เปิดความจริงที่ถูกปิดของ หมู่บ้านลัดดาแลนด์


วันนี้เราจะพาคุณย้อนกลับไปใน 30 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่โด่งดังมากสำหรับ “ลัดดาแลนด์” สวนดอกไม้เมืองหนาว ที่อุดมไปด้วยดอกไม้สวยงามต่างมากมาย ทั้งยังมีของเล่นอย่างรถม้า มีรถไฟฟ้า รวมถึงช้างให้นั่งชิลล์ ตลอดจนมีการแสดงต่าง ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่นิยมท่องเที่ยวทั่วไป และจะมีคนมาเยอะมากในช่วงหน้าหนาวอีกด้วย

ลัดดาแลนด์ ถือได้ว่าเป็นสถานที่ยอดฮิตของวัยรุ่นสมัยนั้นจะไปออกเดทกันเพราะมีความเชื่อว่า คู่ไหนไปอธิฐานขอความรักกับต้นไทรหน้าลัดดาแลนด์แล้วคู่นั้นจะได้รักกันไปตลอดชีวิต และนอกจากนี้เป็นที่ท่องเที่ยวแล้วในอาณาจักรลัดดาแลนด์แห่งนี้ยังมีส่วนของห มู่ บ้าน ซึ่งคนในห มู ่บ้านทั้งหมดล้วนเป็นคนที่มีฐานะดีทั้งนั้น จะเรียกว่าห มู ่บ้านเศรษฐีก็ว่าได้

ทว่าเ รื่ อ งราวบางอย่างก็เกิດขึ้นในอาณาจักรแห่งความสุขนี้ เมื่อมาเกิດบ้านหลังหนึ่งโดนคนร้ า ยคร่าต า ยยกบ้าน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ขนลุกนี้ขึ้น

เพราะคนที่อยู่ใกล้กับบ้านหลังนี้ บางทีก็ได้ยินเสียงร้องไห้ บ้างก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หรือบางครั้งก็ได้ยินเสียงหัวเราะ และที่เจอกันจนอยู่ไม่ได้ คือ คนแถวนั้นจะเห็นครอบครัวที่ต า ยนั้นบางทีก็ออกมายืนหน้าบ้าน ออกมารดน้ำต้นไม้ คนที่ผ่านไปมาโดนหลอกทุกคน ทำให้ตอนเที่ยงคืนจนถึงเช้าไม่มีใครที่จะกล้าออกจากบ้านเลย ยิ่งนานวันเข้าความเฮี้ยนยิ่งหนักขึ้นมาหลอกถึงบ้าน คนแถวนั้นอยู่ไม่ไหวเลยพากันย้ายออกกันไปเกือบหมด ทำให้แถวนั้นกลายเป็นบ้านร้างเยอะ

แต่ยังมีบ้านอีก 3 หลังที่ยังไม่ไปไหนและ 1 ใน 3 หลังนั้นเจ้าของเป็นฝรั่งไม่ค่อยได้อยู่จะบินมาเที่ยวเฉพาะฤดูหนาว เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อมาก เลยจ้างเด็กสาวพม่ามาเฝ้าบ้าน แต่ผ่านไปไม่นานก็มีโจรมาขึ้นบ้านหลังนั้น คร่าเด็กสาวคนนั้นแล้วเก็บไว้ในห้องเก็บของใต้บันได

กว่าจะมาพบก็ผ่านไปเกือบ 2 เดือน และที่มาพบได้เพราะบ้านที่ยังเหลืออยู่ใกล้กันได้กลิ่น โชยออกมาจากในบ้านแต่ก็ไม่ได้สงสัยเพราะยังเห็นเด็กสาวคนนี้ยังคงมานั่งอยู่ ที่ระเบียงหน้าบ้านทุกวัน จนวันหนึ่งทนไม่ไหวเลยบอกว่าให้ทำความสะอาดเพราะอาจจะมีหนูต า ย นั้นแหละ เด็กสาวหันหน้ามาแบบเ ละ เลยไปแจ้งความและแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบ

พอเปิดเข้าไปดู พบเด็กคนนี้ก็ยังคงนั่งอยู่เดิมทุกวัน แต่ถ้านั่งธรรมดาไม่มายุ่งคงจะดี เห็นคนนั้นคนนี้บอกอีกว่า บางทีก็มายืนมองที่ หน้าต่างตอนนอนกลางคืนด้วยเลยย้ายออกไม่เสียดายแล้วบ้าน

*ทว่าความเฮี้ยนความหลอนยังไม่หมดเท่านั้น เพราะมันยังมีความจริงบางอย่างที่ยังไม่ถูกเปิดเผยและถูกปิดต า ยไปกับลัดดาแลนด์

1 ช่วงก่อนที่จะสร้างสวนสาธารณะนี้เสร็จ ตอนที่ขุดหลุมเพื่อที่จะทำบ่อน้ำได้พบกับโครงก ร ะ ดู กอยู่แต่ไม่ยอมเปิดเผยให้ทราบกัน

2 มีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมากและมาอธิฐานขอให้ความรักสมหวังกับต้นไทรแต่ แล้วพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ยอมรับฝ่ายชายทั้งสองเลยมาแควนคอต า ยคู่กันที่ใต้ต้นไทรนั้น เขาบอกว่า ทุกวันที่ทั้งคู่ผูกคอต า ยวนมาจนครบรอบ(ซึ่งผมก็ไม่รู้ วันไหน) คนแถวนั้นจะเห็นทั้งคู่ห้อยโตงเตงพร้อมกับส่งยิ้มมาให้

5 มีหญิงสาวและหญิงขายบริการหลายที่ทำแท้งแล้วนำซากเด็กไปทิ้งไว้ในสระน้ำนั้นเป็นจำนวนมากหลายคนบอกว่ามากกว่า 100 เลยทีเดียว

6 เมื่อ 10 กว่าปีก่อนสถานที่แถวนั้นเป็นที่เปลี่ยวเลยมีการนำศ พ คนต า ยที่ถูกปล้น หรือถูกข่มขืนมาทิ้งไว้ที่นั้นที่รู้อย่างน้อยก็ 8 ศ พ แต่ที่ไม่รู้อีกน่าจะเยอะ

7 มีหญิงสาวที่มาขอความรักกับต้นไทรแล้วผิดหวังในความรัก เลยมากินย าคร่าแม ลง ต า ยใต้ต้นไทรหน้าห มู ่บ้านโดยที่ทิ้งจดหมายไว้สั้นว่า “จะอยู่ข้างเธอตลอดไป”

8 มีขี้ย าคนหนึ่งพี้ย าเกินขนาดแล้วเกิດช็อ ค ต า ยคาศาลาที่ริมสระน้ำนั้นกว่าจะมี คนมาพบก็เ น่ าหมดแล้ว แต่เขาบอกว่าที่ช็อคเพราะโดนเอาไปเป็นตัวต า ยตัวแทนมากกว่า เพราะยังเหลืออยู่ข้างศ พ อีกเยอะเลย

9 มีการนำศาลพระภูมิรวมถึงตุ๊กตาสะเดาะเคราะห์มาทิ้งไว้เป็นจำนวนมากจนทาง เทศบาลมารื้อไปทิ้งไว้นอกเมือง แต่ไม่เคยทำได้สำเร็จเพราะถึงจะย้ายไปไกล ไหนวันรุ่งขึ้นก็จะกลับมาที่ เดิม

จึงเป็นลือกันว่าที่มีด ว งวิญญาณทั้งหมดนี้จะสิ่งอยู่ในตุ๊กตาสัตว์ที่วางไว้อยู่มากมายในพื้นที่นั้น จึงเป็นความสยองขวัญสั่นประสาท ที่ถูกเล่าต่อกันมา

เ รื่ อ งดังกล่าวเป็นเพียงเ รื่ อ งเล่า ที่ถูกเล่าต่อกันมา เพื่อน ควรใช้วิจารณญาณในการอ่ า นและไม่ควรซีเรียสกันน้า

ขอบคุณแหล่งที่มา Gangbuaty