คติธรรม คำสอน หลวงปู่เจี๊ยะ พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง

หลวงปู่เจี๊ยะ พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง ๒๓ จาก หนังสือ ประวัติ พระครูสุทธิธรรมรังษี หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อำเภอสามโคก จังหวัดประทุมธานี

คติธรรม คำสอน หลวงปู่เจี๊ยะ

วันนี้นายข้าวต้มได้นำคติธรรม คำสอน ของหลวงปู่เจี๊ยะ พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทองมาฝาก…

คติธรรม/กรรม/อาพาธ

แต่ก่อนมีค่าเป็นร้อยเป็นชั่ง…ในปัจฉิมวัย ไม่ว่าในคราใดท่านประสบอาพาธหนัก นอนเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง ท่านไม่แสดงความหวั่นไหว บ่งบอกความแข็งแกร่งนิสัยอาชาไนย อีกทั้งยังแสดงธรรมสอนลูกศิษย์ที่ไปเยี่ยมด้วยการเอาร่างกายของท่านเป็นเครื่องเปรียบเสมอว่า

“ตอนเป็นหนุ่มเป็นสาว มีค่าเป็นร้อยเป็นชั่ง พอเดี๋ยวนี้ ๕๐ สตางค์ก็ไม่มีใครเอา”

บางครั้งท่านก็จะเล่าเรื่องในอดีตที่เกี่ยวโยงมาถึงปัจจุบันให้ผู้อุปัฎฐากดูแลฟัง บางทีก็เป็นขำขันเป็นนิทาน เป็นธรรมะชั้นสูง หรือบอกเป็นนัย ๆ วันนี้จะมีใครมา ถ้าสังเกตและพิจารณาตามนั้นจะเป็นจริงทุกเรื่อง

กรรมที่เคยฆ่าหมา

ท่านเล่าถึงสาเหตุที่ต้องได้ทำการผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท นอนแกร่วเป็นอัมพาตนี้ว่า ตอนเป็นหนุ่ม เราเลี้ยงหมูไว้แยะ ต้มข้าวเอาไปวางให้หมู หมามันมากินหมด โมโหจัดจึงเอาไม้คานเจ็กตีหมาโป้งเดียวจอดสลบ ด้วยความที่โกรธจัด แม้หมาตัวนั้นจะนอนแน่นิ่งเหมือนตายแล้ว ก็คงเอาไม้คานตีกระหน่ำอยู่อย่างนั้น ตีจนกระทั่งมันฟื้นขึ้นมาอีก ฟื้นขึ้นมาอีกตีซ้ำลงอีกแบบทารุณไร้เมตตาธรรม คราวนี้หมามันชักตาย…เสร็จเลย กรรมอันนี้แหละ เป็นกรรมในปัจจุบันชาติที่เราต้องชดใช้”

กรรมรีดลูกปลา

และที่เรามีอาการชาและแบบที่ผิวหนังรอบทวารหนัก ไม่สามารถนั่งตัวตรงเป็นเวลานานๆ ได้นั้น ก็เป็นกรรมในปัจจุบันซาติเช่นเดียวกัน คือ ตอนหนุ่ม ๆ เราชอบเลี้ยงปลาเข็ม ปลาหัวเงิน ตามประสาเด็กรุ่นๆ ทำสนุกสนาน เวลาปลาหัวเงินปลาเข็มมันท้องแก่ แต่ยังไม่ถึงเวลาคลอดลูก เราชอบรีดท้อง รีดเอาลูกมันออกมาก่อนเวลา เอามาเลี้ยง มันทันใจดี เมื่อรีดเอาลูกมันออก แม่มันก็ตาย ด้วยผลกรรมคือรีดลูกจากท้องปลาที่เผ็ดร้อนทารุณนี้ จึงเป็นกรรมที่ทำให้เราก้นชาและแสบทวารอยู่ไม่หาย

ไม่เป็นไร ตายแล้วต่างคนต่างไป

ในบางวันมีผู้คนมากราบมากจนอลหม่าน อย่างเช่นวันคล้ายวันเกิด จะมีทั้งพระและฆราวาสมาจากทุกสารทิศ ผู้อุปัฏฐากใกล้ชิดจำเป็นต้องห้ามต้องกันผู้คนทั้งที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคย ไม่ให้เข้ากราบ ปิดประตูห้อง บางคนก็บ่นหาว่ากีดกันไปต่าง ๆ นานา ผู้ที่เฝ้าอย่างใกล้ชิดก็รู้สึกกดดัน เครียดอยู่ไม่น้อย เมื่อกราบเรียนถามท่าน ท่านก็ตอบสั้น ว่า “ไม่เป็นไร ตายแล้วต่างคนต่างไป” คำสอนท่านเพียงสั้น ๆ นี้ทำให้ผู้ดูแลคลายทุกข์กังวลไปได้เลย

