เข้าสู่ฤดูร้อน(มาก)อย่างเป็นทางการกันแล้วนะคะ
ช่วงนี้การได้นั่งอยู่ในห้อง เปิดแอร์เย็นฉ่ำเป็นสิ่งที่หลายคนโปรดปรานมาก
อากาศร้อนขนาดนี้ ถ้าไม่เปิดแอร์เห็นจะแย่ แต่ที่อาจจะทำให้คุณลมแทบจับ
หน้ามืดตามัวคลายจะเป็นลมก็ตอนบิลค่าไฟเดือนนี้พุ่งกระฉูด
เลยทำให้เอาหลายคนกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเปิดแอร์ หรือเลือกเปิดไม่นาน ยอมทนร้อน
เหงือไหลไคลย้อย ดีกว่าหมดตัวกับบิลค่าไฟลตอนสิ้นเดือน วันนี้
อันดับแซ่บมีเคล็ดลับดีๆ การเปิดแอร์อย่างถูกวิธี เย็นฉ่ำ
แถมยังประหยัดไฟมาฝากกัน รับรองว่า ถ้าคุณได้อ่านทั้ง 10 ข้อแล้ว
สบายใจที่จะเปิดแอร์คลายร้อนแบบไม่ต้องระแวงกับบิลค่าไฟตอนสิ้นเดือนแน่นอนค่ะ
รู้จักวิธีใช้งาน แล้วอย่าลืมบำรุงรักษาแอร์กันด้วยนะคะ แอร์จะได้อยู่กับเราไปนานๆ เช่น หมั่นทำความสะอาด ดูดฝุ่นแผ่นกรองอากาศ หรือจะเรียกช่างแอร์มาล้าง ทำความสะอาดแอร์ทุกๆ 6 เดือน หากพบว่ามีจุดหรือรอยรั่ว ต้องรีบแก้ไขนะคะ แอร์จะได้ทำงานได้อย่างประสิทธิภาพและประหยัดไฟค่ะ
ได้ทราบเทคนิคง่ายๆ ในการเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ โดยไม่กินไฟกันไปแล้ว ลองนำไปปฏิบัติดูนะคะ แล้วลองไปดูผลลัพธ์ตอนสิ้นเดือนว่า ค่าไฟเดือนนี้จะยังแพงกระฉูดเหมือนเดิม หรือลดลงบ้าง
ที่มา : กระทรวงพลังงาน
1.เปิดพัดลมตัวเล็กๆ ช่วย
ลมจากพัดลมที่พัดผ่านร่างกาย จะช่วยให้เรารู้สึกสบายตัวขึ้น โดยที่แอร์ตั้งไว้ที่ 25-26 องศา ห้องก็เย็นสบายได้ แถมยังช่วยให้แอร์กินไฟน้อยลง 10-20%2.ปิดแอร์ทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งานห้องนั้นแล้ว
ถ้าเป็นห้องนอน อาจตั้งเวลาปิดเครื่องไว้ล่วงหน้าก่อนออกจากห้องนั้นครึ่งชั่วโมง เพื่อให้เครื่องหยุดทำงานเองอัตโนมัติ แต่ยังมีความเย็นอยู่ในห้อง เช่น ห้องนอน ถ้าคุณตื่น 7 โมงเช้าทุกวัน ให้ลองตั้งเวลาปิดก่อนหนึ่งชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมง3.จุดวางคอมเพรซเซอร์ ต้องโล่ง
ตัวคอมเพรซเซอร์แอร์ที่ตั้งอยู่นอกห้อง ทำหน้าที่ระบายลมร้อนในห้องออก ดังนั้นจุดที่ตั้งคอมเพรซเซอร์แอร์เลยจำเป็นต้องเป็นจุดที่โล่ง ไม่มีสิ่งของมาวางเกะกะ จนทำให้คอมเพรซเซอร์แอร์ระบายความร้อนออกได้ไม่ดี เปิดแอร์แล้วก็ยังไม่รู้สึกเย็น4.ไม่วางของขวางทางแอร์
จุดติดตั้งแอร์ภายในห้อง ไม่ควรมีสิ่งของวางเกะกะ ขวางทางช่องลมเป่าออกของแอร์ที่อยู่ในห้อง เพื่อให้แอร์เป่าลมเย็นออกได้สะดวก ห้องจะเย็นเร็วขึ้นและแอร์ไม่ต้องทำงานหนัก กินไฟเพิ่ม5.เปิดหลอดไฟเท่าที่จำเป็น
