
กันว่ากาแฟช่วยให้ตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า
เพราะมีคาเฟอีนที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นการทำงานของสมอง ขยายหลอดลม
และขับปัสสาวะ ดังนั้นปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับจึงมีผลกับร่างกายโดยตรง
ปริมาณที่เหมาะคือไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน คือกาแฟกี่แก้ว หากเป็นกาแฟคั่วบดแบบเอสเปรสโซ 1 ช็อต (Espresso 1 shot) จะมีคาเฟอีนประมาณ 115 มิลลิกรัม และไม่ว่าจะเป็นลาเต้ คาปูชิโน่ หรืออะไรก็ตามปริมาณกาแฟและคาเฟอีนก็เท่ากัน เพราะที่ต่างกันคือปริมาณน้ำ นม และสารให้ความหวานอื่น ๆ แต่หากเป็นกาแฟผงหรือกาแฟสำเร็จรูป 1-1.5 ช้อนชา จะมีคาเฟอีนประมาณ 22-87 มิลลิกรัมขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมมีผลต่อร่างกายโดยตรง แล้วกาแฟที่คุณดื่มเข้าไปในแต่ละวันมีผลกับร่างกายคุณอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ใช่ปริมาณการดื่มกาแฟต่อวัน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาและน่ากลัวที่สุดก็คือ ปริมาณน้ำตาลทราย น้ำตาลเทียม นมข้น และครีมเทียมมากกว่า สิ่งเหล่านี้มีผลเสียต่อร่างกายยิ่งกว่ากาแฟเสียอีก เพราะฉะนั้นการดื่มกาแฟที่อันตรายก็คือกาแฟที่ผสมโน่นผสมนี่ เพราะลำพังกาแฟผสมน้ำไม่ได้มีผลเสียกับสุขภาพร่างกายเท่าไหร่เลย
คุณเป็นคนชอบดื่มกาแฟทุกวันหรือเปล่า ถ้าใช่นี้คือ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณ
หลายคนตั้งคำถามว่าควรดื่มกาแฟวันละกี่แก้ว จึงจะปลอดภัยและเหมาะสมกับร่างกาย แต่จำนวนแก้วไม่ได้มีผลโดยตรงเท่ากับจำนวนของคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟ ซึ่งร่างกายควรจะได้รับคาเฟอีนวันละไม่เกิน 200 มิลลิกรัม เพื่อที่สมองจะได้ไม่ถูกกระตุ้นมากเกินไป เพราะหากได้รับปริมาณคาเฟอีนมากเกินไป ก็เป็นเหตุให้ใจสั่น มือสั่น นอนไม่หลับ หงุดหงิด กระวนกระวาย ปวดศรีษะ และบางคนท้องเสียได้ ทีนี้ปริมาณที่เหมาะคือไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน คือกาแฟกี่แก้ว หากเป็นกาแฟคั่วบดแบบเอสเปรสโซ 1 ช็อต (Espresso 1 shot) จะมีคาเฟอีนประมาณ 115 มิลลิกรัม และไม่ว่าจะเป็นลาเต้ คาปูชิโน่ หรืออะไรก็ตามปริมาณกาแฟและคาเฟอีนก็เท่ากัน เพราะที่ต่างกันคือปริมาณน้ำ นม และสารให้ความหวานอื่น ๆ แต่หากเป็นกาแฟผงหรือกาแฟสำเร็จรูป 1-1.5 ช้อนชา จะมีคาเฟอีนประมาณ 22-87 มิลลิกรัมขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมมีผลต่อร่างกายโดยตรง แล้วกาแฟที่คุณดื่มเข้าไปในแต่ละวันมีผลกับร่างกายคุณอย่างไร
1. ผลดีต่อผิวพรรณ
ใครจะคิดว่ากาแฟจะมีผลดีต่อผิวได้ อย่าลืมว่ากาแฟช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้คล่อง ช่วยให้อวัยวะย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อผิวพรรณโดยตรง2. ลดโอกาสการเป็นมะเร็งและโรคอื่น ๆ
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันได้ว่าการดื่มกาแฟสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งตับได้ เนื่องจากคาเฟอีนจะไปช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์ผิดปกติ และกำจัดสารพิษที่ร่างกายได้รับออกไปได้ในระดับหนึ่ง และที่สำคัญยังลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเบาหวานได้อีกด้วย3. อารมณ์ดี และความจำดีขึ้น
ประโยชน์ของคาเฟอีนอย่างหนึ่งคือช่วยกระตุ้นสมองให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้นโดยตรง แถมยังมีสมาธิดี และจิตใจสงบขึ้น และเพราะการมีสมาธิดีก็ส่งผลให้ความจำดีขึ้นด้วย แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมด้วย4. สมรรถภาพร่างกายดีขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟทุกวัน คนที่ดื่มกาแฟทุกวันจะมีสมรรถภาพร่างกายที่ดีกว่า คล่องแคล่วและมีการเคลื่อนไหวที่ดีกว่า เนื่องจากคาเฟอีนไปช่วยกระตุ้นหลอดเลือด ส่งผลให้สามารถใช้แรงหรือออกกำลังกายได้ดีขึ้น เช่น ขี่จักรยาน การว่ายน้ำ และเล่นกีฬาได้นานขึ้น5. ท้องไม่ผูกและระบบย่อยดีขึ้น
กาแฟสามารถช่วยย่อยอาหาร คาเฟอีนมีส่วนช่วยในการแยกจับไขมัน ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบกินอาหารประเภทเนื้อ หลังกินอาหารประเภทเนื้อแล้ว ดื่มกาแฟแก้วหนึ่งจะช่วยย่อยอาหาร ลดภาระการทำงานของกระเพาะ นอกจากนี้ ปริมาณใยอาหารในกาแฟมากกว่าน้ำส้ม ซึ่งสามารถกระตุ้นลำไส้ให้เคลื่อนตัวขยับเขยื่อน ฉะนั้นการดื่มกาแฟสามารถแก้ท้องผูกได้อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ใช่ปริมาณการดื่มกาแฟต่อวัน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาและน่ากลัวที่สุดก็คือ ปริมาณน้ำตาลทราย น้ำตาลเทียม นมข้น และครีมเทียมมากกว่า สิ่งเหล่านี้มีผลเสียต่อร่างกายยิ่งกว่ากาแฟเสียอีก เพราะฉะนั้นการดื่มกาแฟที่อันตรายก็คือกาแฟที่ผสมโน่นผสมนี่ เพราะลำพังกาแฟผสมน้ำไม่ได้มีผลเสียกับสุขภาพร่างกายเท่าไหร่เลย