คาถาหลวงปู่เจี๊ยะ

วันไหนท่านปวดที่ขา ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวหรือเจ็บปวดในที่อื่นใดก็ตาม ท่านก็จะให้ผู้ที่ดูแลท่องคาถาเป่าให้ท่าน ท่านบอกว่าเป็นคาถาดี โดยให้ท่องว่า

“นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา”

“ขอความนอบน้อมจงมีแก่ท่านผู้หลุดพ้นทั้งหลาย

ความนอบน้อมจงมีแก่ธรรมเป็นเครื่องหลุดพ้นทั้งทลาย”

คติธรรม คำสอน หลวงปู่เจี๊ยะ

หัวล้านจริง ๆ

บางวันท่านพูดตลกขำขันจนผู้คนที่มาเข้ากราบเฮตึง ๆ วันนั้นร่างกายท่านสดใสแข็งแรงขึ้นบ้างตามสภาพ มีคนขอให้ท่านจับหัวให้เป็นศิริมงคล

คนแรกผู้ชายผมยาว ๆ ท่านก็เคาะ ๆ คนที่สองผมเกรียนๆ ท่านก็เคาะ ๆ คนที่สามเป็นคนหัวล้าน หัวล้านเอามาก ๆ ท่านเคาะ ๆ แล้วลูบ ๆ คลำๆ ที่ศีรษะแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงดัง ๆ ทั้ง ๆ ที่ป่วยนอนอยู่บนเตียง ให้พรโยมหัวล้านคนนั้นว่า “หัวล้านหัวเหลือง หัวละเฟื้องสองไพ หัวล้านจริง ๆ ผู้หญิงชอบใจ”

คนที่นั่งอยู่เต็มบริเวณหัวเราะกันเฮ ๆ ด้วยว่าในวันนั้นอากาศมันร้อนอบอ้าว คนที่มากราบ เหงื่อไหลไคลย้อยไปตาม ๆ กัน ภายในจิตในใจของแต่ละคนคงบ่นๆ ถึงดินฟ้าอากาศ

ท่านจึงพูดขึ้นอีกว่า “มนุษย์ขี้เหม็น เคี่ยวเข็ญเทวดา ฝนตกก็แช่ง ฝนแล้งก็ด่า”

หนาวใจทำอย่างไร?

พอตกยามค่ำคืน แอร์ที่ห้องพยาบาลมันหนาว ท่านจะบอกธุระที่อุปัฏฐากบ่อย ๆ ว่าหนาวเว้ยๆ แล้วท่านก็พูดเป็นกลอนว่า “หนาวลมห่มผ้า หนาวฟ้าผิงไฟ” แล้วพระรูปหนึ่งก็พูดเล่นกับท่านแก้เครียดว่า

“ถ้าหนาวหัวใจละปู่”

“หนาวหัวใจ ต้องไปแม่สอด”

พระรูปนั้นอายม้วนหน้าแดง เพราะตัวท่านเองไปเที่ยวภาวนาทางภาคเหนือเคยแอบชอบสาวมูเซอ กะเหรี่ยง เกือบเอาตัวไม่รอด เกือบจะได้ถอดผ้าเหลืองทิ้งเป็นลูกเขยกะเหรี่ยงมาแล้ว

พูดตรง ๆ

หลวงปู่ท่านเป็นพระที่พูดตรง ๆ ตรงจนบางครั้งตลกขำกลิ้งไปเลยก็มี อย่างเช่นเวลาเข้าห้องน้ำปวดท้องอึ ท่านจะอึออกยากมาก ต้องเบ่งเป็นเวลานาน ๆ เวลาท่านอึที่ห้องน้ำ พระจะช่วยให้ท่านขับถ่ายง่ายขึ้น พระจะพยามยามพูดว่า “เบ่ง อืดดดด์ ๆ ๆ ๆ ออก ๆ” ตามจังหวะกลั้นลมหายใจยาว ๆ เมื่อพระพูดมากเข้า ท่านจึงพูดสวนขึ้นทันที

“มึงเบ่งทำไมวะ มึงไม่ได้ขี้ กูเป็นคนขี้ เดี๋ยวกูเบ่งเอง กูขี้เอง มึงเบ่งแล้วกูจะขี้ออกหรือ?”

