Home »
Uncategories »
ชาวสวนปลูก ‘มะพร้าวน้ำหวาน’ แกะกะลาอ่อนแปรรูปขายได้ กก.ละ 1,000 บาท
ชาวสวนปลูก ‘มะพร้าวน้ำหวาน’ แกะกะลาอ่อนแปรรูปขายได้ กก.ละ 1,000 บาท
เป็นอีกหนึ่งผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นพืชเศรษฐกิจของไทยที่สำคัญ
สำหรับ "มะพร้าว" มีเกษตรกรชาวสวนหลายคนที่ปลูกมะพร้าวทั้งมะพร้าวแกง
มะพร้าวน้ำหอม และมะพร้าวน้ำหวาน กำลังประสบกับมรสุมราคาผลผลิตตกต่ำ
จนต้องตื่นตัวหันมาผู้ประกอบการเกษตร อย่าง อภิญญา ทิพนาค (ป้าแป๊ด) วัย 54
ปี ผู้ปลูกมะพร้าวแห่งชุมชาบ้านตะเคียนเตี้ยว ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง
จ.ชลบุรี นำกะลามะพร้าวอ่อนมาแปรรูปทำเป็นชิ้นๆ
สำหรับนำทำเป็นอาหารอาหารเมนูเด็ด ขายในราคากิโลกรัมละถึง 1,000 บาท
มีออร์เดอร์ล้นมือจนผลิตไม่ทันต่อความต้อง
อภิญญา เผยว่า
ปลูกมะพร้าวพันธุ์หมูสีซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองในพื้นที่ 2 ไร่
ซึ่งเดิมทีมะพร้าวหมูสีเป็นพันธุ์ดั้งเดิมของที่นี่เป็นพันธุ์กินผลอ่อน
น้ำมีรสชาติหวานแต่ไม่หอม
มีลักษณะที่รอบหัวจุกผลมะพร้าวจะเป็นสีขาวเมื่อดึงขั้วจุกออกจะมีสีชมพูยังไม่มีเนื้อมะพร้าว
ข้างในเป็นกะลาอ่อนรสชาติอร่อนคือ กรอบ กรุบ มัน หวานอ่อน และหอม
ส่วนมะพร้าวที่มีอ่อน อร่อย
สังเกตุคือหากรอบขั้วจุกมะพร้าวเป็นสีเขียวจะมีเนื้อมะพร้าว
ใช้สำหรับกินเนื้อมะพร้าวอ่อนจะไม่สามารถนำกะลามากินได้ เพราะจะมีรสฝาด
กะลาที่มาบริโภคเป็นอาหาร
ตอนนี้ราคาขายอยู่ที่ผลละ 25-30 บาท
ซึ่งกะลามะพร้าวอ่อนจะเก็บได้เมื่อลูกมะพร้าวออกทะลาย 2-3 เดือน ภายใน 1
ปีจะมีผลผลิต 12 ทะลายต่อต้น
หากเป็นมะพร้าวที่แก่กว่านี้ราคาขายอยู่ที่ผลละ 4-5 บาทเท่านั้น
ใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆแทน
ในส่วนของกะลาอ่อนมาพร้าวที่แปรรูปเพื่อจำหน่าย ตอนนี้
มีขายทุกวันและมียอดสั่งจองทุกวันเช่นกัน
ในการผลิตกะลามะพร้าวอ่อนเพื่อการบริโภคนั้นจะนำส่วนกะลาที่ยังอ่อน
โดยใช้ช้อนงัดออกมาจากเปลือกหุ้ม แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มะพร้าว 50
ผลเมื่อฝานเนื้อกะลาอ่อนเสร็จแล้ว
จะนำแช่ในน้ำที่หมักด้วยน้ำมะนาวที่ผสมกับน้ำตาลทรายแดง
ป้องกันไม่ให้จะลามะพร้าวอ่อนเป็นสีคล้ำ
ก็จะได้ผลผลิตกะลามะพร้าวอ่อนพร้อมนำไปปรุงทำเป็นอาหารได้ประมาณ 2 กิโลกรัม
นำมาขายในราคา กิโลกรัมละ 1,000 บาท
โดยมีลูกค้าหลักที่สั่งจองคือร้านอาหารย่านถนนสาธร
และอีกหลายแห่งในกรุงเทพฯจนผลิตไม่ทัน
นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่มาเยือนชุมชนตะเคียนเตี้ย มักจะสั่งเมนูคือ
แกงไก่กะลา , ผัดฉ่ากะลาอ่อนใส่กุ้ง สูตรท้องถิ่นด้วย
ด้าน ภาสันต์ นุพาสันต์
ผู้ช่วยเลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า
ชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ยเป็นหนึ่งในชุมชน ที่สภาเกษตรกรฯ
ได้ปฏิรูปภาคการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรแปรรูปผลผลิตเป็นผลิตภัณฑ์
เป้าหมายต่อไปคือการตลาดของผลิตภัณฑ์ที่แปรรูป
ซึ่งปัจจุบันในชุมชนมีส่วนหนึ่งที่นำเอากะลามะพร้าวอ่อนมาแปรรูปทำเป็นส่วนประกอบในการปรุงเป็นอาหาร
ที่มีความแปลกเห็นว่า
น่าจะนำชุมชนแห่งนี้ทำพื้นที่การเกษตรเป็นแหล่งท่องเที่ยว
จึงประสานงานกับสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดชลบุรี
เพื่อเรียนรู้การบูรณาการร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ
เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนหรือ อพท.(องค์การมหาชน) ณ
วิสาหกิจชุมชนตะเคียนเตี้ย (บ้านร้อยเสา) อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ซึ่งได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
เป็นการแปรรูปที่ได้ราคาดีมากๆ
เลยทีเดียว ผู้ที่สนใจท่องเที่ยวเชิงเกษตรชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง
จ.ชลบุรี ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นางวันดี ประกอบธรรม หมายเลขโทรศัพท์
09 8412 1712
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com