Edit รีวิวเที่ยวหลวงพระบาง 3วัน 2คืน ในงบ 5พัน คนเดียวก็เที่ยวได้ หลวงพระบาง สาธารณะรัฐประชาชนลาว เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ติดอันดับที่คนไทยอยากจะไปเที่ยว เพราะความสวยงามและวิถีชีวิตที่ยังคงความสงบสุข เรียบง่าย และเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม หลายคนจึงใฝ่ฝันจะไปเยือนสักครั้ง วันนี้เราก็จะพาคุณไปทัวร์หลวงพระบาง 3 วัน 2 คืน แบบประหยัดงบ แถมไปคนเดียวก็เที่ยวได้ ชิลได้ โดยสมาชิกพันทิปหมายเลข 5322743 ได้มารีวิวทัวร์หลวงพระบางสุดประทับใจ และใช้งบที่ทุกคนเอื้อมถึงอีกด้วย สบายดี หลวงพระบาง 3 วัน 2 คืน กำลังสบายสบาย หลังจากที่เริ่มเที่ยวโน้นนี่นั่น กับ คนโน้น คนนี้ คนนั้น มาซักระยะหนึ่ง ก็มีวันที่นึกครึ้มใจ อยากลองเที่ยวคนเดียวดูซักครั้ง? และนี่เป็นการเที่ยวนอกประเทศคนเดียว ครั้งแรก และนี่เป็นการเที่ยวที่ตัดสินใจจองที่พักแบบ Hostel ครั้งแรก เช่นกัน มีทั้งความกังวลและความตื่นเต้นมากมายเกิดขึ้นภายในจิตใจ แต่ความอยากเที่ยวนั้นมีมากกว่าเสมอ ถ้างั้นก็มาลองหัดเที่ยวคนเดียวด้วยกันค่ะ เริ่มจากภาพรวมรวมของหลวงพระบางในแบบของเราก่อนละกันเนอะ เป็นเมืองที่มีวัดสวยสวย เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำกัน วัดสวยมาก เป็นเมืองที่พระราชวัง อาคาร ร้านค้า ที่มีรูปแบบสวยงาม สะดุดตา และสะดุดกล้องมากมาก คือ เดินไปแล้วต้องหยุด แล้วยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปรัวรัวเลยจ้า เป็นเมืองที่ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งภูเขา น้ำตกตาดกวางสี แม่น้ำโขง และ แม่น้ำคาน ส่วนอาหารการกิน :บอกเลยว่าอยู่หลวงพระบาง 3 วันเราไม่ได้กินข้าวเลยนะ แล้วอยู่ได้ไง? ก็กินอย่างอื่นน่ะสิ ข้าวเปียกเส้น (แต่เราเรียกผิดเป็น ข้าวเส้นเปียก ตลอดเลย ฮ่าๆ ) เฝอ ส้มตำหลวงพระบาง และมื้อเช้าจากที่พัก ปล. ชอบข้าวเส้นเปียก มากเลยจ้า เส้นเหนียว เคี้ยวหนุบหนับ ต่อไปเราก็มาดูแพลนของแต่ละวันในทริปนี้ดูบ้าง เผื่อเป็นไอเดียของคนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวหลวงพระบางเหมือนเรา Day : 1 เริ่มต้นการเดินทางที่ สนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบิน AirAsia เวลา 14.30 น. ถึงสนามบินหลวงพระบางเวลาประมาณ 16.00 น. ตอนอ่านรีวิว ก็เตรียมใจไว้แล้วว่าคงเหนื่อยแหละ แต่พอไปเดินเองจริงจริง คือ เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ลิ้นห้อยจ้าแม่ นั่งชมวิวซักพัก พอให้เหงื่อแห้ง ก็เดินลงมา