พระทั้งหลายที่อยู่ในห้องน้ำสุดที่จะกลั้นหัวเราะไว้ได้

รักสัตว์

หลวงปู่เจี๊ยะชอบเลี้ยงหมาไทยหลังอาน
สมัยก่อนที่ท่านจะอาพาธ ทานชอบเลี้ยงแมวกับหมา ท่านพูดกับแมวกับหมาเหมือนพูดกับคน บางทีท่านฉันข้าวไปด้วยป้อนข้าวแมวไปด้วย ท่านมีเมตตาเป็นสาธารณะจริง ๆ “มึงไปเที่ยวสาวไกล ๆ ระวังเถอะจะตาย” ท่านพูดกับหมาหลังอานของท่าน แล้วท่านก็พูดสั่งสอนตักเตือนต่าง ๆ เหมือนพูดกับคน

วันหนึ่งท่านสั่งให้พระจับหมาขังกรงไว้ ไม่ปล่อยให้มันไปเที่ยวไหน ๆ พระสงสารเห็นหมามันร้องเอ๋ง ๆ ก็ปล่อยออกไป พอปล่อยออกไปมันก็ไปเที่ยวหาตัวเมีย เขาก็เอามีดฟันคอมันตาย พวกพระจึงถึงบางอ้อว่า ที่ท่านขังไว้ไม่ปล่อยไปเพราะท่านรู้ว่าถ้าปล่อยไป เขาจะฆ่ามันตาย

เมียขโมย

แม้โยมผู้ชายที่มาดูแลท่านทุกวัน เขาซื้อรถใหม่จะมากราบเรียนท่าน พอเดินเข้าไปในห้อง ท่านถามทันทีว่าซื้อรถใหม่เหรอ ทำให้เขาเชื่อในวาระจิตของท่านเป็นอย่างยิ่ง แล้วท่านก็ถามโยมผู้ชายคนเดิมว่า

“เมียที่บ้าน เมียแต่งหรือเมียขโมย”

“เมียขโมยครับปู่”

เขาตอบพร้อมทั้งเสียงหัวเราะและอัศจรรย์ใจ เพราะความลับอันนี้เขาไม่เคยบอกใคร เพราะเมียคนนี้พาขโมยหนีหอบผ้าหอบผ่อนตามกันมาเป็นเวลา ๓๐-๔๐ ปีแล้วไม่เคยปริปากบอกใคร แต่ทำไมทำไมหลวงปู่จึงรู้ได้ หรือในบางครั้งท่านสอนอยู่บนเตียง ท่านก็จะพูดไปตามธรรมดาว่าวันนี้ คนนั้นจะมา คนนี้จะมา เมื่อถึงเวลาจริง ๆ คนที่ท่านพูดถึงก็มากราบท่านในวันที่ระบุจริง ๆ

ด้ามขวานมีเท่าไหร่กลึงให้ฟรีหมด

โยมคนหนึ่งมีโรงกลึงไม้อยู่แถวหัวลำโพง เมื่องานวันเกิดหลวงปู่ใกล้มาถึง พระจะนำไม้ไปจ้างกลึงด้ามขวานเพื่อแจกในงานทีละเยอะ ๆ แกเห็นพระเณรทำขวานเยอะ ๆ ก็เกิดความสงสัยว่า พระวัดนี้มันจะไปสู้รบออกศึกที่ไหน ถึงทำแต่ของมีคม แกจึงเดินทางมากราบหลวงปู่

แกมากราบก็ไม่ได้เกิดศรัทธาเลื่อมใสอะไรมากมาย ก็เหมือน ๆ กับกราบพระทั่ว ๆ ไป พระอาจารย์เขียว (พระอุปัฏฐาก) ให้เส้นเกศาพลวงปู่ไปเป็นที่ระลึก แกเอาไปก็เอาไปไว้หิ้งพระ

คติธรรม คำสอน หลวงปู่เจี๊ยะ

วันหนึ่งแกทำความสะอาดหิ้งพระ จึงเอามาเปิดดูปรากฏว่า เส้นเกศาได้รวมตัวเป็นก้อนกลายเป็นพระธาตุที่สวยงาม ตั้งแต่นั้นมาการงานเข้ามาจนทำไม่หวาดไม่ไหว สิ่งดี ๆ อะไร ๆ ตามมาหมด แกเกิดศรัทธาเลื่อมใสอย่างมากเมื่อพระไปติดต่อกลึงด้ามขวานเป็นจำนวนมากเพื่อใช้แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ เขาบอกว่า สำหรับหลวงปู่เจี๊ยะแล้วมีเท่าไหร่เอามาเลย ไม้ที่นี่มีเท่าไหร่ให้หมดเลย งานอื่นไม่ต้องทำ ทำงานนี้งานเดียว งานพระอรหันต์อย่างนี้หาที่ไหนไม่มีอีกแล้ว (เขาพูดได้เยี่ยมจริงๆ)

คติธรรมคำสอน หลวงปู่เจี๊ยะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ประตูสู่ธรรม