เตรียมรับมือฝนถล่ม กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่ม 30 จังหวัด เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุฯ เตือนถล่ม 30 จังหวัดทั่วไทย มีลมกระโชกแรง ซัดภาคใต้อ่วม เสี่ยงท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรุงเทพฯไม่รอดตกหนักร้อยละ 30
     
กรมอุตุฯ / เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีลมกระโชกแรง ขอให้เกษตรกรบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังความเสียหายจากผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
   
  สำหรับภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
    
 ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีลมกระโชกแรง ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

   
  พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันนี้ ถึงเวลา 06.00 ของวันที่ 9 ธ.ค.นี้ 
    
ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้าโดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดอุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    
 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้าโดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีอุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
     
ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี และสมุทรสงคราม อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


      
ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
     
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส
    
 ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
     
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

     
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
     
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ขอขอบคุณที่มาจาก : กรมอุตุฯ