คุณค่าที่ผู้หญิงมีแล้ว ดูดี ดูแพง ดูมีสเน่ห์

1 อย่าทำตัวไร้ค่า

วันๆ ไม่ทำอะไรนั่งเกียจคร้าน เฉื่อยชา ต้องขยันกระตือรือร้นทำงาน สร้างสรรค์

ยุ่งตลอดเวลา อย่าเกิดมา อยู่เป็นสิ่งมีชีวิตรกโลก แล้วตา ย ชีวิตสั้น

เดี๋ยวก็ตา ย จะทำตัวมีค่า หรือไม่มีค่าเลย

2 อย่าอวดเก่งไปวันๆ

ทำตัวเท่เดินไปเดินมา โม้ ไม่ได้ช่วยให้เจริญขึ้น คนเก่งจริงต้องพูดน้อย

ทำมากอวดรู้น้อย เรียนรู้มาก เพ้อเจ้อน้อย ผลงานมาก ถ้าเจ๋งไม่จริง

ลดความหลงตัวเองลงมา เพิ่มการพัฒนาเข้าไป อย่าทำให้คนหมั่นไส้

3 อย่าขลาดเขลา

คนขลาดจะไม่ได้ทำอะไรในชาตินี้ อย ากทำอะไรไม่ใช่ต้องไม่กลัว

แต่ต้องทำทั้งๆ ที่กลัว อย่ามัวแต่ฟังคนขลาด บอกไม่ให้ทำ เพราะสุดท้าย

จะเป็นแพ้เหมือนไอ้คนบอก ดูคนกล้าคิด กล้าทำ กล้าล้มเหลวเป็นตัวอย่าง อย่างมากแค่ต าย ลุยเลย

4 อย่าคิดลบ

ถ้าคิดลบ ชีวิตจะแย่ไปหมดทุกเรื่อง ไม่มีทางได้ดี สมองจะเสื่อมโทรม

จิตใจจะขุ่นมัว ชีวิตจะห่วยแ   ต  ก โ   ล  ก จะโห ดร้ าย เลิกเป็นพวกคิดลบ

ไม่เคยคิดเชิงสร้างสรรค์ เอะอะก็คิดเชิงทำ  ล  า  ย เพราะสุดท้ายจะทำ ล   า  ยตัวเอง

5 อย่าดีน้อยไปและเล วมากไป

เกิดมาบนโลกนี้ไม่ต้องถึงกับเป็นคนเพอร์เ  ฟ ค เ  อ   าแค่อย่าดีน้อยไปมีข้อดีอยู่บ้างก็พอ

และอย่าเล วมากไป มีข้อเ  สี  ย นิดหน่อยก็พอ แล้วชีวิตที่เหลืออยู่ ก็เพิ่มความดี 

ลดความเล ว ค่อยเป็นค่อยไป แค่ได้เห็นเวอร์ชั่นที่ดีกว่า

ของตัวเองก่อนตา ย ก็ไม่เ  สี  ย ชาติเกิดแล้ว

6 อย่าเห็นแก่ตัว

ทุกวันนี้อยู่เพื่อใครบ้าง รักใครบ้าง นึกถึงใครบ้างนอกจากตัวเอง

คนเห็นแก่ตัวถือว่ามีชีวิตอยู่ก็ไร้ค่า ถ้าไม่รู้จักใจกว้าง มีน้ำใจ หรือทำเพื่อใครเลย

ไม่ช้าโลกจะเ  อ  า ทุกอย่างที่มีไปหมด ชีวิตจะจบแบบย ากจน ข้  น  แ  ค้  น

7 อย่าหมกมุ่นกับความรัก

ไม่มีความรักไม่ตา ย แต่ไม่มีดี ไม่มีค่า ไม่มีอะไรเลยนี่ตา ยแน่ๆ อย ากได้ความ  รั  ก  ดีๆ

ทำชีวิตให้ดีซะก่อน อย ากได้คน  รั  ก  ดี  ๆ ทำตัวเองให้คู่ควรซะก่อน

หยุดดิ้นรนแสวงหา เมื่อรู้ว่าตัวเองยังไม่มีค่าในสายตาใคร เพราะจะไม่ถูกมองข้ามก็ถูกทิ้งขว้าง

