ประกันสังคม เยียวยาลูกจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด จ่าย 50% โดนเลิกจ้างจ่าย 70%

ประกันสังคม เคาะมาตรช่วยเหลือนายจ้าง - ลูกจ้าง จากผลกระทบโควิด 19 หากมีคำสั่งให้หยุดงานเพราะโควิด 19 พร้อมจ่าย 50% ของเงินเดือน หากโดนเลิกจ้างชดเชยสูงถึง 70% พร้อมลดเบี้ยเงินสมทบประกันสังคม

วันที่ 20 มีนาคม 2563 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานคณะกรรมการประกันสังคม เปิดเผยว่า คณะกรรมการประกันสังคมมีมติวันที่ 20 มีนาคม เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน กรณีสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ดังนี้...

 

1. ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย ให้ขยายความคุ้มครองผู้ประกันตนจากภัยอันเกิดจากโรคที่แพร่ระบาดในมนุษย์ รวมทั้งภัยอื่น ๆ ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ หรือมีผู้ทำให้เกิดขึ้น ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ดังต่อไปนี้

- ผู้ประกันตนที่ไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้างไม่ให้ทำงาน ประกันสังคมจะจ่ายกรณีว่างงาน อัตราร้อยละ 50 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน

- กรณีหน่วยงานภาครัฐ มีคำสั่งให้หยุดกิจการชั่วคราว ประกันสังคมจะจ่ายกรณีว่างงาน ร้อยละ 50 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน


2. เห็นชอบให้ลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า เป็นอัตราร้อยละ 4 ระยะเวลา 6 เดือน พร้อมทั้งเห็นชอบให้ขยายกำหนดเวลาการนำส่งเงินสมทบของนายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 สำหรับงวดค่าจ้างเดือนมีนาคม, เมษายน และพฤษภาคม 2563 ออกไปอีก 3 เดือน


โดยงวดค่าจ้างเดือนมีนาคม 2563 ให้นำส่งเงินภายใน 15 กรกฎาคม 2563 สำหรับงวดค่าจ้างเดือนเมษายน 2563 ให้นำส่งเงินภายใน 15 สิงหาคม 2563 และงวดค่าจ้างเดือนพฤษภาคม 2563 ให้นำส่งเงินภายใน 15 กันยายน 2563


3. เรื่องการรักษาพยาบาล คณะกรรมการมีมติให้ดูแลรักษาผู้ประกันตน ที่ป่วยโควิด 19 ให้ดีที่สุด ตามมาตรฐานการรักษาพยาบาลที่กำหนด


นอกจากนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตนในภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น ไม่ว่าในทางเศรษฐกิจหรือผลกระทบจากปัจจัยอื่นใด คณะกรรมการยังมีมติเห็นชอบให้จ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเพิ่มขึ้นแก่ผู้ประกันตนที่ว่างงานจากกรณีลาออก ร้อยละ 45 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน และจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่ว่างงาน จากกรณีเลิกจ้าง ร้อยละ 70 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 200 วัน


ทั้งนี้ มาตรการนี้ให้ใช้บังคับเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยหลังจากนี้คณะกรรมการจะพิจารณาวิเคราะห์และมีมติพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งจะเร่งรัดให้มีผลบังคับโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของภาครัฐบาล และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน


ขอขอบคุณที่มาจาก: dailynews