Home »
ข้อคิด
»
อย่าทำตัวเหมือนม้าพันลี้ คิดว่าตนเก่งที่สุด
อย่าทำตัวเหมือนม้าพันลี้ คิดว่าตนเก่งที่สุด
อย่ าทำตัวเป็นม้าพันลี้ อย่ าคิดว่าตนเก่งกว่าใครที่เมืองแห่งหนึ่ง
มีม้าหนุ่มพันลี้อยู่ตัวหนึ่ง ที่มีความแข็งแรง
และเก่งมากสามารถวิ่งได้ระยะทางเป็นพันลี้ โดยที่ไม่เหนื่อยเลย
และยังวิ่งได้เร็วมากอีกด้วยม้าตัวนี้รู้ว่าตัวเองนั้น
มีความสามารถมากเพียงใด ใครๆก็ต้องการมัน
มันจึงรอให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และดีเทียบเท่าเท่านั้น
ที่จะยอมให้ขี่มันในระหว่างที่รอคนที่ม้าคิดว่าเหมาะสม
ก็ได้มีผู้คนมากมายเข้ามาหาพ่อค้า ได้เข้ามาหาม้าตัวนี้ และถามว่า
“เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่”
ม้าพันลี้ส่ายหัว และตอบว่า “ม้าฝีเท้าดีๆแบบข้า ทำไมจะต้องยอมไปกับเจ้า
แค่ไว้ใช้งานส่งของด้วยล่ะ”ทหาร ได้เข้ามาหาม้าตัวนี้ และถามว่า
“เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่”ม้าพันลี้ส่ายหัว และตอบว่า
“เจ้าเป็นแค่ทหารธรรมดา ทำไมข้าจะต้องไปรับใช้คนแบบเจ้าด้วยล่ะ”
นายพราน ได้เข้ามาหาม้าตัวนี้ และถามว่า
“เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่”ม้าพันลี้ส่ายหัว และตอบว่า
“ข้าเป็นถึงม้าพันลี้
ทำไมต้องไปทำงานหนักรับใช้นายพรานแบบเจ้าด้วยล่ะ”เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายปี
ม้าพันลี้ตัวนี้ก็ยังคงค้นหาเจ้านายที่ใฝ่ฝันไม่เจอสักที
ถึงแม้ที่ผ่านมา จะมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาหา แต่เจ้าม้าพันลี้ตัวนี้
ก็ไม่ยอมรับใช้ใครเลยข่าวความเก่งกาจสามารถของม้าพันลี้ ได้แพร่กระจาย
จนไปถึงในวังหลวงและได้มีรับสั่งตามพระราชโองการ ให้ขุนนางท่านหนึ่ง
ไปตามหาม้าพันลี้
ไม่นาน ขุนนางพบกับม้าพันลี้ ก็ได้แนะนำตัว
และไถ่ถามเมื่อม้าพันลี้รู้ว่า คนที่มาหาตนเป็นถึงขุนนางชั้นสูง ก็ดีใจอย่
างมากที่จะได้รับใช้คนที่เหมาะสมกับตนเอง ที่ตนรอคอยมานานแสนนานมาพันลี้
จึงได้พูดกับขุนนางว่า ” ข้าคือม้าพันลี้ ที่ท่านตามหาอยู่ “
แต่ก่อนที่ขุนนางจะพากลับไปในวัง จึงได้ถามม้าพันลี้ว่า ”
เจ้าเชี่ยวชาญเส้นทางในประเทศเราไหม “ม้าพันลี้ตอบว่า ” ไม่
เพราะข้าไม่ได้เดินทางไปไหนนานมากแล้ว “ขุนนาง ก็เลยถามต่อ ”
เจ้าเคยมีประสบการณ์ ในการสู้สมรภูมิรบบ้างไหม “
ม้าพันลี้ตอบว่า ” ไม่ ข้าไม่เคยเข้าร่วมรบ เพราะข้าไม่รับใช้ทหารธรรมดาๆ “
ขุนนาง ก็เลยถามต่อ ” เจ้าเคยเข้าป่า เพื่อให้คนขี่ใช้วิ่ง ล่ า สั ต ว์
ไหม “ม้าพันลี้ตอบว่า ” ไม่ ข้าไม่ใช่ม้าธรรมดา
ที่จะให้นายพรานมาใช้งานหรอก “ขุนนาง เลยพูดขึ้นว่า ”
แล้วข้าจะเอาเจ้าไปใช้ประโยชน์อะไรได้อีก “
ม้าพันลี้บอกว่า “ข้าวิ่งเวลากลางวันได้ วันละ พันลี้ กลางคืน
แปดร้อยลี้ “ขุนนางจึงให้ม้าพันลี้ ลองวิ่งให้ดู
เพื่อทดสอบความแข็งแรงและความเก่ง ที่เขาล่ำลือกันเมื่อม้าพันลี้
เริ่มออกวิ่ง
มันรู้สึกถึงความภาคภูมิใจที่จะได้โชว์ความสามารถของตัวเองสักที
แต่พอมันออกวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว มันก็หอบหายใจเหนื่อยซะแล้วขุนนาง
จึงพูดขึ้นว่า “เมื่อก่อนตอนหนุ่ม เจ้าคงจะเก่งมากจริงๆ
ตามที่คนล่ำลือกันไว้ แต่ตอนนี้เจ้าแก่แล้ว ไม่ไหวแล้ว ถ้าข้าเอาเจ้าไป
คงใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้อีกแล้ว “
หลังจากพูดจบ ขุนนางก็เดินจากไปในทันที
ในขณะที่ม้าพันลี้ยังเหนื่อยหอบไม่ทันหายนิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า…อย่
าทำตัวเป็น “ม้าพันลี้” อย่ าอวดดี คิดว่าตนเองเก่ง เพราะเหนือฟ้า
ยังมีฟ้าเสมอกาลเวลาผ่านไป อะไรๆก็เปลี่ยน ไม่มีอะไรอยู่คงทน
แม้แต่ความสามารถ
เมื่อก่อนเราอาจจะเก่ง
แต่สักวันก็ต้องมีคนมาแทนที่เราจนได้และหากเรายิ่งหลงทะนงตน ไม่ยอมฝึกฝน
หรือหาประสบการณ์ใหม่ๆให้ตัวเองจะยิ่งทำให้เราหยุดพัฒนาตนเอง
และถอยหลังมากกว่าเดิม
ในขณะที่อีกคน รู้ว่าตัวเองไม่เก่งเท่าคนอื่น จึงพย าย ามฝึกฝน
หาความรู้อยู่ตลอดเวลาสุดท้ายเขาก็จะพัฒนามาเทียบเท่า
และแซงเราไปในที่สุดเพราะฉะนั้น จงอย่ าประมาทในการใช้ชีวิตและอย่
าประเมินความสามารถคนอื่นต่ำเกินไป อย่ าชะล่าใจ
ที่มา : bitcoretech