8 อย่ารักคนอื่นมากกว่ารักตัวเอง

คนไม่รัก ไม่สนใจ ไม่เห็นค่า ช่างมัน จะแคร์ จะง้อ จะฟูมฟายทำไม ตัดทิ้งเลย

ลืมเลย ไม่สนใจเลย คนดีๆ บนโลกมีอีกตั้งเยอะ รอเพชรเจียระไนเลอค่า

ปล่อยเศษฝุ่นไร้ค่าไป จำไว้ อย ากให้คนอื่นเห็นค่า ต้องเริ่มที่เห็นค่าตัวเอง สุดท้าย

จำไว้ มนุษย์จะไม่มีค่า จนกว่าจะสร้างค่า ให้ตัวเอง ถ้าไม่ทำอะไร อย่าเข้าใจ ผิ  ด  คิดว่าตัวเองมี

ผู้หญิงยุคนี้ต้องมี 3 ศรี ใครมีอยู่แล้วมั่นใจได้ ชายใดได้ไปโคตรโชคดี

สตรีในยุคนี้ต้องมี 3 ศรี ผู้หญิงคนใดมีครบ3ข้อนี้ ถือว่าคุณคือหญิงแกร่ง

มีเสน่และความเ ซ็ กซี่ในตัว เหนือกาลเวลา เพราะไม่ว่าเวลาจะ ผ่  า น ไปนานเท่าไหร่

ผู้ชายก็รักและค้นหา 3 ศรี นี้ ไปดูเลยว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1 ศั  ก  ดิ์  ศรี

ผู้หญิงยุคทุนนิยม สภาวะปากกั  ด ตี  น ถี   บ ผู้หญิงยุคนี้แกร่ง และเก่งกล้าสาม   า ร  ถ มากขึ้น

ไม่งอมือ-งอเท้าให้ใครหาเลี้ยง แต่เธอรู้จักคุณค่าในตัวเองลุกขึ้นมาสร้างศั  ก  ดิ์  ศ  รี ให้ตัวเอง

แม้มีไม่ใครอยู่เคียงข้าง คุณก็ยังสตรองเ  อ  า ช น  ะทุ  ก ปัญหาที่เข้ามาได้

มีคำก  ล่  า  ว  ว่  า มีเมียสวย มีงาม หรือจะสู้ มีเมียช่วยทำมาหากิน ประโยคนี้มันจริงที่สุด

หากคนกำลังมีชีวิตเหมือนที่ก ล่   า ว  มา จงเชื่อมัน และยึดมั่นในศั  ก  ดิ์ ศ  รี  ของตนนะ

2 ม  า  ร  ศ  รี

ผู้หญิงยุคนี้ มีความงามทั้งรูปงาม และจิตใจงาม หน้าตาเกลี้ยงเ ก  ล  า สะอาดสะอ้าน

แต่งกายมีรสนิยม มีกาลเทศะ พูดจาไพเราะและสุภาพอ่อนหวาน

มีกลิ่นกายที่หอมชวนสนทนา และมีสเน่ห์ที่ใครได้เห็น ได้ใกล้ชิด

ก็แอบชอบคุณหากเขาเป็นชาย แต่หากเขาเป็นหญิงละก็ จะยกย่อง

นับถือ มีคุณเป็นต้นแบบของชีวิต

3 ศรีเรือน

ครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าครอบครัวจะใหญ่จะเล็ก

หรือแม้แต่ผู้หญิงที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ตาม หน้าที่ของเราคือ แม่ศรีเรือน

เป็นคุณแม่ ที่เป็นต้นแบบให้บุตร

เป็นแม่บ้าน ดูแลอาหารการกิน และดูแลที่อยู่อาศัย

เป็นแม่ทัพ จัดเตรียม วางแผนให้ทุกคนในครอบครัว

เป็นแม่น้ำ สร้างความชุ่มชื่น เย็นใจให้กับทุกคนในบ้าน

แ  ข็  ง แกร่ง-งดงาม-ดีงาม นี้คือ บทสรุปของผู้หญิง 3 ศรี

วิธีทำให้ความรักยั่งยืน ตามหลักมงคลชีวิต 38 มงคล ที่ 13 สงเคราะห์ภรรย า สามี

การเป็นสามีภรรย ากัน เป็นเรื่องที่จะว่าย ากก็เหมือนง่าย แต่ครั้นจะว่าง่ายก็เหมือนย าก

