“รักตัวเองให้เป็น” ถ้าเธอไม่รักตัวเอง เธอจะรักใครไม่ได้ในโลกนี้

เธอจง “รักตัวเองให้เป็น” ถ้าเธอไม่รักตัวเอง เธอจะรักใครไม่ได้ในโลกนี้ 

เป็นอีกหนึ่งบทความที่ให้ข้อคิดดีๆ จากรายการ “กระจกหกด้าน” สารคดีที่ยืนหยัดคู่ทีวีไทยมากว่า 32 ปี ชีวิตของเธอโลดแล่นบนเส้นทางอาชีพ “สื่อ” มายาวนาน ผ่านการเก็บเกี่ยวสะสมประสบการณ์ตั้งแต่ยังเด็ก

เธอจง ‘รักตัวเองให้เป็น’ ถ้าเธอไม่รักตัวเอง เธอจะรักใครไม่ได้ในโลกนี้ สุชาดี มณีวงศ์ (อายุ 71 ปี) ผู้ก่อตั้งรายการสารคดีโทรทัศน์ กระจกหกด้าน และเจ้าของเพจไชโย…โอป้า กรรมการผู้จัดการบริษัท ทริลเลี่ยนส์ แอนด์ ทรีไลอ้อนส์ จำกัด

1. ที่บอกว่าเรายังมีไฟในการทำงานอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะว่าเราทำตัวให้ไม่แก่

เราอยากมีชีวิตอยู่อย่างแข็งแรง เพราะฉะนั้น ก็จะดูแลตัวเองทุกอย่าง กำหนดอาหาร กินวิตามิน พักผ่อนมากๆ ตรวจร่างกายเสมอ และที่สำคัญคือ ‘ไม่โกรธ’ เลย

2. เมื่อก่อนเป็นคนที่ใจร้อนมาก ทุ่มเป็นทุ่ม เขวี้ยงเป็นเขวี้ยง

เพราะเราทำงานสื่อ มีลูกน้องผู้ชายเยอะ ถ้าเราไม่เด็ดขาด ลูกน้องก็จะไม่เกรงใจ แต่เดี๋ยวนี้ก็ปรับตัว สืบเนื่องมาจากการรักตัวเอง กังวลเรื่องสุขภาพตัวเอง เริ่มละวาง ธรรมะก็มีส่วน ตั้งแต่อายุสามสิบกว่าๆ ก็นั่งสมาธิภาวนา รักษาศีล และทำทาน

3. เราเพิ่งจะฝึกตัวเองให้ไม่โกรธเลยได้สักสองปี ไม่มีความโกรธเลย

สมัยก่อนมีปัญหากับตำรวจ กับทหาร บอกเลยไม่กลัวหรอก แต่เจอครูบาอาจารย์ดี ท่านก็สอนว่าอย่าถืออัตตา อย่ายึดมั่นถือมั่น ก็เริ่มลดทุกอย่างลง ข้อดีของการไม่โกรธคือทำให้เราสบายใจ

4. สิ่งที่น่าห่วงสำหรับเด็กยุคนี้คือ สังคมหมุนไปเร็วเหลือเกิน

บางครั้งเขาก็รับเทคโนโลยีใหม่ๆ กระแสวัฒนธรรมใหม่ๆ โดยไม่กลั่นไม่กรอง เขาดูทุกอย่างด้วยความรวดเร็วและไม่มีภูมิต้านทาน เพราะฉะนั้น น้อยรายที่เอาตัวรอด และควบคุมตัวเองได้ เพราะเวลาที่อยู่ในสังคม ถ้าเราควบคุมตัวเองไม่ได้ เราจะไปใหญ่โตในโลกนี้ได้อย่างไร

5. การดูสิ่งใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องผิด ดูไปเถอะ

ถ้ามีภูมิต้านทาน เมื่อตัวเองมีภูมิต้านทานก็จะรู้ว่าอันนี้ถูก อันนี้ไม่ถูก ทุกวันนี้เราเองก็ยังให้วัคซีนตัวเองตลอดเวลา ในทางโลกเราก็ต้องฉีดวัคซีนหวัด อย่างตอนที่ระบาด เราเองก็แค่แสบๆ คันๆ คอ แล้ววัคซีนของใจเราเองล่ะ ทาน ศีล ภาวนา เราต้องมีให้กับตัวเอง

6. การจะสอนคนมี 2 แบบ

หนึ่ง สอนปาวๆ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

สอง เราทำให้เขาดู แบบนี้มันซาบซึ้งกว่ากัน

สมัยเราสูบบุหรี่ ลูกหัดสูบตาม เราก็ไม่ต้องไปว่าเขา แต่พอเราเลิก เขาก็เลิกไปเอง

7. ทุกวันนี้สนุกกับชีวิตมาก

คติพจน์เรามีมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ว่าต้อง ‘รักตัวเองให้เป็น’ ถ้าเธอไม่รักตัวเองเธอจะรักใครไม่ได้ในโลกนี้ คนที่เอาแต่ดูแลแต่คนอื่น แต่ไม่ดูแลตัวเองเลย นั่นไม่ถูกต้อง

8. เรื่องของความรักก็เช่นกัน

ความรัก คือ การทำให้คนที่เรารัก มีความสุขอย่างถูกทำนองคลองธรรม สมมติ สมัยเด็กๆ ถ้าลูกจะขอซื้อรถ เราบอกเลยไม่ให้ เพราะว่าไม่ถูกทำนองคลองธรรม อย่าใจอ่อน เราบอกเลยว่า ขอโทษนะ บางทีเธออาจฟังแล้วไม่ถูกหู แต่เป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องสอน

9. ข้อดีของอายุที่มากขึ้นคือ ทำให้เราฉลาด

ตอนนี้ให้กลับไปเป็นสาวเอ๊าะๆ ผิวเต่งตึง ไม่เอา ขออยู่อย่างนี้ เพราะฉลาด เรามองโลกอย่างคนฉลาด ไม่ได้มองอย่างคนโง่ ไม่กลัวไอ้โน่นกลัวไอ้นี่ รักไอ้โน่นโกรธไอ้นี่ แต่ตอนนี้อารมณ์เรามันราบเรียบ รู้ว่าสิ่งรอบตัวเรามันไม่ใช่ของจริง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

10. วิชาชีวิตเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง

สิ่งนี้ไม่มีใครสอน อย่างเราผ่านชีวิตมาหมดแล้ว แก่ตัวไปก็มีสตางค์ดูแลตัวเอง มีบ้านอยู่ ไม่มีหนี้สิน เราต้องเรียนรู้และพอใจกับตัวเอง อย่าไปมองคนที่เขาดีกว่าเรา อย่าไปมองเสี่ยแสนล้าน เสี่ยสองแสนล้าน

11. เราไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นคนดีเลยนะ

แต่เราจะบอกว่าตัวเองเป็นคน ‘ไม่ดีน้อย’ คนอื่นเขาไม่ดีกันสุดกู่ แต่เราไม่ดีนิดเดียว ถามว่าเป็นมนุษย์มันดีได้ไหม ไม่ได้หรอก อย่างไรมนุษย์ก็ต้องมีความไม่ดีอยู่บ้าง

เครดิต  AdayBulletin