สำนักข่าวต่างประเทศชี้ คนไทยจะเป็นแถวหน้า “ทั้งแก่-ทั้งจน” ในไม่ช้า?

สำนักข่าว Bloomberg ของสหรัฐ ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลของสหประชาชาติ ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศแถวหน้าของตัวอย่าง “ทั้งแก่-ทั้งจน” ในเวลาอันไม่ช้า

ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณปี พ.ศ.2573 หรืออีก 11 ปีนับจากนี้ไป

โดยเขาได้ให้เหตุผลว่า เมื่อถึงปีนั้นผู้สูงอายุในเมืองไทย (นับว่าอายุ 60 ขึ้นไป) จะมีจำนวนถึง 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด

ในขณะที่อัตราการเกิดของไทยอยู่ในระดับร้อยละ 1.5 ที่ถือเป็นอัตราเกือบจะต่ำที่สุดในโลกมาหลายปี

 

คนแก่เพิ่มขึ้น (ส่วนใหญ่ฐานะทางเศรษฐกิจไม่ดี-แปลว่าจนนั่นแหละ)  แต่เด็กไม่เพิ่ม แปลว่ากำลังการผลิตจะน้อยลง

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ไทยต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก คนรุ่นใหม่อาจจะแก่ก่อนที่จะมีชีวิตที่ดี ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากการพัฒนาไปสู่ความเป็นเมือง (urbanization) ของไทยมากขึ้น

 

สำนักข่าวชื่อดังยังบอกอีกว่า ตั้งแต่รัฐประหารสองครั้งหลัง ปี 2549 แผนการรับมือสังคมสูงอายุ (และจน) นั้นทำกันเหมือนผักชีโรยหน้า  และรัฐบาลใหม่ที่ชุมนุมกันถึง 19 พรรคการเมือง ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ทำอะไรเพื่อรับมือเรื่องนี้

ทางออกหนึ่งของปัญหาก็คือการเปิดรับแรงงานต่างชาติให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่แรงงานต่างชาติ มีจำนวนร้อยละ 10 ของจำนวนแรงงานทั้งหมดอยู่แล้ว

ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เพราะระบบสาธารณสุขของไทยมีต้นทุนที่เพิ่มโดยเฉลี่ย 12% ต่อปี แต่รายได้ของประชากรกลับไม่สมดุล

มากกว่านั้นระบบประกันสังคมของไทยถ้าไม่มีการปรับปรุงด้านภาษี เงินจะหมดภายใน 15 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างมากสำหรับอนาคต

 

ขอบคุณข้อมูลจาก bloomberg.com, matichonweekly