เพราะเพียงแต่เราตั้งคำถามว่า ทำอย่างไรสามีภรรย าจึง

จะมีความรักยั่งยืนอยู่กินกันราบรื่นเพียงประเด็นเดียว

แล้วลองเที่ยวหาคำตอบดูเถอะ ถามสิบคนก็ตอบสิบอย่าง

บ้างก็ว่าเกี่ยวกับดวงชะตาคู่ธาตุ ต้องวางฤกษ์ วางลัคน์ให้เหมาะๆ

บ้างก็ว่าเป็นเรื่องของพรหมลิขิต ที่หัวสมัยใหม่หน่อยก็ว่า

สำคัญที่แหวนหมั้นขันหมากเงินทุนให้มากๆ เข้าไว้ ความสุขในชีวิตสมรสจะ มีเอง

แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเรื่องมงคลสมรสไว้สั้นๆ เพียงคำเดียวว่า

สังคหะ แปลว่า การสงเคราะห์กัน และให้ปฏิบัติตามหลัก

สังคหวัตถุ 4 เพื่อเป็นการยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน ดังนี้

1 ทาน การให้ปันแก่กัน

คนเราถ้ารักที่จะอยู่ด้วยกันต้องปันกันกิน ปันกันใช้ หามาได้แล้วควรรวมกันไว้เป็นกองกลางแล้ว

จึงแบ่งกันใช้ หากไม่ เ  อ  า ม  า   รวมกัน อาจเกิดการระแวงกันได้ ที่ใดที่ปราศจาก

การให้ที่นั่นย่อมแห้งแล้งเหมือนทะเลทราย การปันกันนี้รวมทั้งการปันทุ   ก  ข์  กัน

ในครอบครัวด้วย เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีความ  ทุ  ก  ข์ มีปัญหา ก็ควรนำมาปรึกษากัน

อีกฝ่ายก็ต้องรับรู้จักรับฟังและปลุกปลอบให้กำลังใจ

2 ปิยวาจา พูดกันด้วยวาจาไพเราะ

แม้การตักเตือนกันก็ต้องระมัด ระวังคำพูด ถ้าถือเป็นกันเองมากเกินไป อาจจะเกิด

ทิฐิ ทำให้ครอบครัวไม่สงบสุข โดยถือหลักว่า ก่อนแต่งงานเคยพูดไพเราะอย่างไร

หลังแต่งงานก็พูด ให้เพราะ อย่างนั้น

3 อัตถจริย า ฝึกฝนตนให้เป็นประโยชน์

คือ มีความรู้ความสาม  า  ร ถ แล้วนำความรู้ความสาม  า  ร  ถ ที่มีอยู่นั้นมาช่วยเหลือกัน

ประพฤติตนเป็นประโยชน์ต่อกันในทุก  ด้าน เมื่อรู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี 

ควรหรือไม่ควร ก็นำมาเ  ล่  า  สู่กันฟัง พย าย ามศึกษาหาความรู้ทางธรรม

เ  อ  า ใจมาเกาะกับธรรมให้มาก

สามีภรรย านั้นเมื่อทะเ  ล  า  ะกันมักจะโยนความ  ผิ  ด  ให้อีกฝ่ายหนึ่ง

ซึ่งแท้จริงแล้วย่อมมีความ  ผิ  ดด้วยกันทั้งคู่ อย่างน้อยก็  ผิ  ด  ที่ไม่หาวิธีที่เหมาะสม

แนะนำตักเตือนกัน ปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งทำความ  ผิ  ด

4 สมานัตตตา วางตัวให้เหมาะสมกับที่ตัวเป็น

เป็นพ่อบ้านก็ทำตัวให้สมกับเป็นพ่อบ้าน เป็นแม่บ้านก็ทำตัวให้สมกับเป็นแม่บ้าน

ต่างก็วางตัวให้ เหมาะสมกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายทั้งในบ้านและนอกบ้าน

ซึ่งข้อนี้จะประพฤติ ปฏิบัติให้ดี ต้องฝึกสมาธิให้ใจผ่องใสเป็นปกติ

เพราะคนที่ใจผ่องใสจะรู้ว่าในภาวะเช่นนั้น ควรจะวางตนอย่างไร ไม่ระเริงโลกจนวางตนไม่เหมาะสม

โดยสรุป คือปฏิบัติตนตามหลักทาน การให้ปันสิ่งของรักษาศีล เพื่อให้มีคำพูดที่ไพเราะ

และเพื่ออุดข้อบกพร่องของตน จะได้เป็นคนมีประโยชน์เจริญภาวนา

คือการฟังธรรมและทำสมาธิ เพื่อให้ใจผ่องใสเกิดปัญญา

จะได้วางตัวได้เหมาะสมกับที่ตัวเป็น

ขอบคุณแหล่งที่มา gangbeauty