แวะหามื้อเย็นที่ตลาดมืด แล้วก็เดินกลับที่พัก วันแรกเที่ยวแค่นี้ก่อนล่ะกัน Day : 2 เริ่มจากจองทัวร์ครึ่งวันสำหรับไปเที่ยวที่ "น้ำตกตาดกวางสี รถตู้จะวนรับนักท่องเที่ยวจากโรงแรมต่างๆ แล้วก็ออกเดินทางจากตัวเมืองหลวงพระบาง ประมาณ 9.00 น นั่งดูวิว ทิวทัศน์ ข้างทางไปเรื่อยๆ มีผีเสื้อบินกันเต็มถนน ประมาณ 10 โมง ก็ถึงน้ำตก แล้วคนขับรถบอกว่า 12.30 กลับมาเจอกันที่นี่นะ รถจะจอดรอที่ลานจอดรถหน้าทางเข้าน้ำตก น้ำตกสวยมาก น้ำเย็นสบาย น้ำใสมากมาก ซึ่งจะมีบริเวณที่เล่นน้ำได้ และถ้าตรงไหนห้ามเล่นก็จะมีป้ายติดไว้ชัดเจน พอถึงเวลานัด ทุกคนกลับมารวมตัวกันที่รถอย่างตรงเวลา เรากลับเข้ามาในเมืองหลวงพระบางกันอีกครั้ง ช่วงบ่ายเราเข้าไปเดินเที่ยวใน "พระราชวังหลวงพระบาง" ช่วงค่ำ เราก็แพลนไปต่อที่ การล่องเรือไปชมพระอาทิตย์ตกที่กลางลำน้ำโขง เราเลือกใช้บริการของ Sa Sa Sunset cruise ซึ่งเป็นเรือแบบ 2 ชั้น แตกต่างจากเรือลำอื่น เราเลือกนั่งชั้น 2 รับลมเย็นเย็น ยาวไปตั้งแต่ 17.30 และ กลับเข้าฝั่ง 19.30 บนเรือมีกิจกรรมไถ่ชีวิตปลา คืนสู่แม่น้ำโขงด้วยนะ หลังจากที่นั่งมองตู้ปลาอันนี้มาตั้งแต่เรือออก ก็สงสัยว่าคืออะไร? ก็มารู้ว่า นี้เป็นปลาที่ซื้อมาจากตลาด เพื่อที่จะมาปล่อยคืนแม่น้ำโขง แล้วแจก ใบตองให้เขียนคำอธิฐานของตัวเองลงบนใบตอง เพื่อปล่อยลงแม่น้ำโขงพร้อมกับปลา สาธุ Day 3 : เริ่มจากเที่ยววัดเชียงทอง ซึ่งดูจากแผนที่แล้วอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 1 กม เข้าสู่วันที่ 3 บอกเลยว่า เราเดินไม่ไหวล้าววววว เลยลองถามราคารถตุ๊กตุ๊ก ได้ความว่า 20000 กีบ โอ้โห้ ระยะทาง 1 กม เกือบ 80 บาทเลยหรอ? เราใช้วิธีต่อราคาให้เหลือแค่ 10000 กีบ คันนี้ไม่ไปก็ถามคันอื่น เดินไปถามไปจนได้ ราคา 10000 กีบจนได้ เย้ จริงๆคนลาวเป็นคนใจดีและเป็นมิตรมากค่ะไม่ว่าจะ รถตุ๊กตุ๊ก หรือ เรือ เขาจะไม่ตื้อเรามากมาย ถ้าเขาถามมา แล้วเราตอบว่าไม่ไป เขาก็ไม่มีว่าเดินตาม หรือเข้ามาถามซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งข้อนี้เป็นสิ่งที่ดี สำหรับผู้หญิงที่หัดเที่ยวคนเดียวแบบเรา วัดเชียงทอง สะพานไม้ไผ่ข้ามแม่น้ำคาน เสียค่าผ่านทาง 10000 กีบ เห็นรีวิวนี้แล้วก็ต้องรีบเก็บเงิน เก็บกระเป๋าเตรียมตัวไปเที่ยวหลวงพระบางกันเลยทีเดียว ไม่ต้องกลัวงบบานปลาย และไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเพื่อนไปด้วย เพราะคนเดียวก็เฟี้ยวได้จ้า เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก สมาชิกพันทิปหมายเลข 5322743