ทุกครั้งที่เปิดแอร์ ควรเลือกเปิดไฟแสงสว่างเท่าที่จำเป็น เพียงพอต่อความปลอดภัย เพราะหลอดไฟบางประเภท เช่น หลอดไฟตกแต่งอย่างหลอดฮาโลเจนนั้นเป็นหลอดไฟที่ปล่อยความร้อนออกมาในเวลาเปิดใช้งาน ซึ่งความร้อนนี้จะสะสมและทำให้ห้องร้อนขึ้น ส่งผลให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ห้องเย็นลง6.ไม่เพิ่มความร้อนภายในห้อง
ไม่ควรใช้งานอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ที่ปล่อยความร้อนเข้ามาในห้องที่เปิดแอร์ เช่น เตาไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า กระติกน้ำร้อน หรือการรีดผ้าในห้องแอร์ เพราะจะเป็นการเพิ่มภาระให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้นและกินไฟมากขึ้นตามไปด้วย7.เปิดประตู-หน้าต่างระบายลมก่อนเปิดแอร์
เปิดประตู หน้าต่าง ทิ้งไว้ก่อนเปิดแอร์ประมาณ 15นาที เพื่อเป็นการระบายไล่ความร้อนที่สะสมในห้องออกไป แล้วรับอากาศบริสุทธิ์ภายนอกเข้ามาแทน จะช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น และช่วยให้รู้สึกสบายตัว8.ปิดประตู-หน้าต่างระหว่างเปิดแอร์
ทุกครั้งที่เปิดใช้งานแอร์ ควรปิดประตู หน้าต่าง หรือช่องลมต่างๆ ให้สนิท ป้องกันอากาศร้อนและความชื้นจากภายในไหลเข้ามาในห้อง ที่จะทำให้ห้องร้อนขึ้นและมีความชื้นสูง ส่งผลให้แอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิห้องลงและไล่ความชื้นในห้องออก9.ลดความชื้นในห้อง
ไม่ควรปลูกต้นไม้ หรือตากผ้าไว้ภายในห้องที่เปิดแอร์ เนื่องจากจะมีความชื้นสะสมอยู่ในห้องสูง ส่งผลให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อไล่ความชื้นออก10.เปิดแอร์เฉพาะห้องที่ใช้งานเท่านั้น
หลายคนติดนิสัยเปิดแอร์ทิ้งไว้ก่อน แล้วค่อยเข้าไปใช้งานในห้องภายหลังหรือเปิดแอร์ไว้หลายๆ ห้องโดยที่ไม่มีคนใช้งานในห้องนั้น ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุรู้จักวิธีใช้งาน แล้วอย่าลืมบำรุงรักษาแอร์กันด้วยนะคะ แอร์จะได้อยู่กับเราไปนานๆ เช่น หมั่นทำความสะอาด ดูดฝุ่นแผ่นกรองอากาศ หรือจะเรียกช่างแอร์มาล้าง ทำความสะอาดแอร์ทุกๆ 6 เดือน หากพบว่ามีจุดหรือรอยรั่ว ต้องรีบแก้ไขนะคะ แอร์จะได้ทำงานได้อย่างประสิทธิภาพและประหยัดไฟค่ะ
ได้ทราบเทคนิคง่ายๆ ในการเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ โดยไม่กินไฟกันไปแล้ว ลองนำไปปฏิบัติดูนะคะ แล้วลองไปดูผลลัพธ์ตอนสิ้นเดือนว่า ค่าไฟเดือนนี้จะยังแพงกระฉูดเหมือนเดิม หรือลดลงบ้าง
ที่มา : กระทรวงพลังงาน